Eclipse (แปล) | Harry Potter...

By Mainn_

44.9K 483 137

"นายตายแน่พอตเตอร์... คราวนี้ฉันจะเอาคืนให้สาสม" เดรโกปฏิญาณไว้แล้วว่าจะคิดบัญชีกับแฮร์รี่เหตุที่... More

บทที่ 2 บทเรียนแห่งอำนาจ
บทที่ 3 ชาขม
บทที่ 4 ภาระหน้าที่
บทที่ 5 ไม่มีอะไรจะเสีย
บทที่ 6 การสนทนาพาหวั่นใจ
บทที่ 7 ชั่วโมงมืดมน
บทที่ 8 สะพานติดไฟ เส้นด้ายกวัดแกว่ง
บทที่ 9 บทสลับฉาก
บทที่ 10 การไล่ล่า
บทที่ 11 ความจริงในสิ่งลวง
บทที่ 12 เทือกภูเขาเนาโตรกธาร
บทที่ 13 เปิดใจ
บทที่ 14 จุดผกผัน
บทที่ 15 กระบวนวิธีและการเสียสละ

บทที่ 1 ผู้ล่าและผู้ถูกล่า

8.3K 91 8
By Mainn_




บทที่ 1 ผู้ล่าและผู้ถูกล่า

                  เฉลียงทางเดินของฮอกวอตส์ในช่วงกลางวันนั้นน่าสนใจเพียงใด ยามค่ำคืนก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่นใจเสียเท่าไหร่ แผงผนังประกายสลัว ๆ ด้วยแสงเรือง ๆ ของเวทมนตร์ที่หลงเหลืออยู่ ม่านความมืดปกคลุมทุกสรรพสิ่งที่ไม่ต้องกับแสง บ่งบอกว่ายังมีบางสิ่งซุกซ่อนอยู่ในมุมมืด คืนนี้มันกำลังจะกลายเป็นจริง

เดรโก มัลฟอย ไม่ได้แยแสอะไรกับทัศนียภาพอันโอ่โถงของฮอกวอตส์ยามค่ำเลยแม้แต่น้อย เขาทิ้งคุกใต้ดินไว้เพื่อออกมาทำภารกิจที่เฝ้ารอมานานและคำสัญญาแห่งการแก้แค้น ในช่วงก่อนหน้านี้หลังเลิกเรียนวิชาปรุงยา เขาแอบขโมยการบ้านวิชาปรุงยาของพอตเตอร์ออกมาจากประเป๋าซึ่งมีกำหนดส่งกำหนดส่งพรุ่งนี้ และหากพอตเตอร์อยากมีโอกาสที่จะผ่านวิชานี้ไปได้ เขาจำเป็นที่จะต้องตามหามัน และเมื่อเขามา เดรโกก็คงจะรอเขาอยู่แล้ว มันง่ายนิดเดียว ง่ายแสนง่ายทว่าเด็ดขาดและแยบยล ตอนนี้ที่เขาต้องทำก็เพียงแค่รอเท่านั้น

                 เขาชำเลืองมองผ่านเงามืด พยายามจับหาสัญญาณการเคลื่อนไหวจากรูปวาดใบใหญ่ที่แขวนอยู่อย่างสง่าแน่นิ่งบนผนัง ซึ่งแบ่งหอกริฟฟินดอร์ออกจากส่วนที่เหลือของฮอกวอตส์ เขาพยายามเงี่ยหูฟังเท่าไหร่ก็ได้ยินเพียงจังหวะเสียงกรนของสุภาพสตรีอ้วนดังแผ่วเบาออกมาจากกรอบรูปของเจ้าหล่อนเท่านั้นนอกเหนือไปจากนั้นเสียงที่มีให้ได้ยินมีแค่เสียงกระตุกของชีพจรในโสตประสาทของเขาเอง

