[END] [KOOKMIN] #นางสนมจีมิน

By Nnutzzr

13.9K 332 31

จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจ... More

INTRODUCTION.
Ep.01
Ep.02
Ep.03
Ep.04
Ep.05
Ep.06
Ep.07
Ep.08
Ep.09
Ep.11
Ep.12
Ep.13
Ep.14 (NC)
Ep.15
Ep.16
Ep.17
Ep.18
Ep.19
Ep.20
Ep.21
Ep.22
Ep.23
Ep.24 [ตอนจบ]
ชี้แจง (ครั้งสุดท้าย)

Ep.10

489 13 1
By Nnutzzr

- - - - - - - - - - - - - - - - -

ฝนซัดสาดร่างทหารนับพันชีวิตที่กำลังเดินทางกลับมาถึงลานพิธี แต่ในระหว่างจะเข้ามาร่างของโบจุนก็ดันร่วงตกลงมาจากหลังม้าเยี่ยงคนไร้กระดูก จีมินมองผงะไปคาตาอันซ่อนความเจ็บปวดไว้ไม่มิดจึงรีบลงจากหลังม้าเพื่อไปดูโดยทันที ร่างกายซีดขาวผิดแปลกไปรอยช้ำกลายเป็นสีม่วงอมดำ น้ำตาขององค์ชายจีมินไหลลงหยดใส่บาดแผลที่แขนของโบจุนเป็นธารหลาก

“ท่านฟื้นขึ้นมาก่อนสิ ไหนท่านถึงทิ้งข้าไปแบบนี้ล่ะ โบจุน ฮืออ~ กลับมา!!” คำขอร้องที่แม้จะไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา ทำให้ขบวนม้าหยุดลงกลางลานราชวัง ฝนตกกระหน่ำหนักกว่าเดิมราวกับว่าฟ้าฝนเข้าใจในสิ่งที่เป็นและเสียใจเช่นกันกับการจากไปในครั้งนี้

“องค์หญิง ทรงเข้าไปพักก่อนเถอะพระเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องศพพวกข้ากระหม่อมจะจัดการเอง”

   มือเล็กสะบั้นออกจากฝ่ามือหนาของยุนกิไม่ต้องการ เขายกกอดร่างน้าที่ไร้ลมหายใจแน่นซบอกไม่ขยับไปไหนท่ามกลางสายฝน เสียงสะอื้นดั่งเด็กกำลังร้องไห้ดังออกมาบีบกรีดหัวใจทหารหลายคนยิ่งนัก มือน้อยลูบเกสาท่านน้าหวังให้กอดนี้ยังคงมีความหมายกับเขาและโบจุนตลอดไป

“ฮืออ!~ ทำไมถึงต้องเป็นข้า…ต้องเป็นข้าทุกทีที่ต้องรอด!” กอดโบจุน

ยุนกินั่งคุกเข่าถอดหมวกทหารออกเพื่อทำความเคารพแด่ศพชายผู้เป็นถึงคนสำคัญขององค์หญิง และนั่นทำให้ทหารทั้งหมดเริ่มทำตามไล่ไปจนสุดปลายแถว รวมถึงแม่ทัพขององค์ราชาด้วยเช่นกัน แทฮยองที่ถึงแม้จะไม่เคยรับใช้จีมินสักครั้ง แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงเรื่องราวบางอย่างจากในตัวจีมินที่คล้ายกับตนได้เช่นกันจึงไม่เลี่ยงในการทำความเคารพในครั้งนี้ด้วย ฟ้าผ่าลงมากลางท้องฟ้ามืดเป็นพยานให้แก่การตายครั้งนี้ และเสียงร่ำไห้ของทหารหลายต่อหลายคน

“มันคือความผิดของข้าเอง ที่ทำให้ท่านต้องตาย ข้าขอโทษ!” จีมิน

ดวงตาในตำหนักโล่งมองออกมาก่อนที่มันจะเริ่มสั่นคลอน น้ำตาไหลออกมาช้าๆ จากดวงตาของพระมเหสี ฉากอันแสนเศร้าสลดแต่เปี่ยมไปด้วยความสำราญของโฮซอกที่อยู่ในป่าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

“องค์หญิง…ทรงปล่อยมือออกเถอะพระเจ้าค่ะ” ยุนกิคลานเข่าเข้าไปใกล้

ทนต่อไปก็ไร้ความหมาย มือน้อยหยิบหมวกออกจากหัวทหารองครักษ์ผู้เป็นถึงน้าชายออกจากศรีษะเบามือ ยุนกินำตัวองค์หญิงให้ทหารคิมแทฮยองพาไปส่งที่ตำหนักเดิม ส่วนศพองครักษ์โบจุนก็ทำการห่อออกไปฝังในป่าตามธรรมเนียมเป็นอย่างดี

“เจ้าพอใจกับสิ่งที่เจ้าทำหรือยังจองกุก?” พระมเหสีมารดาขององค์รัชทายาทจองกุกทักขึ้นมาด้วยความเยือกเย็น

“ข้าผิดอะไร ข้าทำอะไรให้นาง!?” หันกลับไปมองพระมารดาโบมินด้วยความสงสัย และโกรธที่ทรงยกความผิดทั้งหมดนี้ให้กับเขา

