[END] [KOOKMIN] #นางสนมจีมิน

Por Nnutzzr

13.9K 332 31

จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจ... Más

INTRODUCTION.
Ep.01
Ep.02
Ep.03
Ep.04
Ep.05
Ep.06
Ep.07
Ep.08
Ep.09
Ep.10
Ep.11
Ep.12
Ep.14 (NC)
Ep.15
Ep.16
Ep.17
Ep.18
Ep.19
Ep.20
Ep.21
Ep.22
Ep.23
Ep.24 [ตอนจบ]
ชี้แจง (ครั้งสุดท้าย)

Ep.13

502 13 2
Por Nnutzzr

- - - - - - - - - - - - - - - - -

ชายหนุ่มหลังมืออาบเลือดที่เดินเข้ามานั่งอยู่ในตำหนักส่วนพระองค์เงียบๆคนเดียวไม่มีผู้คอยเฝ้าอยู่ด้านนอก ดวงตาเศร้าหมองได้แต่มองจับจ้องไปทางเตียงบรรทมสีขาวเมื่อคืนวัน ภาพจำที่แตกร้าวยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่สม่ำเสมอ มือข้างขวายกกุมขมับแทบจะปาเครื่องทรงศีรษะร่วงลงพื้นไม่สนพระทัย

“ทำไมเจ้าต้องทำแบบนั้นลงไปด้วย!” วางกำปั้นลงโต๊ะขาเตี้ยอย่างแรง

    ปึง!!

ป้อมรักษาติดประตูราชวังถูกพังทลายเข้ามาในเวลาไม่นานตามที่คิดคำนวณเอาไว้ ทหารทั้งหมดตกใจและขาแทบก้าวหนีออกไปจากตรงนั้นไม่ได้เมื่อสองดวงตาได้เห็นในภาพลักษณ์ของกลุ่มโจรเหยี่ยวดำทั้งหมดเข้ามายังเขตราชวัง ม้าทรงของโบจุนคราวนั้นกลายมาเป็นม้าศึกของโฮซอกในทันตาเห็นร่างกายของมันเข้าคู่กับผู้ที่นั่งอยู่บนหลังมันได้อย่างพอดี ทันทีที่ประตูบานใหญ่ยักษ์ถูกพังเข้ามาจนหมด แขนข้างที่จับดาบยกขึ้นตระหง่านในเชิงความหมายสั่งองค์ราชา ผ้ากระโปรงของจีมินถูกตัดมามัดกับข้อมือเพื่อประกาศก้องทั่วราชวังเป็นสักขีพยาน

“ข้ามาตามหานางผู้หนึ่งที่มีสมญานามว่าเป็นเมียของพระอนุชาของข้า!! หากพวกท่านยังไม่อยากตาย โปรดส่งตัวนางผู้นั้นออกมาบัดเดี๋ยวนี้!!” สายตาเหยี่ยวมองไปทั่ววัง แต่ก็ไม่มีวี่แววเห็นใครสักคนที่เป็นผู้ปกครองเขตแดนยกเว้นทหารป้องกันความปลอดภัยเท่านั้น

“หากไม่มีใครส่งตัวนางมา ข้าจะพังราชวังให้สิ้นดินแดนไปเลย!!”โฮซอก

  และเมื่อจบประโยคข่มขู่ของโฮซอก คำสั่งสลายกลุ่มกันตามหาก็เอ่ยออกมาทันท่วงที จำนวนประชากรโจร 20 คน ต่อทหารที่มีมากกว่าถึง200 นายก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาชนะไปซะทีเดียว กองกำลังป้องกันราชวังรวมไปถึงแทฮยองถูกทำร้ายจนพังราบคาบ แทฮยองฝืนบาดแผลรีบกลับไปยังตำหนักขององค์รัชทายาทด้วยพละกำลังที่ยังคงเหลืออยู่ โลหิตสีแดงเปรอะเปื้อนเต็มชุดเกราะของแม่ทัพไปหมด ดาบเหลาให้คมกลายเป็นสามขาพยุงไปให้ถึงจองกุก

“รีบพาฝ่าบาทหนีไป พวกเจ้าต้องพาฝ่าบาทไปหลบซ่อนทางเขตเหนือก่อน เร็วๆ!” พระมเหสีรีบสั่งการทหารประมาณ 3-4คนคอยคุ้มกันองค์กษัตริย์ พระนางดันพวกเขาออกจากทางออกลับหลังวังโดยเร็ว แต่หารู้ไม่ว่ามีโจรคนหนึ่งมาเจอเข้าพอดี


   หยุด!!