                  เดรโกทรงตัวอยู่บนปลายเท้าอย่างระมัดระวังพลางใช้มือข้างหนึ่งพยุงไว้ เขาระวังตัวไว้มากทีเดียว ชายหนุ่มไม่เคยเตรียมพร้อมอะไรรอบคอบขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขาดื่มน้ำยาที่ไม่ทำให้ตนง่วงนอนเพื่อให้สามารถรอได้ทั้งคืนโดยไม่มีการลังเลหากจำเป็น การเป็นนักเรียนคนโปรดของสเนปก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย มันทำให้เขาสามารถเข้าไปใช้น้ำยาต่าง ๆ ได้ สิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อของเขาคือจี้สร้อยพิเศษที่พ่อเขากำชับให้ใส่ระหว่างการทำภารกิจนี้ มันจะช่วยให้เวทมนตร์ใด ๆ ก็แล้วแต่ที่ร่ายใส่เขาไร้ผล และมันจะอำพรางเขาจากการค้นหาด้วยเวทมนตร์จนกว่าเขาจะพาตัวพอตเตอร์จะออกไปจากฮอกวอตส์ได้ นอกจากนี้ทักษะและการหลบซ่อนของเขาก็ยังช่วยให้พ้นจากการค้นหาอื่น ๆ อีกด้วย เขาเอื้อมมือลงไปอย่างช้า ๆ สัมผัสกับด้ามมีดสั้นที่เสียบไว้ในฝักปักตรงเข็มขัดซึ่งถูกซ่อนไว้อย่างดีภายใต้เสื้อคลุม ใบมีดถูกเคลือบด้วยน้ำยาแช่แข็งที่เขาปรุงขึ้นมาเอง น้ำยาสูตรนั้นทำให้เขาได้คะแนนสอบ ว.พ.ร.ส. สูงสุดในชั้น และตอนนี้มันกำลังจะทำให้เขาได้ตัวพอตเตอร์

               ฉับพลันเสียงขลุกขลักบางอย่างทำให้เขากระพริบตาแต่แค่เท่านั้นไม่ได้แสดงอาการอย่างอื่นออกมามากกว่านี้ กรอบภาพวาดไหวแง้มเปิดออกจากผนังเล็กน้อยพร้อมส่งเสียงดังเอี๊ยด ส่งผลให้สุภาพสตรีอ้วนขยับตัวแต่ไม่ถึงกับตื่น แล้วรูปวาดก็ค่อย ๆ กลับคืนไปที่บนผนังดังเดิม มันปรากฏแก่สายคนมองโดยบังเอิญหากแต่ไม่มีใครโผล่ออกมา


                  เดรโกคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อเข้าใจว่าพอตเตอร์พกผ้าคลุมล่องหนมาด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับเดรโก ที่จริงมันช่วยเขาด้วยซ้ำ พอตเตอร์จะได้มั่นใจมากขึ้นเมื่อเขาซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมดังที่ทำอยู่ และแน่นอนว่าเขาจะระวังตัวน้อยลง เหยื่อที่ไม่ระวังย่อมง่ายที่จะติดกับ

                   เขาได้ยินเสียงรองเท้าเดินด้อม ๆ บนพื้นหินและเสียงสะบัดของผืนผ้าในมวลอากาศนิ่งสนิท นักล่าฝีมือดีก็รู้ทันทีว่าเมื่อไหร่และที่ไหนควรจะเข้าจู่โจม ตามหลักวิวัฒนาการที่ว่าผู้ที่แข็งแกร่งว่าถึงจะอยู่รอด เมื่อแน่ใจแล้วว่าเมื่อไหร่ต้องรอ เมื่อไหร่ต้องเข้าขู่ เมื่อไหร่ต้องวิ่ง และเมื่อไหร่ต้องสังหาร เขาจะตามพอตเตอร์ไปยังที่ที่เหมาะ ๆ และจากนั้นค่อยโจมตี พอตเตอร์ดูเหมือนจะพบว่าตนกำลังจะตกลงไปอยู่ส่วนล่างของห่วงโซ่อาหารเสียแล้ว

