"เมล กาย่า...เจ้าทำอะไรพวกนาง...."นาคีมองดูลูกแก้วสีน้ำเงินที่ห่อหุ้มร่างเมลและมิกาย่าไว้ก่อนถามเมฆาด้วยนำ้เสียงไม่พอใจ
"ทำอะไรพวกนาง...งั้นเหรอ ใครจะไปทำอะไรพวกนางได้มีแต่พวกนางจะทำตัวเองยายเด็กประหลาดนั่นมันเป็นแม่มดเจ้าไม่รู้หรือไงนาคี เจ้ามันใจดีไม่เข้าท่าเจ้าเอาตัวนางเข้ามาในหมู่บ้านทำให้เกิดเรื่องร้ายๆใครๆก็รู้แม่มดคือตัวต้นเหตุของสิ่งชั่วร้าย...นางจึงนำสิ่งเลวร้ายมาสู่ชีวิตเจ้า..."
"ไม่จริง!!...เป็นเจ้าต่างหากที่นำสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในหมู่บ้าน เสียแรงที่ข้ารักเอ็นดูเจ้า...แต่เจ้ากลับทรยศพวกเราทุกคน..."นาคีหันกลับมามองหน้าน้องชายด้วยสายตาเจ็บปวด
"แล้วไง..ถึงตอนนี้ใครสนใจกันว่าหมู่บ้านบ้าๆกับนักล่าโง่ๆพวกนั้นจะเป็นยังไง เจ้าเองก็เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมนาคี...แล้วค่อยพล่ามถึงคนอื่น...."เมฆาเอ่ยออกมาด้วยนำ้เสียงเยาะเย้ยเขารู้ดีตราบใดที่เขามีนาคีอยู่ในอุ้งมือเหล่านักล่าที่รายล้อมอยู่ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเขาได้...
"เมฆา...มันยังไม่สายหรอกนะ เจ้าปลดปล่อยวิหารศักสิทธ์แล้วกลับตัวเสียเถอะ..."นาคีบอกน้องชายด้วยนำ้เสียงวิงวอน
"กลับตัวเหรอ....กลับไปเป็นตัวอ่อนแอที่ไร้ประโยชน์เหมือนเมื่อก่อนงั้นเหรอ...เจ้าใช้อะไรคิดกันว่าข้าจะโง่พอที่จะทำแบบนั้นตอนนี้สิ่งที่ข้าต้องการคือฆ่าเจ้า แล้วทำลายหมู่บ้านนักล่าซะชีวิตใหม่ของข้าจะได้ไม่มีใครมาคอยรบกวน พวกนักล่าอย่างพวกเจ้ามีไปก็ไร้ประโยชน์...พร้อมจะตายหรือยังเล่า...พี่ข้า"สิ้นคำพูดเมฆาก็แยกเขี้ยวอ้าปากเป้าหมายคือลำคอของพี่ชาย
นาคีเอียงตัวหลบก่อนก้มลงดึงมีดสั้นที่ซ่อนไว้ที่สายรัดขาแทงสวนเข้าข้างลำตัวเมฆาอย่างรวดเร็วขณะอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
"อ๊ากกกกกก!!!..."เมฆาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มีดเหล็กเล่มเล็กที่มีด้ามเป็นไม้ศักสิทธิ์เกะสลักลายสวยงามทำให้เขาปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัวชายหนุ่มก้าวถอยหลังเซซังอย่างไร้เรี่ยวแรงเป็นจังหวะเดียวกับที่นักล่าทุกคนยกปืนเล็งไปหาเขาเตรียมลั่นกระสุนสังหาร
"อย่า!!...,อย่ายิง!..."นาคีร้องห้ามทุกคนเสียงดัง แต่ช้าไปเมื่อไทก้าเหนี่ยวไกออกไปแล้ว
"ปัง!!...ปัง!!..."