เสียงเอ่ยลั่นดังก้องไปทั่วเขตหลังราชวัง ดาบขนาดใหญ่ชี้มาที่ร่างองค์ราชินีที่เหลืออยู่เกือบคนสุดท้ายปลายแถวทางออก เธอมองแล้วจึงคิดหนทางที่ยอมแลกได้แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง ใบหน้านางมองไปทางองค์กษัตริย์ผู้เป็นที่รักสุดหัวใจ

  !!!

ชุดสตรีผู้เป็นหนึ่งในเขตแดนผลักประตูปิดทิ้งให้ตัวเองเหลืออยู่ข้างในเพียงแค่ผู้เดียว ใบหน้าของพระนางมองโจรผู้นั้นอย่างแน่วแน่ องค์ราชาเห็นก็แทบไม่เป็นผู้เป็นคนในฉับพลัน

“โบมิน! โบมิน!!”

พระกษัตริย์เอ่ยตรัสก่อนจะพยายามฝ่าดงนางกำนัลไปให้ถึงประตูบานนั้น แต่ประตูลับดันปิดเสียแล้ว ร่างกายพยายามดันพังประตูเข้าไปเพื่อพาโบมินออกมา แต่ร่างของสตรีผู้กล้าหาญคนนี้กลับเป็นคนที่ดันรั้งไว้จากด้านในเพื่อรักษาชีพขององค์กษัตริย์สุดชีวิต

“หนีไปเพคะ! ทิ้งหม่อมฉันไว้ ให้หม่อมฉันได้ตายที่นี้จะดีเสียกว่าเพคะ!!”

    “ฮือออ~ หนีไปเพคะ”

เสียงร่ำไห้ของพระมเหสีดังผ่านประตูมาด้านนอกจนทำให้ฝ่าบาทรับรู้ได้ถึงน้ำใจที่ใหญ่หลวงของนาง องค์กษัตริย์เสียพระทัยร้องไห้แล้วจึงปล่อยวางเดินโซเซไปพร้อมทหารที่เหลือที่ลากแขนฝ่าบาทออกมาให้ไกลที่สุด

“หม่อมฉันรักพระองค์นะเพคะ…” คำกล่าวลาครั้งสุดท้ายจากปากชายาได้เอ่ยออกมาก่อนดาบขนาดใหญ่เล่มนั้นจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วพอสมควร 

แต่เมื่อครั้นปลายดาบของมหาโจรข้าน้อยผู้นั้นวางใกล้เข้ามาจะถึงตัวของเธอ สวรรค์กลับเข้าข้างอย่างรู้เห็นในสิ่งที่นางทำมา ดาบคู่บารมีเมืองยกกั้นเพชฌฆาตเอาไว้จากองค์พระชายาได้ทันเวลา องค์รัชทายาทหนึ่งเดียวใช้ดาบที่เทียบไม่ได้มารองความตายเอาไว้จนตัวสั่น มือข้างซ้ายรองช่วงปลายดาบเลือดออกหนักเมื่อความลื่นพาฝ่ามือเลื่อนกินดาบจนโลหิตไหลออกมา

“จองกุก…” เธอยิ้มทั้งน้ำตาทันทีที่เห็นหน้าบุตรชายมาช่วยไว้ทันการณ์

ข้อมือยกปัดดาบด้านบนไปเอียงเอนไปอีกฝั่งแล้วจึงฟันปลายดาบคมลงยังแขนและเลื่อนไปลงดาบเข้าที่คอของโจรตัวใหญ่ผู้นั้นลงอย่างจัง ดาบขนาดหนักตกลงพื้นเสียงดังไปทั่วบริเวณนั้นร่างไร้ลมหายใจร่วงทับสันคอม้านิ่งไปหลายชั่วยาม
เขากระชากซากทหารโจรลงจากหลังม้าเสียงดังไม่สนใจร่างกายที่หมดลมแล้ว องค์ชายเคลื่อนม้าเดินไปเปิดประตูทางออกลับให้ ดวงตามารดาเงยมองลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“นี่เจ้าจะไปไหน ทำไมถึงไม่ลงมาแล้วไปกับแม่!”