โดยตนเองก็หาได้เข้าใจไม่ ว่าตัวเองผิดตรงไหน

“ก็การที่เจ้าจะขืนใจนางจนนางต้องเป็นแบบนี้ไง! นี่เหรอที่เจ้ามองดูไม่ผิด เจ้าคือลูกกษัตริย์ ไม่ใช่ลูกชาวบ้านทั่วไปนะจองกุก!” เดินออกจากตำหนักหลวงเพื่อกลับเข้าตำหนักบรรทม

“ท่านพ่อข้าไม่ได้ทำให้นางต้องเป็นแบบนี้จริงๆนะ!” พยายามจะเดินเข้าไปอธิบาย แต่ก็ถูกฝ่ามืออันแข็งกร้าวฟาดลงแก้มก่อนเสียแล้ว

“ถ้าเจ้ายังถือตนว่าเจ้าเป็นบุรุษเช่นคนอื่น เจ้าก็ต้องให้ความเคารพแก่นาง และเจ้า!! หากยังอยากใช้พระนามนำหน้าว่าองค์ชายต่อไป ก็จงทำทุกอย่างเพื่อนางซะ...” สั่งคำขาดทันที

     “ท่านพ่อ...พระเจ้าค่ะ”



      ตำหนักหลวงของจีมิน

กายขาวหอมนอนโทรมอยู่บนแท่นบรรทมไม่รู้สึกตัว ใบหน้าซีดเนื่องจากไข้จับทั้งกายากะทันหัน เหล่าข้าทาสรับใช้ส่วนพระองค์ต่างรีบคอยเช็ดตัวให้ตลอดทุก 10 นาทีไม่ขาด

จองกุกที่แอบมองอยู่หลืบประตู ก็หันหน้าออกมาถอนหายใจ ยามค่ำคืนนี้ที่มีแต่ท้องฟ้ามืดสนิทหาได้มีดาวสักดวงไม่ เขาไร้ซึ่งทางออกที่จะช่วยให้จีมินลืมเรื่องนี้ไปสิ้นได้ เพราะแม้จิตใจตอนนี้ของจีมิน ก็กอบขึ้นมาสร้างใหม่ไม่ได้แล้ว

   “เอาน่า หายใจเข้าลึกๆ”

ลมหอมมาจากถุงหอมลอยมาจากไหนก็ไม่ทราบ แตกต่างยิ่งนักเพราะกลิ่นมันช่างกล่อมใจขององค์ชายได้ ดวงตาของเขากลายเป็นชายซื่อตรงไปในทันที ตัวหมุนกลับไปยังประตูตำหนัก เสียงประตูเปิดเข้ามาเงียบ หญิงรับใช้มองผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะเลิกเช็ดตัวและเปลี่ยนเป็นก้มคำนับบาทต่อแทน พวกนางเงยหน้าขึ้นมองและเดินจากออกไปแบบเงียบๆตามมารยาท

“เจ้าไม่สบายงั้นเหรอ?” คำกระด้างปากถูกกล่าวออกมา จากปากของคนเลวทรามที่จีมินเกลียดมากที่สุด ร่างกายนอนนิ่งไม่ตอบสนองให้เมื่อยปาก คำตอบก็มีเพียง 0 ที่ลอยออกมาใส่เขา องค์ชายจอน จองกุกจึงจำต้องเดินมานั่งตรงข้างเตียงอีกฝั่งใกล้กันแค่หันกลับมา ม่านแดงสัมผัสกับหลังงามแกร่งที่หันหลังให้สตรี

“ที่ข้ามาที่นี่เพราะว่าข้าเป็นห่วงเจ้านะ” เหลือบไปมองด้านหลังเพื่อดูปฏิกิริยา

“หม่อมฉันสบายดี หาได้เป็นอะไรไม่เพคะ” เสียงอู้อี้เพราะเป็นหวัดทับซ้อนด้วยบอกกล่าวกับฝ่ายตรงข้ามนิ่งเฉย

“แล้วทำไมตอนที่ข้าเข้ามาถึงได้เห็นนางรับใช้ของเจ้า กำลังเช็ดตัวให้อยู่ล่ะ?”จองกุกลุกยืนกอดอกมองหน้าต่างตำหนักที่มองออกไปเห็นด้านนอกที่เป็นตำหนักของพระองค์เอง

เสร็จประโยคจบสวนกลับดี ร่างกายขององค์ชายก็หันกลับมาเปิดม่านขยับตัวเข้าไปในแท่นบรรทมรวดเร็ว รองเท้าที่ถอดลงข้างเตียงปล่อยวางไว้เช่นนั้นสะเปะสะปะ ร่างร้อนไม่ต่างจากไฟลุกขึ้นหันไปปะทะกับองค์รัชทายาทที่ลอดเปิดม่านเข้ามานั่งข้างในเร็วไวเกินจะจับทัน ดวงตาและปลายจมูกของพวกเขาชนกันโดยความบังเอิญ สายตาเลิกลักที่เพิ่งจะเกิดขึ้นต่อหน้าหญิงที่เอ่ยปากเองว่าไม่ได้รัก

