"ไม่เจอ!!..ไม่เจอ!!..ไม่เจอ!!...ทำไม!!...พวกแกพูดเป็นแค่นี้ใช่ไหม กี่วันแล้วห๊ะ!..แค่คนคนเดียวทำไมหาไม่เจอสักที...ระเบิดสมองทิ้งเสียให้หมดดีไหมไอ้พวกงี่เง่า...ออกไป๊!!...ไปหาจนกว่าจะเจอถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก...โธ่โว้ย!!...."เสียงตวาดเกรี้วกราดไม่พอใจแบบนี้ดังติดต่อกันมาหลายวันนับตั้งแต่เรนหายไป จอนนี่ทั้งอาละวาดและดุด่าทุกคนที่เข้าใกล้จนไม่มีใครเข้าหน้าได้ติด
"นายครับ..."เสียงเรียกทำให้ชายอารมณ์เสียหันมาหน้าตาบึ้งตึงอย่างพร้อมจะเอาเรื่องกับทุกคนที่ทำอะไรขัดใจ
"อะไร??...."อาการขู่ตะคอกกลับมาทำให้คนฟังต้องลอบถอนใจเบาๆ
"คนของคุณคิมิโกะโทรมาครับ....."ตอบพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ก่อนถอยออกไปห่างๆแต่เสียงบ่นก็ยังดังมาให้ได้ยิน
"จะโทรมาทำบ้าอะไรนักหนาวะ...น่ารำคาญ..."
และจอนนี่ก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆรำคาญ น่าเบื่อ ผู้หญิงคนนั้นทำตัวอ่อนหวานอ่อนโยนเป็นคุณหนูอ่อนต่อโลกทั้งๆที่ก็รู้กันอยู่ว่าหล่อนโชกโชนมาแค่ไหนแต่สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่แกล้งโง่ทนฟังทนดูสิ่งที่หล่อนแสดงจะว่าไปเขากับหล่อนก็ตอแหลพอกันแต่ถ้าต้องทำทุกวันเขาก็คงทนต่อไปไม่ไหว...พาลจะอ้วก
"สวัสดีครับ...."จอนนี่สูดลมหายใจยาวก่อนกรอกเสียงตอบกลับไปเสียงเรียบ
"ทำไมรับสายช้าจังเลยค่ะ...ทำงานอยู่เหรอค่ะ...พักผ่อนบ้างนะคะมิโกะเป็นห่วง..."เสียงหวานดังมาตามสายแต่ทำให้คนฟังแบะปากอย่างเบื่อหน่าย
"ครับ...ขอบคุณ...คุณมีอะไรหรือเปล่าตอนนี้ผมมีงานคุยไม่ค่อยสะดวก...."
"งั้นเย็นๆออกมาเจอกันหน่อยได้ไหมค่ะ...คุณพ่ออยากเชิญคุณมาร่วมงานเปิดตัวสินค้าอาทิตย์หน้ามิโกะเลยอาสาโทรมาชวนคุณให้เราจะได้ทานข้าวด้วยกัน...นะคะ พี่โคกะก็อยากพบคุณสักครั้ง...."
"ครับ...แล้วผมจะไป...."จอนนี่รับคำด้วยความเต็มใจแต่ไม่ใช่เพราะงานเปิดตัวสินค้าบ้าบออะไรนั่นแต่เพราะชื่อของ โคกะ อายามิ การได้เข้าใกล้หมอนี่มีค่าพอให้เขาทนพะอืดพะอมกับการต้องคอยเอาใจยายคิมิโกะ.....
.....................................................
