หลายครั้งที่ความรู้สึกข้างในกลับสวนทางกับสิ่งที่แสดงออก
ไม่แปลก หากว่าคนที่ร่าเริงสดใสอย่างเขาจะมีจุดมืดมิดในจิตใจ ไม่ต่างอะไรกับท้องฟ้ายามไร้ซึ่งแสงตะวันเช่นนี้
"มานั่งทำอะไรตรงนี้"
เสียงคุ้นเคยเอยขึ้นจากด้านหลัง ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างกันที่หนองน้ำริมสวนองุ่นเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
"นั่งคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ"
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นนิ่มๆทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่พระจันทร์นวลและหมู่ดาวบนท้องฟ้า ผู้มาใหม่ไม่เอ่ยอะไรหากแต่ปล่อยให้ความเงียบและสายลมทำหน้าที่ของมัน
"ถ้ารู้สึกไม่ดีก็แค่ปล่อยมันไปบ้าง"
โมมิเคนเอ่ยขึ้นราวกับรู้สิ่งที่อยู่ในใจของอีกฝ่ายแม้ไม่ได้เอื้อนเอ่ย แต่เขารับรู้ได้ถึงความเศร้าเจือปนออกมา
"รู้ดีตลอดเลยนะ"
"ทำมาว่า อิเคก็ไม่ต่างกันแหละ"
บทสนทนาที่เรียบง่าย หากแต่สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย
ลูกชายเจ้าของสวนองุ่นละสายตาจากคู่สนทนาจ้องมองพระจันทร์สุกใสบนท้องฟ้า สายตาที่อ่านได้สัมผัสได้ถึงจิตใจที่มัวหมองขัดกับผืนฟ้ากระจ่างในคืนนี้"นายจะเข้าใจมั๊ยไม่รู้ตอนที่รู้สึกว่าในใจตัวเองมืดเหลือเกิน มืดจนฉันไม่เข้าใจว่าคนที่ทุกคนบอกว่าเป็นแสงสว่างให้คนอื่นกลับรู้สึกว่าตัวเองมืดมนขนาดนี้ได้ยังไง"
อยู่ๆอิเคก็พูดขึ้นทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่บนฟ้า ความรู้สึกข้างในยากจะอธิบาย
"พระจันทร์น่ะ ไม่ได้สว่างตลอดเวลาหรอกนะ ส่วนใหญ่ก็สว่างเพราะแสงจากดวงอาทิตย์"
"...."
"ต่อให้พระจันทร์สุกใสแค่ไหนก็ยังมีคืนเดือนมืดที่ไม่เห็นแสงจันทร์เลยจริงมั๊ย ก็เหมือนกัน สดใสยิ้มแย้มแค่ไหนมันก็ต้องเศร้ากันบ้าง แต่นายยังไงก็ยังเป็นนาย เหมือนที่พระจันทร์ยังคงเป็นพระจันทร์"
YOU ARE READING
[OS/SF] IKExMOMIKEN (SPYAIR)
FanfictionThere is nothing. Just me and you.. ปล.จำนวนปีในแต่ละเรื่องไม่เท่ากันนะคะเพราะตอนที่เริ่มเขียนเรื่องแรกรู้แค่ทั้งสองรู้จักกันตอนม.ปลาย หลังจากนั้นถึงได้รับข้อมูลเพิ่มเป็นตั้งแต่ม.ต้น และตั้งแต่ประถมตามลำดับ(ล่าสุดอิเคบอกว่าเจอกันตั้งแต่7ขวบ) ขออภัย...