“สมัยที่หม่อมฉันยังเยาว์วัยนั้น หม่อมฉันชอบอ่านหนังสือ และเล่นกู่เจิงมากเพคะ ยิ่งเวลาเศร้า หม่อมฉันก็จะเล่นมันเพื่อให้คนที่ได้ยินมีความสุขแทนหม่อมฉันเพคะ”

“ขออภัยฝ่าบาท แต่กระหม่อมยืนยันได้ว่าองค์หญิงทรงเล่นกู่เจิงได้ไพเราะมากพ่ะย่ะค่ะ!”
ทหารประจำตัวปาร์คจีมินกราบทูลด้วยความสัตย์จริง จนราชาที่นั่งฟังก็แทบจะอดใจไม่ได้ที่อยากได้เห็นมันสักครั้ง แต่เมื่อเลื่อนสายตาตรงออกไปมองนอกตำหนักทางประตูทางเข้า ชายผมยาวทรงมัดเส้นผมหนาส่วนหนึ่งด้วยผ้ายาวสีแดงตัดทองเด่นเดินมายังหน้าตำหนักด้วยความโกรธกริ้ว

      “องค์รัชทายาทจอนจองกุกเสด็จ!!” ขันทีข้างบัลลังก์เห็นก็รีบกล่าวให้เหล่าขุนนางได้ยิน
ศีรษะสวมเครื่องหัวขุนนางหนักก้มเคารพแทบบาทพื้นไปเพื่อเป็นการแสดงความเคารพแก่คนที่อยู่สูงกว่า จอน จองกุกเดินเข้ามาก่อนจะมาหยุดยืนข้างจีมินที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้ากษัตริย์ผู้เป็นพ่อตน ดวงตามองเหยียดหยามปากยกสูงพลันชี้ลงไปหาอีกคนด้วยความไม่ชอบใจ

       “ท่านพ่อจะให้ทหารนำต้นไม้จากนอกวังมาปลูกเพราะนางคนเดียวไม่ได้!”

 “ทำไมกัน วังของเรามีกฎข้อใดห้ามปลูกหรือไง?”องค์กษัตริย์ตอบไปโดยขึ้นเสียงหน่าย

     “แต่ข้าไม่ชอบ! ข้าไม่ชอบให้ใครมาขุดเจาะอะไรที่วังของข้า!” จองกุกก้มหน้าลงไปมองจีมิน

...

    “แล้วทำไมทีเจ้าถึงขโมยต้นไม้จากตำหนักนางไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่การขุด?”

“ท! ท่านพ่อ!! ข้าไม่ได้ขโมยต้นไม้จากตำหนักนางไปนะ!!” รีบแก้ตัวด้วยความตระหนก

    “ตำหนักทุกตำหนักในวังของข้ามีต้นไม้ไม่ต่ำกว่า6ต้น แต่มาวันนี้นางมาฟ้องข้า บอกว่าตำหนักของนางไร้ต้นไม้ แล้วเมื่อก่อนที่นางจะมา เจ้าเองก็เป็นคนเดียวที่ได้ไปห้องนั้นเพื่อเลือกห้องให้นาง ถ้าเจ้าไม่ได้ขโมย ใครกันจะขโมย?”

[END] [KOOKMIN] #นางสนมจีมินWhere stories live. Discover now