    “เจ้าชอบม่านแดงนี้หรือไม่?” กระซิบถามให้กันและกัน

“ไม่ เพคะ” ตอบสั้นๆ แต่กินใจความไปทั้งประโยค
ปาร์คจีมินไล่หน้าออกแต่ผิดกับจองกุกที่แทบจะไม่อยากขยับไปไหนไกล องค์หญิงน้อยนอนหันหลังให้เช่นเดิม มือหนาเอื้อมไปหยิบผ้าสีน้ำเงินที่เช็ดตัวชุบน้ำก่อนบิดหมาดจนชื้นปานกลาง มือใหญ่เย็นจับมือที่ร้อนผ่าวขึ้นมาไม่มีท่าทีรังเกียจ ก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้แม้ว่าร่างอ่อนเพลียจะไม่ได้เต็มใจสักนิดเดียว

“ข้าไม่ได้คิดที่จะมาทำร้ายเจ้า...แต่มาที่นี่เพราะข้าเป็นห่วงเจ้าต่างหาก”ผ้าลูบหลังมือนุ่มพลางๆ

“เก็บความเป็นห่วงของท่าน ไปขอโทษกับยมบาลตอนตายเห็นจะดีกว่า” เสียงเย็นชาไร้ทำนองใดๆตอบกลับคำหวานซึ้งนั้นไปไม่มีความไยดี มือจะกระชากกลับแต่ก็ถูกจับล็อกแน่นไว้ไม่ให้ไปไหน
คำสบประมาทนี้สามารถไม่ทำสิ่งใดกับจิตใจจองกุกได้เลย ผ้าสีน้ำเงินเลื่อนเช็ดขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงต้นแขน ร่างที่คลุมด้วยผ้าขาวรัดหน้าอกกับกระโปรงยาวปิดร่าง สายตาของร่างสูงอยู่ไม่สุขมากกว่าเดิม ผ้าห่มหนาลายนกยูงทองปิดร่างกายไม่สบายท่วมตัว

“เจ้าช่วยลุกขึ้นมาหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะต้องเช็ดหน้าให้เจ้า” สายตานิ่งมองไปยังร่างน้อยไม่ยอมพูดดีด้วย มือหนากว่าหลายเท่าแอบประกบมือเล็กไว้ในฝ่ามือของตนอย่างแนบเนียน ริมฝีปากก้มหน้าอยู่มองยิ้มบางชอบใจ แต่ก็ต้องเก็บไว้เพราะจีมินหันมาก่อน

“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเจ้ากล้าหาญมากหาเทียบชายใดได้ไม่” คำชมที่แม้จะชมสักเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้สีหน้าอันเฉยชากลับมามีความรู้สึกได้เลย นิ้วโป้งใหญ่กว่าถูนิ้วโป้งเล็กน่ารักไปไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
มือวางผ้าเช็ดตัวลงกะละมังไม้เหลาอย่างดี มือหยาบบิดมันเน้นๆ ก่อนจะเริ่มสัมผัสลงที่ใบหน้าหวานถนอมแรงมือที่สุด หยดน้ำจากผ้าไหลตกลงไปยังคอขององค์หญิงช้าๆ สายตาจองกุกมองจ้องมองไปที่มันพลันเลื่อนดวงตาขึ้นมามองใบหน้าสีซีดที่ไร้เครื่องประทินผิวแต่งเติม จอนจองกุกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้พระองค์นั้นกำลังล้มตัวไปใกล้จีมินมากแค่ไหน ดวงตามองตาซ้ายตาขวาไปมาไม่อาจลบล้างความเขินอายนี้ได้ ลมหายใจอ่อนบางไหลรดปากอวบสวยแดงต่อมา
ผ้าสีน้ำเงินตกจากอุ้งมือไปตอนไหนไม่มีใครรู้ มือหยาบสัมผัสลงแก้มนิ่มเต็มมือ นิ้วโป้งลูบใต้ตาที่นูนจากการร้องไห้เบามือ เสียงหัวใจที่เต้นถี่จนจองกุกเองก็รู้สึกแปลกขึ้นมาบอกไม่ถูก 

     …

“เจ้ารู้หรือไม่จีมิน”

“...”

   “ว่าเวลาที่ข้าได้มองใบหน้าของเจ้ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ข้าก็ไม่อาจบอกหัวใจตัวเองได้สักที ว่าตกลงแล้วข้ารักเจ้าไปแล้วหรือยัง?” วางมือลงแก้มเบาๆ
ใบหน้าที่คมสันจนทำให้หญิงทุกคนต้องจิตใจใฝ่หาได้ทุกเมื่อที่ได้จ้องตากลับไปกำลังขยับเข้าหาเรื่อยๆเพื่อจุมพิตมอบรสสัมผัสอันหวานหอมให้กับองค์หญิงที่ตอนนี้อาจจะเรียกว่ามีใจให้แล้วแค่นิดนึงก็ได้เช่นกัน

      “ผ้าผูกผมของเจ้าในคืนนั้น...มันทำให้ข้าโหยหาเจ้าตลอดทั้งคืนเลยเจ้ารู้ตัวมั้ย?”

...