                  ในระหว่างนั้นแฮร์รี่สบถคำก่นด่าอยู่ในใจ หลังจากตัดพ้อกับความซวยของตนเอง จนได้วนมาพบกับทางเลือกที่คิดว่าดีที่สุดอีกครั้ง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้มาทำอะไรแบบนี้ จากเรื่องโชคร้ายทั้งหมดทั้งมวล นี่เขาทำการบ้านวิชาปรุงยาหายได้ยังไงกัน วิชาอื่นก็มี เวลาอื่นก็มี แล้วทำไมมันต้องเป็นวิชาปรุงยาที่ต้องส่งพรุ่งนี้ด้วย มิหนำซ้ำ นี่มันเพิ่งจะเป็นงานชิ้นแรกของปีน่ะสิ! 

                  เขาสาบานได้เลยว่าเขาใส่มันลงไปในกระเป๋าเรียบร้อยแล้วหลังเรียนเสร็จ แต่เย็นวันนี้ ตอนที่เขากับรอนเทหนังสือออกมาหน้าเตาผิงเพื่อที่จะเริ่มทำการบ้าน มันกลับหายไปเสียดื้อ ๆ เขาต้องใช้เวลาทั้งอาทิตย์ในการเขียนรายงานหนาสิบสี่นิ้วนั่น และไม่มีทางเลยที่เขาจะเขียนมันเสร็จภายในเวลาคืนเดียว แทนที่เฮอร์ไมโอนี่จะเข้ามาช่วยเขาแต่เจ้าหล่อนกลับยืนกรานว่าให้นี่เป็นบทเรียนสำหรับเขาให้รักษาของของตนเองให้ดีและให้แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งก็นั่นแหละ เขาเลยต้องมาอยู่ที่นี่ ตามหาการบ้านเฮงซวยนั่น

                  เขาเดินเลี้ยวตรงมุมของโถงทางเดินเพื่อจะลงบันได แต่เกือบสะดุดบันไดขั้นแรกจนต้องเพิ่มศัพท์ใหม่ในเข้ามาในหมวดคำสบถด่าที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

                  ความมืดทำอะไรแฮร์รี่ไม่ได้ หลังจากผ่านการใช้ชีวิตวัยเด็กที่โดนกักในห้องใต้บันไดแคบ ๆ ที่ไม่ได้สว่างอะไรมากมายจนเขาเคยชินเสียแล้ว เงามืดที่ทาบทับทางเดินในฮอกวอตส์ตอนกลางคืนคืออาณาเขตที่เขาคุ้นเคย และเขาสามารถเดินผ่านมันไปด้วยความมั่นใจประหนึ่งว่าเป็นพื้นที่ของเขาเอง ถึงกระนั้นความขัดข้องใจที่มีต่อการบ้านวิชาปรุงยาและความไม่สบายใจที่ต้องออกมาจากที่นอนแสนอุ่นของตัวเองก็ทำให้เขาเป็นกังวลอยู่บ้าง คืนนี้เขาได้กลิ่นแปลก ๆ ว่าจะมีบางอย่างแอบอยู่ในเงามืดก็เป็นได้ ราวกับว่ามันหายใจอยู่ใกล้ ๆ เขา ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเขา คุกคามพื้นที่ของเขา

อย่าคิดมากน่า แฮร์รี่ เขาพร่ำบอกตัวเอง นายจะเสียสติเอาได้นะถ้ามัวแต่คิดอยู่อย่างนั้น แผนที่ตัวกวนไม่ได้บอกว่ามีใครอยู่ทางเดินนี่สักหน่อย ไม่มีใครอยู่ที่นี่หรอก รีบลงไปคุกใต้ดิน ตามหาการบ้านนั่น แล้วก็กลับไปนอนได้แล้ว

