[END] [KOOKMIN] #นางสนมจีมิน

By Nnutzzr

13.9K 332 31

จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจ... More

INTRODUCTION.
Ep.01
Ep.02
Ep.03
Ep.04
Ep.06
Ep.07
Ep.08
Ep.09
Ep.10
Ep.11
Ep.12
Ep.13
Ep.14 (NC)
Ep.15
Ep.16
Ep.17
Ep.18
Ep.19
Ep.20
Ep.21
Ep.22
Ep.23
Ep.24 [ตอนจบ]
ชี้แจง (ครั้งสุดท้าย)

Ep.05

464 16 0
By Nnutzzr

- - - - - - - - - - - - - - -


เรื่องราวที่จะทำการสลับตัวพระโอรสกับพระธิดานั้นถูกปิดเรื่องเงียบให้เป็นความลับระหว่างกษัตริย์กับเหล่าขุนนางและทหารโบจุนเท่านั้น แม้แต่หญิงหนึ่งเดียวของแผ่นดินอย่างองค์ราชินีก็ไม่รู้ ส่วนจีมินที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือกักตัวเองอยู่เพียงแต่ในพระตำหนักไม่ยอมออกมาเข้าเฝ้าองค์พระมเหสีเลยสักครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นไป
ทหารรับใช้เคียงกายเข้ามาถวายน้ำชาให้ตามเวลาที่ผ่านมานาน ร่างกายในชุดเต็มยศหนักสีดำทมิฬตัดสีเหลืองทองวางถาดไม้มือจับหูกาน้ำชายกขึ้นรินน้ำชาให้อย่างบรรจงเพื่อมอบให้องค์ชายที่กำลังนั่งเงียบอยู่ข้างๆ

“พรุ่งนี้ในช่วงบ่าย ฝ่าบาทโคจองเรียกเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ” ยกมือกุมเคารพตามฐานะที่ต่ำกว่ามาก

(โคจอง…นี่คือชื่อของฝ่าบาทงั้นเหรอ? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย)

     “ขอบใจมาก”

แต่ทว่าคืนนี้โบจุนกลับขอมาทำการยืนเฝ้าประตูตำหนักบรรทมชั้นในของปาร์จีมินแทนทหารคนก่อนที่ควรจะมาทำตลอดเวลา เมื่อยามตะวันดับไร้แสงแยงเข้ามาเป็นดั่งไฟนำร่อง โบจุนก็รีบแอบเข้าไปในพระตำหนักในทิ้งไว้ให้ประตูชั้นในว่างไร้ทหารยืนเฝ้าอย่างที่เคยมี

“ท่านเข้ามาทำไม?” จีมินที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ในจอกเพลินๆก็ถึงกับตกใจผงะ

กายาหนักด้วยเกราะโลหะแท้ของน้าชายเพียงคนเดียวที่ตนนับถือ เขาก้มหัวลงคำนับแนบใต้พระบาทก่อนจะนั่งขัดสมาธิปกติตามมารยาทในราชวัง ทั้งสองหนุ่มนั่งมองหน้ากันนิ่ง ร่างหนุ่มน้อยยกกาน้ำรินน้ำชาลงจอกให้ท่านน้าด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่โบจุนเข้ามามีนัยอะไรแอบแฝงอยู่กันแน่

“เจ้ารู้เรื่องที่องค์ฝ่าบาทโคจองจะให้เจ้าแสดงความสามารถแล้วใช่หรือไม่?” ลดคอลงไปถามหลานชายที่หน้านิ่งไม่ยอมมองหน้าตน

   สีหน้าผิดแปลกไปในทันที จีมินเองนั้นแทบจะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เขาได้ยินเพียงแค่เรื่องพรุ่งนี้ตอนบ่ายต้องเข้าเฝ้าเท่านั้น แต่ตัวเองยังไม่เคยได้ยินเรื่องให้ทำการแสดงความสามารถเลยสักครั้งเดียว

        …

“ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย” วางกาน้ำชาลงชะงัก

    สีหน้าของทหารน้าโบจุนเปลี่ยนไป คิ้วขมวดปมหนักและหันไปมองทางอื่นเพื่อหลบซ่อนความกังวลอันมากโขนี้เอาไว้ เสียงในหัวตีกันไปมาคอยเถียงจิตใจอันว่างเปล่าของจีมินจนแทบจะระเบิดออกมาตรงนั้น