“ทรงหาผ้ามาเช็ดตัวก่อนเห็นจะเป็นเรื่องดี เพคะ!” หันหน้าหนีไปอีกทาง

   "ช่างหัวมันไปเถอะน่า!" จู่โจมทันที

ตระกูลชั้นสูงไม่เคยสั่งสอนให้โกหกจิตใจตนเอง หากพูดเท็จต้องถูกลงทัณฑ์เป็นเวลา1เดือนเต็ม และนี่ก็คงไม่แปลก ที่องค์รัชทายาทจะพูดออกมาแบบนี้ไม่อายความรู้สึกเก่า...เพราะตั้งแต่คืนของผ้าผืนนั้นและจูบแรกครั้งนั้น มันก็ทำให้เขาเข้าใจถึงรักในตัวจีมินได้ดีมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งเสน่หาจากร่างกายนางเลย

    ริมฝีปากหอมถูกกระทำจูบปานโหยหาอ่อนหวานใส่ ดวงตาหลับไม่กล้าลืมตาขึ้นมา ฝ่ามือสองข้างล็อกประกอบชูขึ้นเหนือหัวค้างเอาไว้แบบนั้น เสียงจูบที่เปียกริมฝีปากไปหมดไม่อาจทำให้ทั้งสองคิดมากได้สักนิด แต่คงเป็นเพราะหัวคิดของคำสั่งองค์ราชา จึงทำให้องค์รัชทายาทต้องรีบถอนจูบออกมาเสียก่อน แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่อยากทำแบบนั้นก็ตาม

“ข้าขอโทษ ข้าแค่รู้สึกอะไรก็พูดออกไปแบบนั้น ข้าดูแข็งกร้าวใส่เจ้าไปหรือเปล่า?”

   แต่ผิดแปลกไปจากจองกุกคนเดิมมาก จองกุกคนนี้ดูต้องการจีมินมากผิดจากคนเดิมที่มีแต่จะรังเกียจไม่ซ้ำวัน กลิ่นหอมลอยคลุ้งเข้ามาจนแทบอาบจมูกของพวกเขาสองคนได้ คำถามที่พระองค์ถามนางแต่ผิดกับการกระทำที่หน้าโฉมงามก้มไปพักถามตรงข้างจมูกน่ารัก กระจับปากของพวกเขาแทบจะแตะกันแต่จองกุกกลับไม่กล้าจะทำต่อ

      “ท่านจะทำอะไรก็ทำต่อเถอะ”

(ถ้าหากข้ายอม…แล้วพระองค์ทรงจับได้ ข้าก็จะได้เป็นอิสระเสียที คราวนี้…ข้าก็จะได้ไปหาพวกท่านเสียที รอข้าก่อนนะท่านแม่ แล้วข้าจะรีบตามพวกท่านไปพร้อมกัน)

    เม็ดทับทิมสุกงอมจูบปากองค์รัชทายาทเพียงนิดทีละครั้งทีละครั้ง ดวงตาหลับลงทั้งสองพระองค์ก่อนที่รูปปากงามจะห้ามความรู้สึกไม่ได้ ปากบางจูบปาร์คจีมินโดยที่อีกฝ่ายก็เผลอจูบตอบไปไม่นึกอะไรอีกแล้ว แขนยกคือคล้องคอประคบตัวให้ใกล้มากขึ้นกว่านี้ จูบหวานละลงจากริมฝีปากไปยังต้นคอร้อน รอยจูบแดงที่ต้นคอแสดงถึงจิตใจที่ฝักใฝ่ในเธอมาแน่นอน

แต่ก็ใช่ความคิดมันจะสมหวังเสมอไป ร่างสูงใหญ่ที่พิมพ์รอยใหญ่และกำลังพาทุกอย่างที่จีมินคิดไปได้ด้วยดีดันถอนจูบออกช้าๆ อย่างน่าตกใจ เขาเม้มปากตัวเองต่อหน้าสตรีด้านล่าง ชายชาตรีสูงใหญ่นั่งนิ่ง ก่อนจะขยับออกไปหยิบกะละมังไม้ขัดเงาขึ้นมา

“ข้าจะออกไปเอาน้ำมาให้เจ้าใหม่ เจ้านอนพักไปก่อนก็แล้วกัน” รีบเดินตรงปรี่ออกไปข้างนอกอย่างไวผิดปกติ

แต่เมื่อองค์รัชทายาทจอนจองกุกกำลังเดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมไป สายตาของเขาก็กลับพบยุนกิที่กำลังเข้ามาในตำหนักบรรทมนี้ต่อจากตน พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันแทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง แต่เมื่อชายสวมชุดสูงศักดิ์เดินออกไป ชายที่ต่ำต้อยก็เข้ามาสวมรอยแทนในทันที
“เป็นอะไรไปหรือไม่องค์หญิง?” สอดแขนเข้ามาที่ม่านพร้อมกับเลือกที่จะวางหลังมือสัมผัสกับแก้มข้างซ้ายที่เคยโดนลูบไล้ไปแล้วก่อนหน้านี้