ลีรอยชงักก่อนขมวดคิ้วไม่แปลกที่เหล่าบรรดาลูกน้องเขาจะจับกลุ่มคุยกันเมื่อรอเจ้านายทำธุระแต่ร่างสูงที่ยืนหันหลังให้เขาทำให้รู้สึกสะดุดตาอาจเพราะผมสีเงินที่ดูจะโดดเด่นแม้เจ้าตัวจะใช้หมวกไหมพรมสีเข้มสวมไว้แต่ส่วนที่โผล่ออกมาระต้นคอทำให้น่าสนใจ
"บอส...."เสียงทักทายทำให้ทุกคนสลายตัวเข้าทำหน้าที่แต่สายตาของลีรอยยังมองตามร่างสูงที่เดินรวมตัวกับทุกคนห่างออกไปอย่างสนใจ
"เด็กใหม่เหรอ....ทาเคชิ..."คำถามเรียบๆทำให้คนสนิทเลิกคิ้วก่อนหันมอง
"อ่อ...เพื่อนของชินน่ะครับบอส..."ทาเคชิตอบเบาๆอย่างไม่ใส่ใจ
"ไว้ใจได้หรือเปล่า...มีใครตรวจสอบหรือยัง...."คำถามนั้นทำให้ทาเคชิมองเจ้านายอย่างแปลกใจเพราะไม่บ่อยนักที่ลีรอยจะสนใจเรื่องพวกนี้
"แค่เด็กหนุ่มบ้านแตกน่ะครับ....ชินมันบอกเป็นเพื่อนกันเขามาขออยู่ด้วยแต่ถ้าบอสคาใจผมจะให้ใครตรวจสอบดู..."
"ชั่งเถอะ...ก็แค่อยากให้ระวังช่วงนี้มีหลายอย่างที่เราต้องทำฉันไม่อยากพลาดเพราะพวกหนอนที่พวกแกปล่อยปละละเลยให้ชอนไชเข้ามา..."ลีรอยเอ่ยเตือนเรียบๆก่อนก้าวขึ้นรถ
"วางใจเถอะครับ....พวกเราจะระวัง..."ทาเคชิตอบก่อนปิดประตูรถให้เจ้านาย เขาคงต้องสอบถามชินเกี่ยวกับหมอนั่นอีกครั้ง จะยังไงก็คงต้องระวังไว้ก่อน
........................................
ริคคาโดหลบตาคนที่นั่งเอนๆอยู่ตรงหน้าก่อนลอบระบายลมหายใจเบาๆมองดูท่านั่งสูบบุหรี่สบายๆของลีรอยอย่างไม่สบายใจเพราะสายตาที่มองมาแข็งกร้าวดุดันขัดกับท่าทางสบายๆที่อีกฝ่ายกำลังแสดงอยู่
"เด็กนั่นกลับมานานเท่าไหร่แล้ว....ริคกี้..."คำถามเรียบๆที่ถามมานั้นราวกับจะชวนคุยธรรมดาๆแต่จนแล้วจนรอดริคคาโดก็ไม่หาญกล้าสบตาแข็งกร้าวคู่นั้น
"ก็...แค่สองสามวันเท่านั้น ฉันก็คิดอยู่ว่าจะไปบอกนายด้วยตัวเองจะได้พาทิมมี่ไปพบนายด้วยไง..."
"แค่สองสามวัน...งั้นเหรอ??...แล้วนายก็เก็บเงียบทำทองไม่รู้ร้อน...นายเคยรู้อะไรไหมริคกี้หลายอย่างเกิดความผิดพลาด....คนของฉันเปิดเซฟของทิมโมธีได้แล้ว...แล้วมันก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น...สมุดบัญชีลูกค้าพิเศษของฉันที่แกบอกว่าทิมโมธีให้คนของมันใส่เซฟไว้ในห้องนอน....แต่มันไม่ได้อยู่ที่นั่นเคยสงสัยหรือเปล่าว่ามันหายไปไหน...."ตอนท้ายลีรอยตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
"ฉัน...ก็ฉันได้ยินทิมสั่งให้ลูกน้องเอามันไปเก็บที่นั่นจริงๆ...ของสำคัญส่วนใหญ่ทิมมันไม่ค่อยไว้ห่างตัวและเซฟพิเศษในห้องนอนก็เป็นที่ที่ทิมใช้เก็บของสำคัญ....มีแค่ทิมกับลูกน้องคนสนิทอีกแค่สองคนที่รู้รหัสแม้แต่ฉันหมอนั่นมันยังไม่ยอมบอกเลย...."