ตาสีหวานหลับดึงทุกสิ่งอย่างออกจากสมอง แรงบีบอัดออกไปสร้างความปวดร้าวที่ข้างศีรษะจวนตายให้ได้ เมื่อเปลือกตาฉายนัยน์ตาสีดำขึ้นมา ใบหน้าเนียนขาวก็รีบหันกลับไปหาท่านน้าของตัวเขาเช่นเดิม

“มันเกิดอะไรขึ้น ข้าต้องไปแสดงอะไร?” วางมือข้างขวาลงที่ต้นขาโบจุน

     “ฝ่าบาททรงกำลังปกปิดเรื่องนี้ทั้งหมด เขาบอกข้าว่าอีก 1 วัน เขาจะให้เจ้าแสดงความสามารถ แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าและข้าจะต้องถูกบั่นหัวต่อหน้าขุนนางทั้งหมด” กำหมัดพลันรีบคลายไปช้อนใต้ฝ่ามือน้อยมากุมไว้ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังหลังจากกล่าวจบ

จีมินเข้าใจทั้งหมดแล้วว่าทำไมทหารของตนถึงบอกอีกอย่าง เพราะมันเพิ่งมีรับสั่งลงมา แถมยังเป็นรับสั่งที่ไม่สมบูรณ์อีกด้วย

“พวกขุนนางนี่มันร้ายกาจที่สุดเลย!!” โบจุน

   “ถ้าพวกเขาต้องการเห็นความสามารถของข้า…ข้าก็จะทำมันให้พวกเขาได้เห็นเอง ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”

และในคืนนั้นหลานชายของโบจุนก็เอาแต่นั่งอ่านหนังสือและลองเขียนบทความให้สละสลวยจนขนาดโบจุนอ่านเองยังชื่นชมไม่ขาดปาก เสียงหัวเราะกับคำพูดชวนให้เหล่าทหารที่เฝ้าอยู่ประตูด้านนอกคิดไม่ดีกับโบจุนและองค์รัชทายาท

         เช้าวันถัดมา

ทหารวัยกลางคนตื่นขึ้นมาจากพื้นเสื่อในพระตำหนักห้องบรรทมขององค์ชาย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นเผลอหลับไปขณะดูจีมินกำลังเขียนบทความเมื่อใด

“จีมิน! จีมินเจ้าหายไปไหน!? จีมิน!” รีบลุกขึ้นมองไปรอบๆ พระตำหนักที่มีอยู่แค่ความว่างเปล่า
ดวงตาพยายามมองไปรอบๆ ค้นหาเท่าไหร่สิ่งที่พบกลับมามีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น แต่เมื่อเท้าเดินออกมาด้านนอกพระตำหนักแล้ว เขาก็พบกับเหล่าข้าทาสทั้งหลายขององค์ราชาไปยืนดูอะไรบางอย่างบนตำหนักใหญ่ของราชวัง เสียงเอะอะโวยวายซุบซิบกันยิ่งทำให้โบจุนใจไม่ดีมากขึ้น


         พระตำหนักใหญ่

ชายวัยหนุ่มในชุดเหมาะกับสถานะขององค์ชายในราชวังสีน้ำเงิน นั่งคุกเข่าลงบนทางปูของพรหมแดงท่ามกลางสายตาขุนนางและองค์กษัตริย์ที่นั่งยิ้มเริงร่าด้านบนบัลลังก์ทอง 

“อ้าว! นั่นไง คนของเจ้ามาแล้ว ที่บอกข้าน่ะ” องค์ราชาชี้ไปทางด้านหลังประตูตำหนักใหญ่ ที่ซึ่งคนที่เขาชี้ไปไม่ใช่ใครอื่นใด หากแต่เป็นโบจุน น้าของเขาเอง

ทหารวัยกลางอายุคนตกใจ ว่าเหตุใดทำไมถึงเรียกตัวจีมินมาได้เช้าขนาดนี้ ดวงตาของโบจุนอึ้งไม่ขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว

   ดวงตามองตกไปยังจีมินที่คุกเข่าอยู่อย่างเงียบงัน เพียงไม่กี่ลมหายใจเข้าออกให้ดอกโบตั๋นร่วงหล่นพื้นโบจุนผู้เป็นน้าชายของจีมินก็ถูกทหารล็อกตัวไว้ด้านนอกเสียแล้ว ดวงตาที่พึ่งจะได้มองนั้นก็ทำได้แค่มองแผ่นหลังของหลานที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านในมิอาจได้แม้แต่จะมองหน้าให้ได้คลายความกังวลที่มีอยู่