                  แฮร์รี่พยายามดึงความสนใจไปที่ภารกิจตน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคำก่นด่าเพิ่มขึ้นมาในหัวอยู่ร่ำไป เขารุดหน้าลงบันได ผ่านโถงทางเดินยาว มุ่งหน้าไปยังคุกใต้ดิน ไม่มีวี่แววของฟิลช์หรือคุณนายนอร์ริช พีฟส์หรือบาร์รอนเลือดเลย แฮร์รี่โอบรับเอาความเงียบ เช่นเดียวกับเดรโก 'หนุ่มน้อยล่องหนกับคนติดตาม'

                  เดรโกตามแฮร์รี่ไปโดยเว้นระยะห่างพอเหมาะราว ๆ สามสิบฟุต พลางค่อย ๆ สังเกตุตำแหน่งที่แฮร์รี่ยืนอยู่อย่างละเอียด แม้กระทั่งเสียงลมหายใจ เขาย่องตามไปอย่างแม่นยำด้วยปลายเท้า

                  ภายใต้คุกใต้ดินนี้แฮร์รี่ก็สิ้นฤทธิ์ ถึงคราเดรโกจะอยู่ในถิ่นของตัวเองบ้าง เดรโกรู้จักหินทุกก้อนที่ปูบนพื้น ทุก ๆ หย่อมเงา ทุกทางเข้าออก ทุก ๆ ซอกมุม ท่ามกลางความเงียบสงัด แฮร์รี่และเดรโกก็เดินผ่านโค้งที่จะพาทั้งสองเข้าสู่เขตหอพักสลิธีริน จากนั้นมุ่งตรงไปยังห้องเรียนวิชาปรุงยา เบื้องล่างคุกใต้ดินของสเนปนี้มีความสำคัญทางวิชาการอยู่น้อยมากจนแทบจะไม่มี โถงทางเดินพวกนั้นถูกทิ้งร้างเมื่อหลายปีที่แล้ว แต่เดรโกรู้สึกว่ามันชวนให้อยากไปสำรวจ การสำรวจของเขานำเขาไปยังทางผ่านเก่า ๆ ฝุ่นเขรอะเพราะไม่ได้ถูกใช้มานาน ณ ตอนนั้น การผจญภัยของเขาดูท่าจะมีประโยชน์กว่าเรื่องสนุกฆ่าเวลาอยู่ไม่น้อย และสิ่งที่ได้ทำมานี้กำลังจะพิสูจน์คุณค่าของมัน

                   เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาของพอตเตอร์ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องเรียนของสเนป เดรโกได้ยินเสียงปลิวของผ้าคลุมและเสียงแก๊กของกลอนประตูขณะที่พอตเตอร์พยายามจะเปิดมันก็แน่สิว่ามันล็อคอยู่ เจ้าโง่เอ๊ย สติปัญญาของพอตเตอร์ดูด้อยอยู่มากในการประเมินของเดรโก

                  อย่างไรเสียความล่าช้าคือสิ่งที่เดรโกต้องการ เขาเดินหลบมุมมาตามแนวผนังตรงข้ามกับประตูจนกระทั่งมาถึงข้างหลังของแฮร์รี่ ณ จุดนี้คืออารมณ์ที่สัตว์นักล่ารู้สึกได้เมื่อมันได้กลิ่นเหยื่อของมันและเตรียมตัวที่จะเข้าโจมตี พ่อของเขาคงจะพอใจน่าดูหากได้มาเห็นเขาตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ทำท่าประหนึ่งกรงเล็บบนอุ้งเท้าของราชสีห์ที่พร้อมจะฝังลงบนตัวเหยื่ออยู่รอมร่อ เดรโกจะได้เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้เสพความตายสักที เขาแทบไม่กล้าหายใจด้วยเกรงว่าจะพลาดท่าเสียที เขาค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้พอตเตอร์จากข้างหลัง