"ท่านแม่!!.../ท่านน้า!!.."เมฆากับนาคีร้องเรียกบุหลันออกมาพร้อมกันเมื่อกระสุนของไทก้าเจาะเข้าเต็มกลางหลังบุหลันที่โผออกมาเอาตัวบังเมฆาไว้และที่สำคัญนางตามทุกคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้
"เม..ฆา...."มือบางสั่นระริกเอื้อมไปหาลูกชายอย่างห่วงใย
"ท่าน...แม่..."เมฆาอุทานก่อนตะหวัดตามองไทก้าอย่างโกรธจัดแต่ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือเอาตัวเองให้รอดก่อน
"ท่านน้า!!...."นาคีรีบเข้ามาช้อนร่างบางของแม่เลี้ยงขึ้นอย่างห่วงใย
"นา...คี น้องล่ะ...เมฆาอยู่ไหน..."บุหลันถามนาคีเสียงกระท่อนกระแท่นก่อนกระอักเลือดออกมา
"ท่านน้า!!...."
"ช่วย...เมฆาด้วย...ช่วย...ด้วย..."แม้กำลังจะสิ้นลมหายใจแต่ความเป็นแม่ก็ทำให้อดห่วงลูกชายไม่ได้ผิดกับลูกชายที่อาศัยช่วงที่ทุกคนตะลึงและคาดไม่ถึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเร้นกายหนีออกไปเงียบๆ
"ท่านน้า!!..."นาคีอุทานเสียงแผ่วก่อนถอนใจส่ายหน้าให้ไทก้าบอกให้รู้ว่าบุหลันได้จากไปแล้ว
"ท่านเมฆาหนีไปแล้ว...."ใครบางคนร้องขึ้นทำให้ทุกคนเริ่มขยับ
"ไม่ต้องตาม...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็สว่างแล้วเขาบาดเจ็บไปได้ไม่ไกลหรอก....."นาคียกมือห้ามทุกคนไว้
"ข้าก็คิดว่าเขาคงไปไม่ไกลแล้วทำไมเราไม่ตามเขาไปละครับ...ท่านนาคี..."ไทก้าถามออกมาอย่างสงสัยกับการตัดสินใจของนาคี
"เพราะถึงเราจะจับตัวเขาได้...เราก็ปลดปล่อยวิหารศักสิทธิ์ไม่ได้ ต้นเหตุไม่ได้อยู่ที่น้องข้า...เขาก็แค่หลงผิดเพราะความโลภหลงบังตาโดยไม่รู้ว่าตัวเองก็แค่ถูกหลอกใช้..."นาคีเอ่ยออกมาอย่างใจเย็นและมีสติขึ้นเขาวางร่างบุหลันลงก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกแก้วสีนำ้เงินช้าๆ
"ก็นับว่าเพื่อนเจ้าฉลาดไม่เลวเลยนะ....โจน..."เสียงเรียบๆที่เอ่ยขึ้นมาข้างหลังทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันอย่างตกใจ....โจนและใครอีกคนที่พวกเขาไม่รู้จักยืนอยู่ที่นั่น
"โจน...เจ้าปลอดภัยดีใช่ไหม..."ไทก้ายิ้มกว้างหายใจโล่งอกเมื่อเอ่ยทักโจนออกมาอย่างดีใจ
"ข้าไม่เป็นไร...เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง..."โจนตอบไทก้าเมื่อก้าวยาวๆไปหาลูกแก้วสีนำ้เงินขนาดใหญ่ที่นาคีกำลังลูบคลำอยู่
"ข้าก็ไม่รู้...แต่ลูกแก้วนี่แข็งมาก...."นาคีหันมาตอบโจนด้วยสายตากังวล
"แปลกจัง...พวกนางเข้าไปอยู่ในลูกแก้วได้อย่างไรกัน..."โจนเดินวนเวียนไปรอบๆอย่างไม่เข้าใจพอกัน
"มันเรียกว่าบลูมูน...เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดขณะเดียวกันก็เป็นกรงขังที่ยากจะหลบหนีเช่นกัน..."เทโรเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาสมทบ
"พ่อรู้จักมันเหรอ..."โจนหันกลับมาถามอย่างตื่นเต้น
"ก็พอรู้....พระจันทร์สีนำ้เงินเกิดจากเวทมนต์ของแม่มดที่มีความแข็งแกร่งบวกกับหมอกควันมรณะของแม่มดแห่งอารายันยากที่ใครจะทำลายได้..."