“เจ้าคิดจะจับองค์ชายเป็นภรรยางั้นเหรอท่านโบจุน หึ! น่าสมเพชสิ้นดี” ทหารม้าคนหนึ่งเอ่ยออกมาใส่โบจุนเสียงดังลั่น

ความคิดอันแสนต่ำช้าของทหารรุ่นเดียวกันเอ่ยออกมาทางด้านหลังเขา คำสักแต่จะพูดของพวกเขานั้นลดความน่าศรัทธาในตัวจีมินเอายิ่งนัก สีหน้าของโบจุนหันมามองด้วยความโกรธาอันล้นพ้น

แต่เพียงแค่ตอนนี้ร่างกายของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เพราะแขนที่โดนล็อกแน่นอยู่ เขาจึงทำได้เพียงแค่มองไปให้อีกฝ่ายเกิดความกลัวขึ้นมาเอง
เครื่องเล่นไม้สีน้ำตาลเข้มอย่างกู่เจิงวางติดข้างตัวจีมินทางข้างขวา ส่วนด้านหน้าที่เพิ่งนำมาวางนั่นคือโต๊ะกระดาษพร้อมหมึกวางด้านหัวมุมซ้ายมือ ดวงตาเลิกลักมองไปทั้งสองอย่าง ทั้งหมึกสีดำและกระดาษสีขาว

“ลงมือซะสิ เจ้าจะเลือกทำสิ่งไหนก่อนก็ได้เลย ข้าไม่ห้าม” ฝ่าบาทพูดออกมาอย่างสบายใจ

    มือเล็กป้อมหยิบยกพู่กันจากข้างขวดหมึกดำเล็กขึ้นมา แต่ครั้นเมื่อกำลังจะลงมือเขียนลงไปยังบนแผ่นกระดาษเปล่านี้นั้น…จีมินกลับคิดอะไรไม่ออก ทุกอย่างมืดบอดโดยที่จีมินเองก็ไม่ทันจะได้ตั้งตัวกับมันสักนิด มือสั่นชะงักตากดลงไปยังในสมองบีบเอาทุกสิ่งที่จำมาจากเมื่อปล่อยออกมา แต่มันกลับทำไม่ได้เสียที

นานนับนาทีที่จีมินยังไม่ลงมือทำสักที ทางฝั่งขุนนางฝ่ายขวาจึงหันตัวกลับไปยังองค์กษัตริย์เพื่อทำการก้มบังคมทูล

     “คงจะทำไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ”

ดวงตาขององค์ราชาที่มองจ้องลงไปยังกระดาษเปล่านั่นรอคอยให้จีมินลงมือสักนิด แต่กลับไม่มีให้ตนเห็นแม้แต่จุดเดียว ไฟพิโรธเริ่มจุติขึ้นอีกครั้ง สายตาของกษัตริย์โคจองมองลงไปยังจีมินไม่ขาด มือสองข้างวางลงที่พนักพิงแขนกำมืออย่างแรงจนสั่นเครือ

“ถ้าเจ้ายังไม่ลงมือ ข้าจะบั่นหัวเจ้าเดี๋ยวนี้!!”
มือไม้สั่นเมื่อได้ยินคำพูดถึงความตาย เขากลับทิ้งทุกอย่างล่องลอยกลับไปสู่อดีตอันวันวานที่ในใจเอาแต่คิดถึงบิดาโดยองที่สิ้นชีพต่อหน้าเขาขึ้นกะทันหัน จนทำให้มือไม้สั่นด้ามพู่กันร่วงลงพื้นโต๊ะเลอะแผ่นกระดาษ

     “ทหาร!! จับมัน แล้วเอาไปประหารคู่กับเจ้าทหารโบจุนซะ!!”

“เจ้าได้สั่งเสียอะไรกับภรรยาองค์ชายของเจ้าแล้วหรือยังโบจุน 5555!!” ทหารด้านนอกหัวเราะเยาะโบจุนกันยกใหญ่

ความโมโหที่กุมบ่าหนักอึ้งจนมิสามารถบังคับกักเก็บอารมณ์ตนเองไว้ได้แล้ว โบจุนในสภาพร่างกายกำยำสะบัดออกจากการพันธนาการไว้และวิ่งเข้ามาในตำหนักใหญ่โดยไม่สนอาวุธมากมายของทหารที่คอยจะทำร้ายเขาได้หากกระทำตนฝ่าฝืนทุกคำสั่ง

“ขอร้องล่ะฝ่าบาท ทรงอย่าเพิ่งสั่งประหารชีวิตเลย คนเราควรคิดเสียก่อนลงมือ องค์ชายก็เช่นกันนะพระเจ้าค่ะ!”