ดวงตาเฉยชาเงยมองคนที่นั่งข้างแท่นบรรทมม่านกั้นอยู่ องค์ชายตัวน้อยวางมือตัวเองจับมือยุนกิเบาๆ น้ำตาเม็ดโตยากเกินที่จะไหลง่ายไหลออกมาไม่ได้กล่าวดักกับยุนกิสักคำ นิ้วโป้งปาดมันออกช้าๆห่างใบหน้าละเอียดอ่อนขาวเนียนนั้น ดวงตาที่ห่วงใยจดจ้องร่างที่กำลังจมกองไข้อย่างทรมานด้วยความห่วงหาอาทร

“ออกไปรับอากาศข้างนอกหน่อยมั้ยพระเจ้าค่ะ” คำถามจากทหารชั้นต่ำถามขึ้นมา

จีมินกลับไม่โต้แย้งคำถามนี้เลยสักน้อยนิด เขาพยักหน้าตกลงตามเรี่ยวแรงที่มีอยู่ตัวลุกขึ้นช้าๆ ใส่เสื้อคลุมสีขาวคลุมเนื้อกายเป็นธรรมเนียมการไว้อาลัย จอนจองกุกที่เดินออกมาผิดวิสัยคล้ายผิดคนจนแทฮยองสงสัย แต่เมื่อกำลังเดินมาหาองค์ชายพวกเขาก็ต้องผงะกันเมื่อหญิงสาวรูปงามเดินออกมากับทหารที่เพิ่งจะเข้าไปได้ไม่นานนี้ องค์รัชทายาทยืนค้างหัวคิ้วกดแรงสองข้างไม่เข้าใจนางข้างบ่อน้ำขนาดใหญ่ห่างออกไปไกลพอประมาณ

“ข้าชวนนางคุยตั้งหลายคำ แต่นางกลับปฏิเสธข้าทุกคำ พอไอทหารคนนั้นชวนออกมาข้างนอกที ทำไมมันง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยให้ลิงกินอีก!” พูดกับแทฮยองอย่างน้อยใจ

ชายร่างล่ำสันกำลังยกน้ำจากบ่อหยุดชะงักขึ้นมามองมินยุนกิที่ไปกับองค์หญิงแล้วอีกทั้งยังดูมีความสุขกันอีกด้วย เสียงหอบนิดหน่อยพร้อมเอาหลังมือปาดเหงื่อ สายตามองไปไม่ตักน้ำต่อก่อนจะเกิดแรงโมโหบางอย่างจึงสามารถยกถังน้ำถังเดียวเต็มกะละมังพอดี

“ถ้าหากข้าเป็นท่าน ข้าจะแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าเจ้าทหารคนนั้นนะพระเจ้าค่ะ” พยายามสร้างแรงหึงหวงให้กับองค์รัชทายาทได้มากที่สุด
และจองกุกดันกลับเชื่อคำเป่านี้สนิทดีไม่เถียงกลับมา ร่างสูงศักดิ์ทิ้งกะละมังไม้ไว้ตรงนั้นเดินอย่างมาดมั่นไปกระชากแขนเรียวเล็กมาหาตนแรงจนทำเอาร่างกายอ่อนเพลียเซไปซบอกหนาโดยตนเผลอลืมไปเสียสนิทว่าองค์หญิงตัวเล็กนางกำลังป่วยอยู่

“เจ้าจะไปไหน ให้ข้าพาไปหรือไม่?” จับไหล่เล็กเหลือบหางตาขึ้นละมองไปดูท่าทียุนกิ

ร่างน้อยนิดเดินออกจากน้ำมือองค์ชายไปเย็นชาเกินกว่าที่องค์ชายจะทนดูได้เฉย ดวงตาเบิกไม่เข้าใจอีกครั้ง มือสวยเอื้อมไปจับแขนยุนกิต่อหน้าต่อตาพระองค์ตัดความหวังดีนั่นทิ้งจากไปจากตัวองค์รัชทายาทไม่หันกลับมามองเลย

“เดี๋ยวกระหม่อมจะพาองค์หญิงไปดูม้านะพระเจ้าค่ะ” พาเดินย้อนไปที่โรงม้า

...

พวกเขาทั้งสองเดินสวนองค์รัชทายาทที่ยืนมองไปไม่สนใจราวกับว่าองค์ชายที่ยืนอยู่เมื่อกี้เป็นเพียงแค่เถ้าธุลีสีดำที่ไร้ค่าสำหรับพวกเขาสองคน คิ้วกดแรงจนแทบจะเป็นรอยหยักบนใบหน้า พาให้องค์รัชทายาทยกริมฝีปากมุ่ยขึ้นมาเองไม่ได้รู้ตัว

     “องค์ราชินี จะให้หม่อมฉันเอาถุงหอมไปแขวนอีกมั้ยเพคะ?” นางรับใช้นางหนึ่งยืนกราบทูลองค์ราชินีอยู่ที่หน้าตำหนักบรรทม

“ไม่ต้องแล้วล่ะ แค่นี้ข้าก็พอจะรู้ได้ ว่าข้างในของจองกุกจริงๆเขาก็ยังรักนางอยู่เหมือนกัน”