                  แฮร์รี่เอื้อมมือขึ้นไปจับลูกบิดประตูแล้วดึงออกมา หากแต่มันไม่ขยับเลย เขาออกแรงดึงอีกอยู่หลายครั้งก็พบว่าประตูยังคงล็อคอยู่ เขาชะงักด้วยรู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ แล้วพยายามคลำเสื้อคลุมหาไม้กายสิทธิ์ เขาได้ยินเสียงกรอบแกรบเบา ๆ อยู่เบื้องหลังเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนบางอย่างจะคว้าเอาเสื้อคลุมและสะบัดมันออกจากตัวเขา เขาพลันหันมาด้วยความตกใจพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาบังตัวเองไว้ด้วยสัญชาตญาณ

                  "มัลฟอย!" เขาอุทาน

                  เดรโกเยาะยิ้มใส่ "นายไม่ควรเดินเตร็ดเตร่แถวทางเดินยามวิกาลอย่างนี้นะพอตเตอร์ นายอาจโดนจับได้"

                  "แล้วนายมีสิทธิอะไรเหนือไปกว่าฉันมิทราบ" แฮร์รี่ตะคอกกลับ "นายคิดว่านายทำบ้าอะไรอยู่"

                  "ก็แค่การบ้านวิชาปรุงหานิดหน่อย" เดรโกล้วงลงไปในกระเป๋าเอาแผ่นกระดาษยับ ๆ ขึ้นมา "ดูคุ้น ๆ ไหม"

                  แม้มองผ่านม่านแสงสลัวในโถงทางเดิน แฮร์รี่ก็ตอบได้ทันทีว่านั่นมันคือลายมือลวก ๆ ของเขาเอง         เขาอ้าปากและงับลงในเวลาอันสั้นอย่างเงียบเชียบด้วยความตกใจและประหลาดใจระคนกัน ก่อนที่เขาจะประดังคำพูดออกมาในที่สุด "นายจะทำอะไรกับมัน ไม่มีคนอื่นที่นายจะเสียเวลาไปกวนแล้วรึไง"

                  มัลฟอยก้าวเข้าไปหาชายร่างเล็กกว่า จัดแจงท่ายืนให้ดูข่มขวัญมากที่สุด แฮร์รี่รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของมัลฟอยสัมผัสเรือนแก้ม เขาพยายามถอยหนี ฉับพลันยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นกว่าปกติเมื่ออยู่ใกล้หนุ่มสลิธีริน ทว่าผนังอยู่ติดกับหลังเขานี้เอง ปรากฏว่าเขาโดนตรึงอยู่ระหว่างมัลฟอยกับผนัง มัลฟอยแหยะยิ้ม และแฮร์รี่ก็ชี้ขาดได้ว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าอภิรมย์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา หากไม่นับโวลเดอมอร์

                    "นี่ฉันเสียเวลาอยู่เหรอพอตเตอร์" เขาถาม นัยน์ตาฉายแววประหลาด "แน่เหรอ ฉันว่าฉันมีเวลาที่ดีที่สุดอยู่ ไม่ได้เสียเวลาเลยล่ะ"

                  แม้ว่าแฮร์รี่จะมีพื้นที่มากพอที่จะให้บ่ายเบี่ยงหนีไปได้ แต่คงมีเวลาไม่พอ เดรโกว่องไวราวสายฟ้า แฮร์รี่เหลือบตาเห็นแสงวูบวาบของแผ่นโลหะในมือของมัลฟอย แต่เพียงครู่เดียวก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงคมมีดกรีดอยู่บนไหล่

                  เขาตกใจจนไม่สามารถร้องออกมาได้ทำได้เพียงแต่อ้าปากค้าง แผ่นเหล็กนั้นรู้สึกราวกับน้ำแข็งทิ่มเข้ามาในร่างกาย มัลฟอยเผยยิ้มอย่างประสงค์ร้ายก่อนจะบิดใบมีดแล้วดึงมันออกมา ทว่าสัมผัสเย็นยะเยือกไม่ได้หายไปด้วย ความจริงมันยิ่งแผ่ซ่านไปอย่างรวดเร็ว