      ชายในชุดทหารในใต้เบื้องบาทองค์ราชายอมคุกเข่าหัววางลงพื้นแนบพระบาทด้านบนของโคจองเพื่อขอร้องให้ยืดเวลาออกไปเสียก่อน มิได้มองจีมินสักนิดว่าตอนนี้เขาเป็นเช่นไรอยู่

พื้นกระทบเสียงดังสั่นทำให้ปาร์คจีมินกระชากสติที่ลอยออกไปไกลนั้นกลับมาเหมือนเดิม และในตอนนั้นองค์ชายที่ได้สติก็รีบหยิบด้ามพู่กันไม้ขึ้นมาเหมือนเดิม ปลายพู่กันจุ่มหมึกดำ ยกขึ้นมาก่อนจะเริ่มบรรจงเขียนบทความลงไปบนผิวแผ่นกระดาษทหารม้านับสิบชีวิตต่างรับคำสั่งเดินขึ้นมาจับจากข้างนอก ปลายพู่กันเริ่มเขียนเป็นตัวอักษรทีละตัวๆ จนได้ประโยคใจความแสนยาวและสลวยสวยงาม

     เมื่อก้านไม้ดัดแปลงมาเป็นพู่กันด้ามงามวางลงโต๊ะกับถาดไม้รองพู่กันสีดำ มือมหาอำนาจของราชายกห้ามทหารจากด้านนอกออกคำสั่งห้ามในทันทีที่จีมินเขียนเสร็จ

“ไหนเจ้าลองอ่านให้ข้าฟังสิขุนนางเฮซอง” กษัตริย์โคจอง

“อะฮึ้ม! ความมีอยู่ว่า…”

    ชีวิตของมนุษย์ก็เปรียบเสมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

หากมองอย่างผิวเผิน ก็คงเห็นเพียงดวงเดียวที่ตัวเองชื่นชอบ

  แต่ถ้าหากมองเข้าไปให้ลึกมากขึ้นกว่านี้ ท่านก็จะพบกับดวงดาวอีกแสนล้านดวงที่หลบซ่อนอยู่
เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่มองผิวเผิน ท่านอาจจะคิดว่าเขาผู้นั้นหยิ่งทะนงตนถือเป็นใหญ่อยู่เสมอ

  แต่แท้ที่จริงแล้วหากท่านไม่มองให้ลึกเข้าไปข้างใน ท่านก็จะไม่รู้เลยว่าข้างในจิตใจเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าผืนแผ่นดินมหามหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่เสียอีก

“ช่างไพเราะจริงๆ” กษัตริย์โคจองเอ่ยออกมาจากปากที่พูดตามความรู้สึก

กายาบุตรชายของพระมเหสียองเฮค่อยๆ ขยับหันตัวไปยกกู่เจิงมาตั้งด้านหน้าช้าๆเมื่อเหล่านางข้าทาสยกโต๊ะกระดาษออกไปแล้ว นิ้วกระด้างเล่นกู่เจิงช้าๆ ทันทีที่เสียงของโน๊ตตัวแรกขึ้นมาแตะใบหู ก็ทำให้องค์ราชาขนลุกซู่ไปทั้งตัว ดวงตาสีหวานหลับตาลงบรรเลงเพลงที่ตนทำขึ้นให้มารดาก่อนที่นางจะจากไปด้วยดีตามกาลเวลา

ภาพแห่งห้วงชีวิตของเขาทั้งหมดค่อยๆทยอยย้อนกลับมาเล่นในหัวปาร์คจีมินอีกครั้ง และเมื่อหยดน้ำตาหลั่งออกมา เม็ดน้ำตาสีใสก็ได้ไหลมาอาบเนื้อแก้มมาประจบลงคางและร่วงลงไปสู่เส้นกู่เจิงเส้นหนึ่งพอดี สายดีดทำให้เม็ดน้ำกระจายตัวแตกไปทั่วกู่เจิงทั้งหมด ลมไม่แรงมากนักตีพัดเข้ามาจากด้านนอกสู่ตำหนักในราวกับมันคอยช่วยประคับประคองร่างบุตรชายเอาไว้ไม่ให้อ่อนแรงเมื่อเล่นมัน