“ลูกให้คำสัตย์ไปกับเขาแล้วว่าลูกจะรักเขา และลูกก็ไม่อาจฝืนคำสัตย์ตนเองได้ เพราะจีมินบอกกับลูกเอง ว่ากษัตริย์ต้องไม่คืนคำ”

สิ้นคำเอ่ยเสร็จร่างชายหนุ่มบุกบันก็รีบควบอาชาไนยกายหนาออกไปยังลานหน้าวังอย่างรวดเร็วตามออกมาจากโรงม้าด้วยแม่ทัพคู่วรกาย ซอลฮันที่กำลังวิ่งมาทางประตูลับเช่นกันก็ตกใจผงะที่ตนเห็นจองกุกขี่ม้าออกไปข้างหน้าวัง ทั้งที่ก็เห็นว่าทุกคนกำลังวิ่งสวนกับเขาอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย

“แกจะมายืนบังทำไม! หลบไปสิ!!” นางสนมเพื่อนของหล่อนผลักเธอร่วงล้มลงพื้นอย่างแรงจนเข่ามีบาดแผล

ม้าสีน้ำตาลควบไปเผชิญหน้ากับโฮซอกที่ยืนมองทุกสิ่งทุกอย่างกลางลานราชวังซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางออกยืนชมภาพราชวังล้มลงมาไม่เหลือสภาพเดิม เสียงฝีเท้าอาชาวิ่งตะบันออกไปเสียงดังไม่หวั่นเกรงความตาย ตัวราชวังเริ่มทรุดลงมาไม่เหลือซากเดิม เพียงไฟสีแดงฉานจุดเผาทุกส่วนจนกลิ่นไหม้ตลบอบอวลเป็นสัญญาณของการสิ้นราชวงศ์ทั้งมวลในที่นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างพังพินาศลงภายในพริบตาเดียว ควันดำลอยพุ่งอยู่เหนือฟ้าจนเหม็นสาบจมูก

แทฮยองที่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็รีบควบม้าตามออกมา ร่างทหารผู้ภักดีตามติดองค์ชายไปเรื่อยๆไม่ขาดตอน สายตาโฮซอกหันลงละมามองก่อนจะเริ่มแสยะยิ้มสมเพชเวทนา มหาโจรยกดาบขึ้นเตรียมท่ารับเป็นอย่างดี แขนใหญ่กวาดดาบลงกะจะปาดคอให้สิ้นคาหลังม้า แต่โชคเข้าข้างข้อมือกระตุกเชือกตัวอาชายกร่างกระโดดข้ามดาบนั้นผ่านไปได้เกือบเฉียดกีบเท้าของตัวม้าตัวหนักไปเพียงนิดเดียว เสียแต่หากโชคดันไม่เข้าข้างที่โฮซอกดันหมุนข้อมือกลับไปฟันลงเข้ากลางหลังแทฮยองผู้ติดตามเข้าอย่างจังจนเลือดกระอักออกมานอกริมฝีปาก

“หนีไปน้องชายข้า หนีไปพร้อมกับความน่าอดสูของเจ้าซะ!!! 5555” เสียงตะโกนรั้งท้ายดังตามมาทันทีที่พวกเขาออกมาจากวังไป

   กระท่อมโทรมกลางป่าลึก

เสียงหัวเราะอันน่าสะพรึงที่ดังกึกก้องไปทั่วแผ่นดินหลวงแสดงมหาอำนาจที่ตอนนี้จองโฮซอกได้ทำการยึดครองไว้หมดแล้ว กลิ่นไม้และเสร็จซากการเผาจนเป็นขี้เถ้าสีดำลอยครุ้งไปทั่วแผ่นฟ้า มือเปิดประตูแง้มออกไปดูภายนอกเพื่อสังเกตการณ์ ปราสาทขนาดใหญ่กลายเป็นสีดำถ่านที่เคยตั้งตระหง่านล้มไปไม่เหลือสภาพดีพร้อมไฟที่กำลังลุกโชนหนักร้อนปฐพี

“ไม่เหลือแล้ว...หมดสิ้นแล้ว” ยุนกิเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาที่ไหลไม่ได้ตั้งตัว เขตราชวังที่ตนเคยอยู่มาตั้งแต่เด็กเมื่อเริ่มหัดจับดาบครั้งแรก บัดนี้ได้กลายมาเป็นเพียงเศษขี้เถ้าดำดั่งตอตะโกอยู่บนอากาศเท่านั้นให้โฮซอกได้เชยชมไปเสีย

ในระหว่างทางที่ทั้งสองชายรูปร่างสูงกำลังจะหากระท่อมหลบการโจมตีของพวกมันอยู่นั้น เขาก็พบเข้ากับขบวนเสด็จของทางใต้ที่ในตอนนี้สภาพของมันแสนจะยับเยินไม่เหลือชิ้นดีแต่อย่างใดให้ได้มอง ทหารที่ทรงมาด้วยตายหมดสิ้นไม่เหลือสักคน หากเมื่อทั้งสองกำลังจะผ่านมันไปเงียบๆ กลับมีบางอย่างร่วงหล่นออกมาจากตัวรถม้าที่ล้อพังข้างใน

