Afterword
ก่อนอื่นเลย ขอบคุณคุณนักอ่าน 'พระเนตรสีเทา' ที่เคยรีเควส JP/SS ABO au ไว้เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ถ้าคุณไม่ได้รีเควสไว้ในตอนนั้น ก็คงไม่มีฟิคเรื่องนี้
ขอบคุณเหล่าผองเพื่อนผู้ซัพพอร์ตเราเสมอมา: Valeria สำหรับความอดทนและการผลักดันให้เราทำในสิ่งที่รักแม้โลกนี้จะชี้หน้าบอกย้ำว่ามันเป็นไปไม่ได้, peterpan สำหรับความสดใสและการปลอบโยนแบบพระอาทิตย์เทเลทับบี้, Y. สำหรับบทสนทนาเชิงปรัชญา/วิเคราะห์วรรณกรรมและการรับฟังความเวิ่นเว้อของเรา, อล สำหรับความเปิดกว้าง การเป็นผู้ฟังที่ดีและให้กำลังใจเราเสมอ และ ม. สำหรับการอ่านงานยาวเป็นร้อย ๆ หน้าให้เพื่อย้ำว่าเราทำได้ดีแล้ว
State of Nature เกิดขึ้นในช่วงขณะที่เราเริ่มหมดไฟกับการเรียนมหาลัย และเป็นช่วงที่ชอบอ่านปรัชญาการเมืองเอามาก ๆ ดังนั้นอาจพูดได้ว่าแท้จริงแล้ว นอกเหนือจากจุดประสงค์เรื่องการทดลองสไตล์การเขียนแบบที่อยากทำเพื่องานออริในอนาคต เรื่องนี้คือแหล่งรวมพลังงานลบและความสิ้นหวังของเราในช่วงเวลานั้นเอง
ช่วงเวลาที่มืดหม่นที่สุดของเราคือสองปีสุดท้ายก่อนเรียนจบ ทุกวันในช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความคิดแง่ลบและความขมขื่น แต่สำหรับเรื่องนี้ เราไม่ได้ใส่พลังงานลบไปในงานเพราะหวังจะระบายมันออกมา ตรงกันข้าม เราเขียนมันราวกับว่านี่คืออากาศ แม้ว่าระหว่างทางเราจะต้องจมลงสู่มหาสมุทรเพื่อตะเกียกตะกายขึ้นมาบนบกอีกครั้งก็ตาม เพราะการเขียนทำให้เรารู้สึกว่ามีชีวิต— มีจิตวิญญาณ ช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือชั่วขณะที่โลกเงียบเสียงลง ตัวอักษรพรั่งพรูออกจากนิ้ว ถักทอจนกลายเป็นถ้อยคำ เล่าเรื่องราวที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ และปล่อยให้คนบนหน้ากระดาษได้มีชีวิต
ขณะที่เขียน Afterword นี้อยู่เราก็เพิ่งหาความหมายของงานเขียนชิ้นนี้ให้ตัวเองได้ ว่านี่คือหลักฐานของการพยายามมีชีวิต ภายในช่วงเวลาที่กำลังรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
อีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า State of Nature คือเรื่องเล่าของความพยายามในการมีชีวิต แม้ว่าความสิ้นหวังกำลังกัดกิน และความตายอยู่เพียงแค่เอื้อม การเฝ้าฝันถึงความหวังที่เป็นเพียงเมล็ดพันธุ์นั้นเป็นเพียงอนาคตไม่แน่นอน ทว่าสุดท้ายแล้วความเจ็บปวดเหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอดีต บาดแผลเลือดซิบจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ และเมื่อตัวละครเหล่านี้ได้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันเจ็บปวดและมรสุมพายุแล้ว พวกเขาจะเปลี่ยนไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
วันหนึ่งเรื่องนี้อาจจะถูกเรามองว่าเป็นแค่อดีตที่แทบไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้ว ไม่ต่างจาก Frozen Heart ที่เราเขียนเมื่อสมัยเด็ก แต่กระบวนการเบื้องหลังแต่ละถ้อยคำมีความหมาย ทุกรายละเอียดหรือแม้กระทั่งโคว้ทเปิดเรื่องมีนัยยะและจุดมุ่งหมายซ่อนอยู่ State of Nature เป็นงานที่เราทุ่มเทมากกว่าเรื่องไหน ๆ โดยไม่รู้ตัว และจากนั้นก็กลายเป็นเรื่องที่เราภูมิใจมากที่สุด (อย่างน้อยก็ในขณะนี้)
เจมส์กับเซเวอร์รัสเป็นคู่ที่เราชอบที่สุดตลอดกาล ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์เป็นพิษของพวกเขา แต่เป็นเพราะความแตกต่างที่ทั้งผลักทั้งดูดกันเหมือนแม่เหล็ก พวกเขาทั้งคู่อยู่กับเราตั้งแต่เด็กจนโต และตอนนี้ก็ถึงเวลาโบกมือลาทั้งคู่ ปล่อยให้พวกเขาได้โลดแล่นอยู่ในหน้ากระดาษ สร้างสีสันของการมีชีวิตในโลกตัวอักษร ส่วนเราเองก็จะก้าวไปข้างหน้าและเติบโตในแบบของเราเองเช่นกัน
พารากราฟสุดท้ายนี้ขออุทิศให้กับนักอ่านทุกคนที่ชอบเรื่องนี้ เหล่าคนที่ค้นพบงานของเราและชอบศิลปะจากคนที่ตัดใจจากมันไม่ขาด ขอบคุณสำหรับทุกตัวอักษรที่พวกคุณส่งให้เรา ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งถ้อยคำของพวกคุณได้ช่วยชีวิตเราขึ้นมาจากหุบเหว ขอบคุณที่รักและคอยติดตามเจมส์และเซเวอร์รัส แม้ว่าเราจะดัดแปลงอะไรหลาย ๆ อย่างไปมากก็ตาม และแม้ว่าเรื่องนี้จะยังคงมีช่องว่างและข้อควรปรับปรุงให้พัฒนา ขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้พวกเขาทั้งคู่เสมอมา
และนี่คือบรรณาการสุดท้าย แด่ชีวิตที่เกิดขึ้นในจินตนาการ และความเจ็บปวดที่ทิ้งร่องรอยไว้ในความเป็นจริง
- Ignetuz
(10-09-2022)
![](https://img.wattpad.com/cover/150315316-288-k870558.jpg)
YOU ARE READING
[HP fic][JP/SS]State of Nature (Omegaverse) (END)
FanfictionHarry Potter fanfiction: Long story#02 Title: State of Nature Author: Ignetuz Timeline: During the Marauder's era Pairing: James Potter/Severus Snape Omegaverse Rating: M-MA Notes: Psychological/Drama Starts: Jan 2018-Sep 2022 ...