“เสียงกู่เจิงนี้…ไพเราะสมกับที่โบจุนบอกมาจริงๆ” องค์กษัตริย์พูดพึมพำกับตัวเอง

    สายตาของเหล่าข้าทาสรับใช้ใต้พระบาทองค์ราชาทั้งหมดนั้น เริ่มจับจ้องกายาเล็กขาวจากจีมินที่กำลังเล่นมันพร้อมน้ำตาอยู่ โบจุนที่ซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ท่าเดิมได้ยินเข้าก็ถึงกับน้ำตาไหลออกมาเลอะเปื้อนผืนแผ่นเสื่อของตำหนักใหญ่ทันที ภาพกองดินฝังศพพระนางมิอาจลบล้างออกไปได้หากยังจงรักภักดีอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาโบจุนเองยังไม่เคยได้ยินเพลงนี้จากจีมินเลยสักครั้ง

(“พระมเหสียองเฮ…ยังไม่จากเราไปไหนจริงๆ ด้วย”) โบจุนคิดในใจเผลอปล่อยสะอื้นออกมาเสียงดัง

     ลมมากมายเทพัดเข้ามาปัดหยดน้ำตาให้แห้งกรอบใต้ดวงตาทหารม้าโบจุน และมันยิ่งสร้างความไพเราะให้เพลงมากยิ่งขึ้นราวกับยองเฮลงมาเล่นเองข้างๆบุตรชาย ด้านบนบัลลังก์ที่องค์กษัตริย์ทรงนั่งอยู่ก็เงียบๆ แต่เมื่อได้ฟังไปกับมองจีมินไปด้วยแล้วนั้น เขากลับยิ่งมาคิดถึงภาพสมัยก่อนขึ้นมาทันที ภาพที่ยองเฮชอบเล่นกู่เจิงให้เขาฟังทุกยามค่ำคืน แม้ทุกค่ำคืนนั้นเขาจะไม่ได้ครอบครองนางเลยก็ตาม แต่เขาก็มีความสุขทุกครั้ง ที่ได้มองนาง...

  “ฝ่าบาท ฝ่าบาทพระเจ้าค่ะ!” ขันทีที่ยืนประกบข้างบัลลังก์ราชาก็รีบเอ่ยตัดบทความคิดฝ่าบาททันควัน

  !!!
​​​​​​
“พอ!! ข้าเข้าใจ เอาตัวมันออกไป ข้าต้องการจะพักผ่อน” เดินลงจากบัลลังก์ไปต่อหน้าขุนนางและทหารทั้งหมดที่ยืนชมอยู่

...

   “ท่านแม่...” จีมินหันกลับหลังไปมองด้านนอก ที่ซึ่งเห็นแต่ประตูวังขนาดใหญ่กับท้องฟ้าสีสว่างให้จีมินได้มอง

     ตำหนักในของจีมิน

“เจ้าคิดเหมือนข้าใช่มั้ย ว่าลมพวกนั้น อาจจะเป็นพระมเหสียองเฮแม่ของเจ้าน่ะ” โบจุนที่รอดจากการประหารนั่งกระดกน้ำชาในตำหนักเปิดที่ผู้เป็นเจ้าของก็คือจีมิน

      หูฟังอยู่ก็คิดตาม มือปิดหนังสือเล่มขนาดพอดีมือสีแดงเข้มลงพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจีมินในตอนนั้น ตอนที่เขายังเป็นเด็กเล็กกับรอยยิ้มอันแสนจะมีความสุขตลอดเวลา

      “ข้ารู้ตั้งแต่คืนนั้นแล้วล่ะ”

    ตำหนักในขององค์ราชา

ด้านในพระตำหนักของกษัตริย์โคจองเอง พวกเขากับเหล่าขุนนางอาวุโสทั้งฝ่ายขวาและซ้ายพร้อมด้วยทหารส่งสานส์ให้ฝั่งเขตกลางมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยความเป็นส่วนตัวที่สุด

   “เจ้าจงเขียนตามที่ข้าพูดขุนนางฮันแจ”

“พระเจ้าค่ะ”

    “ข้ากษัตริย์โคจอง กษัตริย์ผู้ปกครองดินแดนเขตเหนือ ข้ามีความยินดีที่จะประสงค์อยากจะยกมอบพระธิดาของข้าให้กับเมืองท่าน เพื่อทำการผูกสัมพันธ์อันดีแก่เมืองของเรา และสัญญานี้ต้อง เป็นสัญญาผูกมัด ว่าเมืองท่านจะไม่รุกรานเมืองเราอีกต่อไป”