ถุงหอมประโคมตำหนักจีมินคราวนี้คือถุงหอมความจริงที่แม้แต่หลบซ่อนความจริงในใจแค่ไหนก็ไม่สามารถทนได้ หากได้สูดดมก็เป็นอันต้องพูดความจริงในใจออกมา เว้นแต่จีมินในตอนนี้ที่ไม่สบายสูดอะไรเข้าไปก็ไม่ได้กลิ่นจึงไม่เป็นผลสำหรับเขาในขณะนี้



   โรงม้า

เสียงม้าร้องและเสียงน้ำสาดดังกระหน่ำเหมือนกับว่าตอนนี้เป็นเวลาล้างคอกม้าใหญ่ของวัน ทหารที่กำลังขัดตัวม้าอยู่ในคอกแต่ละคอก มองมาทางองค์หญิงและองครักษ์มินยุนกิพอดีจึงหยุดสาดและโค้งคำนับตามระเบียบที่วางไว้






    ฮี่!

เสียงม้าร้องมาจากข้างในคอกกลางจนคนดูและคอกม้าก็ตกใจไม่ต่างกัน องค์หญิงหันหน้าไปขอร้องให้ยุนกิพาเข้าไปดู และเขาเองก็ห้ามไม่ได้จึงพาเดินไปดูร่างม้าที่ไม่เหมือนตัวอื่นในคอก บาดแผลข้างขาของมันดูเจ็บจนไม่สามารถลุกได้ สภาพของเจ้าม้าดูเป็นตายเท่ากัน ร่างกายแข็งแรงเป็นรอยขุดกับดินสร้างบาดแผลลึกจนมันจมป่วยหนัก

“ดูจากอาการแล้ว อีก 2-3วัน มันก็คงต้องตายแน่ๆ” กระซิบบอกยุนกิด้านหลัง

ฝ่ามือร้อนผ่าวนั่งลงก้มไปลูบเส้นผมหยาบของมันเบามือที่สุด ม้าตัวเดียวที่ช่วยจีมินเอาไว้และเป็นถึงม้าคู่ใจของยุนกิเอง ดวงตาของมันมองไปทางนายของมันซึ่งยืนมองด้วยความเสียใจไม่น้อย น้ำตาจากดวงใสทรมานกายไหลออกมาหยดลงหญ้าแห้งเปียก

“ข้าขอโทษ ที่เป็นสาเหตุให้เจ้าต้องเป็นแบบนี้” สะอื้นนิดหน่อย

เจ้าของม้ายืนมองอยู่ด้านหลังกลับไม่ได้โกรธหรือโทษจีมินเลยสักนิดที่เป็นความผิดของเขา มันไม่ใช่ความผิดผู้ใดทั้งนั้นในตอนนี้ และนี่ก็คงเป็นชะตาของม้าสุดที่รักของยุนกิที่จะต้องจากไปตามหน้าที่ของมันด้วยอีกเหมือนกัน


ตำหนักหลวงขององค์พระมเหสีโบมิน

  แทฮยองในชุดทหารนั่งขัดสมาธินั่งยืนกายมั่นคงไม่ลดงอหลังให้เสียรูปทหารที่ฝึกมา ทหารหนุ่มแจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้องค์ราชินีได้ทราบ มือข้างซ้ายวางธนูดอกนั้นบนโต๊ะเตี้ยตรงกลาง สีหน้าของพระนางเริ่มไม่ดีเท่าไหร่นัก เมื่อได้เห็นมันอีกเป็นครั้งแรกในรอบปี

“เรื่องราวนี้หาได้ใช่อุบัติเหตุไม่ แต่เกิดมาจากกลุ่มโจรกลุ่มเดียวที่ท่านเองก็อาจจะทรงรู้ดีว่าเป็นใคร”

เสียงเอ่ยไร้ซึ่งทำนองสำเนียงสื่ออารมณ์ใดสิ้น กับสีหน้าไร้ซึ่งความคิดอื่น องค์ราชินีมองมันนิ่งพร้อมกับจับมันขึ้นมาหักทิ้งไม่มีการหักห้ามใจได้ พระนางลุกขึ้นปามันลงไปทางสวนดอกไม้ข้างล่าง ที่ซึ่งมีนางรับใช้้ดินผ่านไปผ่านมาอยู่สองสามคน

“สั่งทหารรักษาการตรวจตราทุกประตูนับแต่บัดนี้ ถ้าในเมื่อมันต้องการตัวนาง มันจะไม่มีทางหยุดอยู่แค่นี้แน่” พระมเหสี

คิมแทฮยองเดินออกจากตำหนักไปเก็บเศษซากธนูไปทิ้งลงข้างโรงม้าเพื่อให้มันหายไปพร้อมซากของเสียม้า แต่มันกลับผิดอย่างที่คิดเมื่อก้านธนูพวกนั้นถูกนำมายื่นให้ยุนกิในช่วงค่ำในตำหนักพัก

      ทหารทั้งหมดนั่งมองกันเป็นตาเดียวกันถึงก้านศรนี้ พร้อมกับช่วยกันนั่งคิดวิธีป้องกันองค์หญิงกันอย่างเคร่งเครียด เพราะถ้าโฮซอกได้เจอหญิงคนใดแล้ว แต่ยังไม่ได้ปรนเปรอเป็นของตัวเอง เขาจะไม่ลดละความพยายามที่จะตามหานางแน่นอน