"แต่ในนั้นไม่มีอะไรเลยมีแค่เงินสดกับเอกสารอีกสองสามแผ่นเท่านั้นซึ่งมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลยด้วย....แต่มีบางอย่างที่ลูกน้องฉันเจอแต่คนงี่เง่าอย่างแกไม่เคยรู้อะไรเลย...."ลีรอยเค้นเสียงออกมามองหน้าชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจถ้าเพียงแค่มันไม่เหลือประโยชน์เขาคงเชือดมันทิ้งให้สาสมกับความโง่เง่าแต่อวดฉลาดของมัน
"อะ...อะไร..."ริคคาโดถามเบาๆรับรู้ได้ถึงพลังของโทษะของอีกฝ่ายที่ส่งมาถึงเขา
"อีริค....คนที่เข้าห้องทิมโมธีก่อนพวกเราคืออีริค...แล้วแกต้องให้ฉันอธิบายหรือเปล่าว่าอีริคถ่อสังขารมาปีนบ้านคนอื่นกลางดึก...เพื่ออะไร...."
"มันจะเป็นไปได้ยังไง??....."ริคคาโดอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อถือ
"คนที่ต้องถามประโยคนี้มันน่าจะเป็นฉันมากกว่า....แล้วแกรู้ไหมว่าถ้าไอ้อีริคมันรู้ถึงความสำคัญของรายชื่อที่มันได้ไปอะไรจะเกิดขึ้นกับแผนการของฉัน....."ลีรอยตะคอกกลับมาตาลุกวาว
"ละ...แล้วจะให้ฉันทำยังไง...ฉันก็บอกนายไปหมดในสิ่งที่ฉันรู้...ฉันทำทุกอย่างที่นายสั่งให้ทำ....ถ้าจะผิดพลาดมันก็ไม่ได้เป็นเพราะฉัน..."ริคคาโดตัดสินใจลุกขึ้นมาขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจพอกันเขาไม่ใช่ลูกน้องหรือเด็กในแก๊งที่ลีรอยจะมายืนตะคอกด่าเขาปาวๆถ้าใครมาเห็นเข้าคนอื่นจะมองเขาเป็นตัวอะไร
"นั่นสินะ....เอาเถอะฉันขอโทษแล้วกันที่อารมณ์เสียใส่นาย...ตอนนี้ใหนลองเรียกเด็กนั่นมาดูหน้าหน่อยสิ....ทำไมนายถึงได้หวงมันนัก...."ลีรอยถอนใจก่อนสงบอารมณ์แล้วนั่งลง
"แต่...."ริคคาโดอึกอัก...เขาไม่ไว้ใจลีรอยนักหมอนี่เคยคิดเก็บทิมมี่ และเคยลงมือทำไปแล้วครั้งหนึ่งด้วย
"เถอะน่าริคกี้....ฉันไม่ทำอะไรหรอกแค่อยากรู้จักหน้าค่าตาไว้เท่านั้น...ต่อไปเรายังต้องทำงานร่วมกันฉันไม่ทำอะไรที่นายไม่ชอบหรอกน่า..."ลีรอยเอ่ยเบาๆพร้อมรอยยิ้มมุมปากอย่างรอมชอมทำให้ริคคาโดไม่มีทางเลือกได้แต่โบกมือเรียกลูกน้องเข้ามาหา
"ไปตามคุณทิมมี่มาพบฉันที่นี่หน่อยสิ...."
"ครับ...."โค้งคำนับรับคำก่อนถอยออกไปทำตามคำสั่ง
*****นานอีกแล้วที่หายไป....แต่ชีวิตที่ยังต้องดำเนินไปบางครั้งความยุ่งเหยิงวุ่นวายก็ทำให้หลงลืมแต่เมื่อกลับมาเห็นคำว่ารอก็ทำให้ได้กำลังใจมากมาย....ขอบคุณและขอโทษที่ทำให้รอ.....รักนะคะ***choice***