เมื่อสานส์เขียนจบขุนนางอาวุโสฝ่ายขวาก็รีบม้วนให้เรียบร้อยก่อนจะส่งม้วนกระดาษสานส์ไปให้ทหารม้าเร็วทันที ค่ำคืนนี้เสียงม้าควบออกไปดังจนทุกคนในเขตราชวังต่างพากันได้ยินหมด ไม่เว้นแม้แต่เจฮยอนเอง ขุนนางฝ่ายซ้ายบังคมทูลกับฝ่าบาทโคจอง

“อีกกี่วันกว่าขบวนเสด็จรับตัวจากเมืองเขตกลางจะมาถึงพระเจ้าค่ะ?” ถามกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจที่สุดของเมือง

“อีกไม่เกิน 2-3 วัน”

 คำตอบที่บอกออกมาหาได้เก็บเสียงไม่ มันจึงทำให้เสียงทุกเสียงที่เหล่าขุนนางและองค์ราชาพูดกันเล็ดลอดออกไปหมด

ประโยคสนทนาทั้งหมดได้ลอยออกไปในขณะที่ข้าทาสคนนึงเดินผ่านมาได้ยินพอดีเข้า ข้าทาสนางนั้นไม่ใช่ของใคร หากเป็นข้าทาสรับใช้พระธิดาเจฮยอนเอง นางรับใช้ผู้ต่ำต้อยรีบเข้าเฝ้าบังคมทูลพระธิดาเจฮยอนทันทีแม้พระนางจะหลับอยู่ก็ตาม

“ไม่ได้นะ จะให้เราไปตอนนี้ไม่ได้ เราไม่พร้อม!” เอะอะลั่นพระตำหนัก


    เช้าวันถัดมา

      ตำหนักใหญ่

“ท่านไม่บอกข้าสักคำว่าจะมีขบวนเสด็จจากเมืองเขตกลางมารับข้าน่ะ!!”

เสียงพระธิดาที่นั่งคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนพระบิดาให้ลองคิดไตร่ตรองดูอีกสักทีเพื่อหาความแน่ใจแก่ตัวนางเองว่ายังไงก็ไม่มีทางเหมาะสม แม้ความลับนี้จะไม่ได้ถูกเปิดเผยให้องค์พระมเหสีจองเฮฟังก็ตาม

“ทำไมเจ้าจะไปให้ข้าไม่ได้ ยังไงสักวันหนึ่งเจ้าก็ต้องอภิเษกสมรสอยู่ดี? หรือเจ้ามีอะไรปิดบังข้าอยู่งั้นหรือ?” หรี่ตาลงมองจ้องไปยังพระธิดาที่ก้มคำนับอยู่เบื้องล่างสุดของขั้นบันได

สายตาของเธอมีความลับจนแทบจับได้อย่างง่ายดาย แต่ยังไงเสียองค์พระกษัตริย์ก็ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว เพราะพระองค์เองก็ไม่ได้จะส่งตัวนางไปเสีย หากคนที่พระองค์อยากส่งไปจะเป็นจีมินเสียมากกว่า

“กลับตำหนักเจ้าไปซะเจฮยอน แล้วอีก 2 วันจะมีขบวนเสด็จมารับเจ้า เตรียมข้าวของไว้ให้ดี” ปัดมือไล่เจฮยอนออกจากตำหนักใหญ่ไป

เสียงร่ำไห้ของนางนั้นดังอยู่ภายในตำหนักขององค์พระธิดาข้ามวันข้ามคืนติดไม่ได้หยุดไปสักนิดเดียว ปาร์คจีมินที่ได้ยินก็ลองตัดสินใจเดินเปิดประตูตำหนักบรรทมเข้าไปหา สายตาแรกที่เห็นคือของมากมายเกลื่อนกลาดเละเทะเต็มตำหนักไปหมด แม้ขนาดข้าทาสรับใช้ของนางเองนั้นก็ยังต้องเดินหนีออกมาเพราะรับมือไม่ไหว

    “เจ้าเป็นอะไรไปเจฮยอน?” จีมินเอ่ย

“ไม่มีใครเข้าใจข้าเลยสักคน เสด็จพ่อก็ไม่เข้าใจข้า เสด็จแม่ก็เอาแต่ยุ่งกับงานที่ทางหลวงส่งมา แถม...สามีของข้ายัง” เสียงหรี่เงียบดับไปกลางคัน