"แล้วเราจะนำพวกนางออกมาได้ยังไง..."นาคีถามออกมาอย่างร้อนใจ
"ต้องให้คนที่สร้างมันขึ้นมาเป็นคนสลายมันหรือไม่ก็ใช้แม่มดที่มีเวทย์มนต์และพลังที่แก่กล้าพอจึงจะสลายพลังของบลูมูนได้..."เทโรบอกเล่าช้าๆก่อนนาบมือลงไปบนลูกแก้วสีนำ้เงินแล้วหลับตาก่อนขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ แม้ร่างกายจะไม่ใช่แต่เขาสัมผัสความรู้สึกได้ใช่นางจริงๆ...เสตลล่า มิกาย่า
"ท่านหมายความว่ายังไง...แล้วเราจะไปหาแม่มดที่ท่านว่าได้ที่ไหน...."นาคีถามเทโรอย่างไม่เข้าใจ ก็แม่มดคนสุดท้ายถูกราชินีแวมไพร์ฆ่าตายไปเป็นพันปีผ่านมาแล้วไม่ใช่เหรอ
"ก็อย่างที่บอก...บลูมูนเป็นอาวุธเฉพาะของเหล่าแม่มดแห่งอารายัน นอกจากสายเลือดพวกนางคนอื่นก็คลายผลึกนี้ไม่ได้....เลธีกำลังมาแล้ว..."เทโรตอบก่อนเผยอยิ้มเปลี่ยนเรื่องคุยมองผ่านหน้าซีดเผือดของนาคีไปราวกับไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ
"พ่อ...แล้วท่านช่วยพวกนางไม่ได้เหรอ...."โจนถามมองหน้าเทโรอย่างมีความหวัง
"ข้าไม่ใช่แม่มดช่วยพวกนางไม่ได้หรอก...ข้าเป็นแค่แวมไพร์แก่ๆท่ีถูกเจ้าสูบเลือดจนหมดแรง แล้วตอนนี้ข้าก็หิวแล้วด้วย..."เทโรตอบก่อนกวาดตามองเหล่านักล่าที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนโปรยยิ้มหวานแต่คนได้รับรอยยิ้มกลับกลืนนำ้ลายถอยห่างอย่างขยาด
"พวกเจ้า!!...มีใครว่างพอจะเป็นอาหารให้ข้าได้หรือเปล่า??..."คำถามพร้อมรอยยิ้มนั้นทำให้เหล่านักล่าถอยกรูดพร้อมส่ายหน้าไปตามๆกัน
"เจ้าเลิกล้อเล่นแบบไม่มีมารยาทแบบนั้นเสียที....เทโร..."เสียงเข้มดุดังขึ้นพร้อมเงาร่างของแวมไพร์ราชันย์และอีธานพ่อบ้านที่ซื่อสัตย์ของเขา
"เลธี...ในที่สุดเจ้าก็มาซะที...ได้ตัวนางหรือเปล่า..."เทโรยิ้มกว้างทักทายผู้มาใหม่ เลธีไม่ตอบแต่เป็นอีธานที่ผลักร่างฮาน่าลงบนพื้นพร้อมผู้ติดตามสามคนของนาง
"นางคือคนควบคุมค้างคาว...."โจนบอกนาคีอย่างจดจำนางได้
"ใช่...แล้วนี่ก็ใกล้สว่างแล้วควรจัดการทุกอย่างให้จบๆไปเสียที...ข้าหิวแล้ว ..."เทโรเอ่ยออกมาเมื่อนั่งลงบนโขดหินริมผนังถ้ำ