“เอาไงดี องค์ชายจะต้องบุกเข้ามาในวังแน่ๆ ถ้ารู้ว่าองค์หญิงอยู่ในวังนี้”

“งั้นเราต้องเข้าไปคุ้มกันตั้งแต่ตอนนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อความปลอดภัยของชีวิตองค์หญิง ไป! ลุก!”
“ช่วยอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ขึ้นมา พวกมันยังไม่ยกกำลังมากันตอนนี้หรอก…แต่หากพวกมันจะมา ก็ต่อเมื่อพวกเจ้าลืมไปหมดสิ้นแล้วต่างหาก”

แทฮยองที่นั่งเหลาดาบที่เตียงตนเองเดี่ยวๆรู้เรื่องที่มีคนแอบหยิบก้านธนูนั้นมาลับๆกลับเอ่ยตัดกำลังใจจนทั้งหมดเพิ่งคิดได้ ร่างขาวในชุดสีขาวมองนิ่งลุกเดินไปยืนตรงหน้าแทฮยอง 

      “ข้าจะเฝ้าองค์หญิง จนกว่าพวกมันจะมา”
ไม่รอให้อีกคนที่นั่งอยู่ตอบโต้กลับมาเลย มินยุนกิก็เดินไปสวมชุดทหารออกไปกับเหล่าทหารองค์หญิงหมด คิมแทฮยองที่เหลาดาบก็พยายามกดความเป็นห่วงตัวเองแต่ก็ทำมันไม่ได้

“นี่เดี๋ยวนี้เจ้าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำข้าได้ยังไง!” สบถเบาๆทิ้งดาบกับที่ลับลงพื้นเลิกเหลาดาบทันที
ภาพยามค่ำคืนมืดสลัว ทั้งหมดยืนเฝ้าแต่ละจุดที่ถูกมอบหมายโดยยุนกิเรียบร้อย บานประตูตำหนักเปิดเข้าไปให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งหมดยืนหันหลังให้จีมินทั้ง 2 ทิศรอบฝั่ง ไม่ว่าจะฝั่งประตูหรือหน้าต่าง องค์หญิงน้อยหลับสนิทไม่ได้ยินสิ่งใดให้ข้องหูเลย




    ป่าลึก

กล่องเสื้อผ้าที่เผลอทำตกไว้ในคราวนั้นถูกเปิดออกกลางตำหนักไม้ไผ่สูง มือหยาบกร้านหยิบผ้าคล้ายกระโปรงยาวสีแดงขึ้นมาจากในกล่องพับดี ปลายจมูกสูดดมกลิ่นถุงหอมอาบเรือนกายของหญิงสาวที่ตอนนี้จิตใจของเขาเข้าขั้นหวนหาจนขาดไม่ได้

“เพียงแค่เศษผ้าของเจ้า ก็ทำให้ข้าจิตใจปั่นป่วนไปไกลแสนไกลแล้ว…หากข้าได้ตัวเจ้ามาไว้ในครอบครองแล้วล่ะก็ ข้าคงควบคุมตัวเองไม่ได้ไปหลายชั่วยามแน่” นั่งมองกระโปรงยาวปานจะกลืนกิน

เหล่าโจรนับร้อยชีวิตก็เริ่มต่างพากันเหลาอาวุธพร้อมสมุนไพรหลายพันธุ์มาบดทำเป็นยาพิษใช้เคลือบอาวุธแต่ละคนหวังล้างชีวิตคนในวังให้สิ้นไป เสียงการเฉลิมฉลองให้ความสุขแก่หัวหน้ากลุ่มจอง โฮซอก จนดังก้องลงมายังวังที่อยู่กลางเมือง

    !!!

“เสียงนั่น…มันเสียงของพวกนั้นนิ!” ยุนกิที่เฝ้าทางฝั่งประตูเห็นควันไฟเฉลิมฉลองลอยพุ่งขึ้นฟ้าค่ำไม่เกรงกลัวถึงทหารในราชวังเลย ดวงตาเบิกโตสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวในจิตใจบางๆ แต่ก็ไม่หวั่นเมื่อนึกได้ว่าตนกำลังปกป้องเพื่อใคร

     ตำหนักหลวงองค์ราชา

องค์ราชาหนวดเครายาวแสดงถึงอำนาจที่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างลงกระดาษสีขาว ปลายพู่กันวางหมึกดำลงไปในความตั้งใจอันเปี่ยมล้น จดหมายที่กำลังสื่อบางอย่างเกี่ยวกับพันธมิตร

    ใจความมีอยู่ว่า…

“จอง โฮซอกลูกข้า หากเจ้ายังมีความเมตตาต่อพระบิดาคนนี้ของเจ้าอยู่ เจ้าก็อย่าเข้ามาเพื่อทำร้ายนาง นางหาได้มีพรหมจรรย์ดั่งหญิงบริสุทธิ์อีกครั้งไม่ นางเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทจอน จองกุก น้องชายของเจ้า และนางกำลังป่วยยากเกินจะหาหมอดีมารักษาให้หายขาด หากเจ้ายังรักและภักดีต่อน้องเจ้าและตัวบิดาเช่นข้า ก็ได้โปรดทิ้งนาง ปล่อยให้นางได้เสียสละชีพอย่างสมเกียรติแก่อิสตรีชนชั้นสูง  จอน คยูซอก