จีมินตกใจหนักเมื่อรู้ว่าน้องสาวของเขาเอง ดันมีสามีเสียแล้ว ร่างตัวสูงกว่าเธอ5เซนเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอ ด้วยความเป็นห่วง แขนกอดเข่าก้มหน้าไปร้องไห้ซบหัวเข่านั้นยิ่งทำให้จีมินรู้ว่าเธอเก็บเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“ใครกันที่เป็นสามีเจ้า? แล้วฝ่าบาทรู้หรือไม่!?” วางมือลงที่แขนเล็ก

    เสียงร้องไห้ดังมากกว่าเดิมกว่าครั้งก่อนๆที่ผ่านมา อ้อมกอดสวมเข้ามาหาเขาอย่างแรงและเร็วมากจวนตัวเกือบเซล้มไปกับพื้นแต่ยังดีที่มือข้างขวาของจีมินยันร่างเซเอาไว้ได้ซะก่อน น้ำตามากมายไหลหยดลงบ่ากว้าง เจฮยอนไม่สามารถยับยั่งสติที่ล่องลอยหายไปได้เลยเมื่อต้องจากลาคนที่นางรักไป

...

“สามีของข้า ฮึ่ก! คือทหารคิม ซองกยู ฮือออ!” เอ่ยกับจีมินด้วยเสียงที่สั่นเครือ

      แต่ทั้งองค์หญิงและองค์ชายเองทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าองค์พระมเหสีจองเฮเองกำลังทรงเดินมาอยู่หน้าประตูตำหนักด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน และเธอมาได้ยินคำตอบของเจฮยอนหมดทุกอย่าง

ดวงตาเกรี้ยวกราด คิ้วขมวดปม มือกำกระโปรงสีขาวสะอาดตาแน่น ก่อนจะเดินเข้ามากระชากผมเปียยาวจากเกสาพระธิดาของตนเอง

“เจ้ากล้าดียังไงถึงได้กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ออกไปได้น่ะห๊ะ!”

“ข้าขอโทษท่านแม่ ฮืออ ~ แต่ข้าไม่อาจไปรักชายใดได้อีกแล้ว” ก้มตัวไปกอดพระบาทของมารดาต่อหน้าจีมินที่ยังคงตกใจอยู่

     จองเฮขาแขนอ่อนแรง เธอร่วงล้มลงนั่งคุกเข่ากอดเจฮยอนแน่นมากกว่าทุกที น้ำตาจากข้างในอกของทั้งสองไหลออกมาพร้อมกัน เจฮยอนขอโทษเธอ แม้มันจะเป็นความรักที่ดี แต่จีมินที่นั่งมองอยู่ด้านหลังกลับรู้สึกอิจฉาน้อยๆ ที่เขาไม่มีใครให้กอดแบบนี้สักคนแล้ว

     เช้าวันถัดมา

       ตำหนักใหญ่

     “ให้ข้าไปแทนเจฮยอนเถอะ” จีมิน

คำพูดที่ออกมาจากปากองค์ชายจีมินเอง องค์ชายบุตรเพียงคนเดียวของยองเฮตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์ด้วยเจตจำนงอยากจะขอร้องกับกษัตริย์เพียงสองคนตั้งแต่รุ่งเช้า ร่างคุกเข่าก้มหน้ามือเหยียดวางที่พื้นตำหนักกับเสียงขอร้องเหมือนคนอื่นทั่วไป

“ทำไมเจ้าถึงจะขอไปแทนนาง?” ลองถามเพื่อความมั่นใจจากอีกฝั่ง

    “ถึงความรักของทุกคนจะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น...แต่ข้าว่านางสามารถมองเห็นมันได้พร้อมกับคนที่นางรัก  ส่วนข้า ในเมื่อฝ่าบาทเองก็รังเกียจในตัวข้าอยู่แล้ว ข้าก็คิดว่า ข้าอยากจะลองไปหาบางสิ่งที่ข้าไม่เคยเห็นจากนอกเมืองดูบ้าง หวังว่าฝ่าบาทเองจะทรงกรุณา” ก้มหน้าตอบไม่อาจเอื้อมไปจ้ององค์ราชาได้

แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของกษัตริย์โคจองเลยแม้แต่นิดเดียว มันคือโอกาสอันแท้จริงที่จะทำให้ตนเองไม่ถูกมองว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงโหดเหี้ยม เพราะจีมินยินยอมที่จะไปเอง และเสนอตัวตายเอง แบบที่ไม่มีผู้ใดมาบังคับเขา

“งั้นเจ้าก็จงใช้เวลาอีก1วันที่เหลือของเจ้า ทำยังไงก็ได้ ให้คนทั้งราชวังมองเจ้าว่าเจ้าคืออิสตรี”
หัวโค้งคำนับกล่าวลาก่อนจะเดินจากออกไปเงียบๆและดูไม่มีท่าทีจะกังวลกับการไปในครั้งนี้เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว จีมินเดินไปบอกเจฮยอนในพระตำหนัก และดูเธอจะดีใจมากเมื่อรู้การตอบรับของบิดา

องค์ชายบอกข้อตกลงขององค์ราชาให้เจฮยอนฟัง เธอยินดียอมยกเครื่องแต่งกายทั้งหมดของเธอรวมไปถึงเครื่องประดับและสำอางต่างๆ มากมายให้จีมินแต่เพียงผู้เดียว

“พรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านพี่ลองใส่ชุดของสตรีออกด้านนอกดู กับเครื่องประเคนผิวหน้าพวกนี้ด้วย เผื่อท่านพ่อจะเห็นความงดงามของท่านพี่บ้าง”

“หมายความว่าข้าต้องเอาสิ่งของพวกนี้มาไว้ที่หน้าข้างั้นเหรอ?” นิ้วชี้ไปที่เครื่องสำอางทั้งหมดในกล่องไม้ที่เจฮยอนเป็นเจ้าของ

นางไม่ตอบออกมาเป็นเสียงเว้นแต่จะตอบออกมาด้วยการพยักหน้าและค่อยๆ หยิบออกมาเปิดให้จีมินดู พระธิดาเริ่มจากแป้งสีขาวที่สั่งตรงมาจากร้านค้าขายเครื่องประทินผิว รวมไปถึงหมึกที่มาจากต้นครามละลายน้ำไว้ทำสำหรับเขียนคิ้ว และลิปสีแดงก็ทำมาจากหินสีแดงบดผสมกับน้ำมันจากเมล็ดพีชจนได้สีแดงฉานน่ากลัวดั่งเพลิงออกมาให้จีมินได้เห็น
​​
“นี้ข้าต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?” พึมพำกับตัวเองจนเจฮยอนอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาเบาๆเพราะสีหน้าจีมินที่มีความรู้เรื่องนี้แทบจะเป็น0ได้

“ของพวกนี้คือสิ่งที่จะทำให้องค์ชายจากเขตกลางหลงรักท่าน เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านไปที่นั่นล่ะก็ เหล่าสนมของเขาจะไม่ปล่อยท่านไว้เฉยๆ แน่” เจฮยอนพูดให้คำแนะนำปาร์คจีมินก่อนที่นิ้วจีมินจะแอบลองเอาแป้งที่ทำมาจากผงข้าวมาแต้มลงที่หน้าของเขาบางๆ

...ข้าคิดถูกแล้วสินะ ที่เลือกจะไปที่นั่นแทนนาง...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

TALK TALK

อีก1 ตอนๆ ๆ ๆ จีมินก็จะได้เจอกับจองกุกแล้ว  >< องค์รัชทายาทสุดหล่อของเรา เรื่องราวถูกเปิดเผยออกมาแล้วอย่างรวบรัด (ถ้าทำยาวๆ เกินไปคงหน้าเบื่อแน่ๆ 555) เราจะได้เห็นจีมินกลายเป็นผู้หญิงสวยๆ แล้ว ฝากติดตามและคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ตัวละครด้วยนะคะ

BY. OASIS

HASHTAG ; #นางสนมจีมิน

Continue Reading

You'll Also Like

41.3K 418 17
"เอากันแล้วไม่ให้เรียกว่าเมียจะให้เรียกว่าอะไรหล่ะ? หืมม" JK
174K 862 20
ฟิคสั้นกุกวี ตามภาพแฟนอาร์ท
268K 3.3K 22
"ผู้หญิงของคุณพ่อนี่ปากเก่งทุกคนเลยนะครับ...แต่ผมไม่เห็นมีใครปากเก่งจนทำให้คุณพ่อเสร็จได้แบบผมเลย"
13.9K 332 26
จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจะต้องปิดบังความลับที่แท้จริงของตนเองเอาไ...