                  มวลความเย็นแพร่กระจายไปทุกอณูเส้นเลือดของแฮร์รี่ ลามลงมาที่แขน ครอบคลุมไปถึงหน้าอก "นายทำอะ..." น้ำแข็งจุกที่ลำคอ หยุดคำพูดสุดท้ายไว้ตรงนั้น เขาทรุดลงบนพื้นเพราะขาทั้งสองข้างชาไปหมด

                  มัลฟอยหยุดยืนอยู่เหนือร่างเขาด้วยใบหน้าแสดงถึงชัยชนะ "นั่นเป็นน้ำยาสูตรพิเศษของฉัน พอตเตอร์ มันยังเกินความสามารถของนาย น่าเศร้าที่นายไม่ตั้งใจเรียนวิชาปรุงยาให้มาก อ้อ แล้วอีกอย่าง นายทำการบ้านได้ห่วยสุด ๆ ไปเลย"

                  เขาย่อลงมาจนหน้าห่างจากแฮร์รี่ไม่กี่นิ้ว แล้วกระซิบอย่างนิ่มนวล "ไม่ต้องห่วงไปหรอกพอตเตอร์ นายจะยังไม่ถึงตาย เจ้าแห่งศาสตร์มืดคงเคืองเอาแน่ถ้าฉันพรากความปรารถนานั่นไปจากเขาซะก่อน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะทำให้นายชดใช้"

                  แฮร์รี่พยายามจะตะโกนแต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นฝ้าหมอก หัวใจเขาเต้นช้าลงและเสียงต่าง ๆ ก้องโหวงเหวงอยู่ในหู เขาแทบไม่สามารถบังคับให้ปอดสูดหายใจเฮือกต่อไปได้ น้ำแข็งซ่านเข้าไปเกาะกุมหัวใจเขาและบีบทึ้งอย่างแรง แฮร์รี่พ่นลมหายใจครั้งสุดท้ายก่อนเงาดำในโถงทางเดินจะเข้าโอบรอบตัวเขา ทาบทับตัวเขา จนมืดสนิทในที่สุด

                 เดรโกยกเอาแขนอันไร้ซึ่งเรี่ยวแรงของพอตเตอร์ขึ้นเพื่อตรวจดูชีพจร มันอ่อนมากเกือบจะสิบวินาทีต่อครั้ง แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วเสียบมีดเก็บเข้าไปในฝักและยัดการบ้านปรุงยาของพอตเตอร์เข้าไว้ในกระเป๋าดังเดิม เขาประคองเอาแขนพอตเตอร์แล้วมุ่งหน้าไปยังทางออกของทางเดินลับของเขา เดรโกประหลาดใจกับน้ำหนักแสนเบาของอีกคน ดูเหมือนเขาคงไม่ต้องใช้คาถาตัวเบาเพื่อยกพอตเตอร์ออกไปจากอุโมงค์นี้แล้วล่ะ เพราะเขาสามารถพยุงหนุ่มกริฟฟินดอร์ตัวเล็กได้ง่ายพอ แล้วทิ้งรอยฟกช้ำไว้ให้พอตเตอร์สักสองสามรอยคงจะน่ายินดีไม่น้อย

                  เดรโกได้บอกเรื่องแผนการครั้งนี้กับผู้พ่อไปแล้ว และลูเซียส มัลฟอยก็คงจะรอพบเขาอยู่แล้วที่ทางออก หากเดรโกพลาดครั้งนี้คงจะมีบทลงโทษเป็นแน่ แต่มันก็คุ้มที่จะเสี่ยง เพื่อที่พ่อจะได้ภูมิใจในตัวเขา และเจ้าแห่งศาตร์มืดเองจะได้ชื่มชมในความสำเร็จของเขา เขาทำภารกิจนี้ได้สำเร็จอันเป็นที่อิจฉาแก่เหล่าผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์ทั้งหลาย เขา เดรโก มัลฟอย จับตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้แล้ว









โปรดติดตามตอนต่อไป...





- Date -

July 3, 2016: Published 100%

Continue Reading