“หมวกทหาร ของจีมินนี่นา?” เขาลงจากม้าตัวหนาแกร่งก่อนจะก้มตัวไปเอื้อมหยิบเก็บขึ้นมาไว้กับตัวเอง

มือหมุนดูข้างหมวกหนักนี้ก็พบตราสัญลักษณ์สัตว์ประจำดินแดนเหนือที่ไม่ใช่นกยูงของดินแดนพระองค์ และในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นแทฮยองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตายกลับไร้เรี่ยวแรงทรงตัวร่วงลงจากหลังม้ากระแทกกับพื้นดินอย่างแรง จองกุกหันหน้าพลันรีบวิ่งไปดูอาการองครักษ์ที่กระอักเลือดออกมาจนน่าเป็นห่วงหนัก

“กระหม่อมไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย กระหม่อมแค่เพลียนิดหน่อย…ได้โปรดองค์ชายทรงประทานที่พักให้กระหม่อมได้พักที กระหม่อมง่วงนอน” เสียงแหบพร่าและเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังคงพูดต่อล้อและยังคงยิ้มจางเพื่อให้จองกุกยังรู้สึกได้โดดเดี่ยวอยู่ตัวคนเดียวในที่แห่งนี้

แขนยกร่างบาดเจ็บขึ้นวางบนอานม้าตัวที่แทฮยองขี่มา หากมือขององค์รัชทายาทจะจับเชือกบังคับจากอาชาที่แทฮยองขี่มาลากต่อติดกันไม่ให้หลงทาง กีบเท้าเดินไปเรื่อยๆจนสายตาคมไปเจอเข้ากับกระท่อมเก่าหลังหนึ่งเข้าพอดี เชือกสะบัดพาม้าให้เดินไปเร็วขึ้นจนเมื่อถึงก็รีบพาแทฮยองลงมาทันที

   !!!

“พวกมันกลับมางั้นเหรอ!” จีมินพึมพำเบาๆกับยุนกิในกระท่อมสองคน

ทั้งสองที่กำลังนั่งหลบมุมอยู่ภายในกระท่อมหลังไม่ใหญ่มากนักหวาดระแวงจนตัวของทหารมินยุนกิเผลอกอดจีมินแน่นเพื่อที่จะพยายามควบคุมความกลัวของเขาทั้งหมดให้ลดลง ภายนอกชายหนุ่มซึ่งกำลังแบกร่างองครักษ์มายังหน้าประตูกระท่อมนั้นก็คว้าขอบประตูกระท่อมเปิดเข้ามาไม่ทันได้มองก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเจอกับชายตัวเล็กผิวขาวที่หลบอยู่ยังมุมขวาของกระท่อมกับทหารรักษาพระองค์

   …

“จีมิน…” ผงะตกใจ

เมื่อได้ยินเสียงของชื่อองค์ชายน้อย ใบหน้าเปื้อนเลือดของแทฮยองก็เงยมองไปยังด้านหน้าที่มีร่างชายสองคนนั่งกอดกันกลมไม่ขยับไปไหน เขามองยุนกิก่อนจะเผลอยิ้มทั้งเลือดเลอะปากออกมาจากความรู้สึกข้างในอันเต็มเปี่ยมความดีใจและความโล่งอก

    “เจ้ายังไม่ตาย...” แทฮยองเผลอพูดขึ้นมาเบาๆ

“องค์ชายจองกุก…”

จีมินที่ร้องไห้ตัวสั่นเทาเงยหน้ามามองจองกุกทั้งน้ำตาคล้ายเด็กวัยกำลังคลานมองมายังบิดามารดาไม่ต่างกัน เมื่อได้พบชายที่รักยังมีชีวิตอยู่ จีมินก็จึงค่อยๆคลายแขนเล็กออกจากอ้อมกอดร่างทหารผิวขาวช้าๆ องค์ชายวางร่างที่กำลังเสียเลือดลงในกระท่อมทะนุถนอมมือ แต่ตัวตนเองกลับเลี่ยงเดินออกไปนั่งด้านนอกแทน จีมินมองไปยังเลือดบนหลังรวมไปถึงร่างขององครักษ์คิมแทฮยองก็รีบลุกขุกขึ้นหันไปหายุนกิอย่างเร็วพลัน