จดหมายถูกพันก้านธนูส่งไปกับแรงเหนี่ยวศรไกลของทหารส่งสารที่ยิงจากหมู่บ้านนอกเมืองขึ้นไปด้านบนเขา ศรธนูปักเข้ากับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเข้าอย่างจัง ทุกคนตกใจตามๆกัน เสียงงานเฉลิมฉลองเงียบลงทันที โฮซอกลุกขึ้นเดินออกมาหยิบธนูนั้นออกจากต้นไม้หนา กระดาษม้วนข้อความหยิบออกเปิดอ่าน ดวงตาไล่ทวนข้อความทีละประโยค คิ้วที่ขมวดแน่นแล้ว แต่เมื่ออ่านกลับยิ่งขมวดปมเข้มเพิ่มมากกว่าทีแรกเข้าไปอีก ปากบางยกยิ้มร้องสะใจในลำคอดัง 

“จดหมายลวงจากองค์ราชา คิดเหรอว่าจะหลอกข้าได้ คืนพรุ่งนี้! เราจะลงจากเขาไปหลบมุมอยู่หลังหมู่บ้านฝั่งตะวันออก แล้วคืนต่อไป เราก็จะบุกไปกุมตัวนางผู้นั้นออกมาจากวังทันที!!” ขยำกระดาษทิ้งพร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัย




- - - - - - - - - - - -
สปอยตอนต่อไป
- - - - - - - - - - - - 

    “จีมิน...” จองกุก

หนุ่มน้อยต้องไข้มองไปทางต้นเสียงอย่างเอื้อยอ้าย ดวงตาดำจดจ้องร่างที่นั่งอยู่จากเก้าอี้ด้านนอกเตียง ร่างกายของเขาเลิกลักราวกับคนกำลังกลัวในความคิดอะไรบางอย่าง

     ...

“ท่านมีอะไรจะถามข้า?” ตอบเพียงใจความสั้นๆ ที่รับรู้ได้ถึงความต้องการอยากจะรู้เช่นกัน

   ปากบางที่กล้าๆ กลัวๆไม่กล้าจะเอ่ยออกไป องค์ชายร่างสูงใหญ่มองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ดวงตาจากในม่าน ขาสับย่ำอยู่กับที่ถี่จนคุมจิตใจไหวไม่อยู่ จอนจองกุกนามชื่อองค์รัชทายาทผู้เป็นถึงองค์ราชาคนต่อไปกลับกลายเป็นหนุ่มแรกแย้มราวกับไม่เคยฝ่าด่านรักนี้มาก่อนเมื่อได้อยู่กับจีมินสองคน 

ลิ้นร้อนเปียกเลียปากให้หายแห้งกังดวงตาเลิกลักแต่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มือวางหัวเข่าถูขึ้นลงปรับสติที่กำลังจะหายไปให้กลับมา

    เอ่อ...

“เจ้าเคยรู้จักคัมภีร์ 48 กระบวนท่าของกามสูตรบ้างหรือไม่?”

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 
TALK TALK

มาแล้วววมาแบบมึนๆ เพราะมาปั่นตอนเที่ยงคืน ตอนต่อไปมีสปอยให้แล้ว อาจจะมีครวญครางบ้างจากอะไร จากการร้องไห้ของจีมินเหรอ Noค่ะ คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นของคนอื่นบ้าง เดี๋ยวมาจะชินชามากเกินไป แต่ไม่บอกนะ^^ รออ่านกันเอง
ปล.จริงเรื่องนี้ไม่ใช่แนวmpregนะคะ แต่เพื่อความสนุกส่งท้ายของตอนจบในอีก13อีพีที่จะถึงนี้ไรท์ก็อยากมีตอนพิเศษให้สำหรับใครที่อยากอ่านแยกออกมานะคะ (และอาจจะมีสปอยนิยายแนวนี้เรื่องใหม่ด้วยนะคะ)

BY. OASIS

HASHTAG ; #นางสนมจีมิน

Continue Reading

You'll Also Like

217K 11.1K 31
Park chanyeol.... မင်းကြောင့်...ငါချစ်ရတဲ့သူကို ဆုံး ရှုံး လိုက်ရတာ Byun Baekhyunငါမင်းကို အရမ်းမုန်းတယ် ငါဆုံးရှုံးရ သလောက်မင်းလဲ အဲ့လို သေမတတ် ခံစ...
13.9K 332 26
จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจะต้องปิดบังความลับที่แท้จริงของตนเองเอาไ...
56.1K 626 23
นายมีคนที่รักอยู่แล้วลืมฉันซะเถอะ เพราะฉันก็แค่คนที่นายพลาดไปมีอะไรด้วยก็เท่านั้น
210K 2.8K 25
พ่อเขาฝากลูกให้มึงเลี้ยง ไม่ใช่ฝากให้มึงเอาลูกเขาทำเมีย #อากุกเลี้ยงต้อย