“ยุนกิ เจ้าช่วยออกไปหาต้นใบบัวบกมาให้ข้าที ตอนนี้เขากำลังเสียเลือดหนักมาก” จีมิน

ทหารหนุ่มโค้งน้อยก่อนที่ตัวจะเดินออกตามหาแถวข้างๆแม่น้ำนั้นจนไม่นานก็พบตามที่คิดไว้จริงๆ เมื่อนำกลับมาถวายองค์ชายร่างเล็กนั้น จีมินก็รีบฉีกใบออกจากต้น มือหยิบนำใบของมันเข้าปากเคี้ยวจนแหลกละเอียด มินยุนกิมองเพื่อนก่อนจะช่วยแกะเครื่องนุ่งห่มส่วนบนออก ใบบัวบกที่ละเอียดแล้วก็บ้วนออกจากปากสวยพร้อมกับแปะประคบลงที่แขนไล่ไปถึงบนพื้นหลังแทฮยองอย่างหนาเพื่อความมั่นใจจากชายตัวเล็กที่นั่งขัดสมาธิเรียบร้อย

“พระองค์รู้วิธีพวกนี้มาจากไหน?” ยุนกิเอ่ยถามสงสัย

    เอ่อ...

“ตอนเด็กๆ ข้ามีบาดแผลจากการเล่นซนเยอะ แม่ของข้าก็จะใช้วิธีนี้บ่อยจนข้าจำได้” เกลี่ยใบไม้ให้ทั่วแผล

ในระหว่างนั้นทหารมินยุนกิจึงขออาสาออกไปหาของกินมาให้อย่างระมัดระวัง ซึ่งจีมินก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพราะเขาก็จะอาสาดูแลแทฮยองให้เอง จอนจองกุกซึ่งเห็นยุนกิเดินออกมาและไปไกลแล้วจึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปดูอาการของทหารตนเองแบบเงียบๆทำเป็นไม่ได้มองจีมิน

“เป็นยังไงบ้าง?” พูดลอยๆ ตาหาได้มองหน้าจีมินไม่
     …

“อีกสองสามวันบาดแผลมันก็คงเริ่มสมานกันดีขึ้นมากกว่านี้…พ่ะย่ะค่ะ” ก้มหน้าไม่มองร่างหนาพลางเอาแต่เกลี่ยใบบัวบกให้ทั่วรอยดาบ
ร่างสูงเชยหน้ากลับขึ้นมามองด้านหน้า เขานั่งขัดสมาธิตรงข้ามกับองค์ชายจีมินห่างกันแค่เอื้อมมือหนึ่งเท่านั้น มือข้างขวาหยิบของบางสิ่งออกมาจากข้างหลังตัวเอง หมวกโลหะสีดำทมิฬยื่นหว่างกลางระหว่างกายทอดกั้นยาวอย่างแทฮยอง

“ข้าเห็นเจ้าลืมมันไว้ที่ขบวนเสด็จ...ข้าจำได้ว่ามันสำคัญกับเจ้ามาก เลยหยิบติดตัวมาด้วย” ยื่นหมวกโบจุนคืนจีมิน

มือเล็กสองข้างเอื้อมไปรับคืนจะวางลงตักที่นั่งขัดสมาธิเช่นกันแต่มือคนเก็บได้กลับขัดความรู้สึกในจิตใจไม่ได้ เขาไม่ปล่อยมือออกจากหมวกสักทีและดูท่าจะยังคงค้างไว้แบบนี้ไปอีกนาน สายตาของทั้งคู่ที่มองกันมันคือสายตาที่มีแต่ความห่วงใยและความรักอย่างบริสุทธิ์จริงที่มีให้อย่างเปี่ยมล้นแต่ก็ต้องปกปิดไว้จากความผิดบาปในคืนนั้นจึงห้ามเปิดเผยความรู้สึกออกมาแม้แต่เสี้ยวนิดในตอนนี้

“หากพระองค์ยังทรงจำคำเมื่อคืนวานได้…ก็ทรงปล่อยเถอะพระเจ้าค่ะ”

ดวงตาปนน้ำที่นองพร้อมจะไหลออกมาทุกการขยับทำให้สติขององค์รัชทายาทกลับมา พร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาออกจากใบหน้าไปให้พ้นๆทาง มือหนาปล่อยออกจากหมวกของตัวบาง สายตาเปลี่ยนเลื่อนมามองร่างที่กำลังนอนบาดเจ็บอยู่ ไม่นานมากนักยุนกิก็กลับมาพร้อมผลไม้ที่พอจะทานได้เพื่อประทังชีวิต

“นี่ผลไม้พระเจ้าค่ะ” ยุนกิ

มือเล็กรับผลไม้ป่ามาก่อนจะเริ่มแกะมัน แจกจ่ายให้ทั้งทหารของเขาเองและจอน จองกุกเองด้วยเงียบๆ

“ขอบใจ” องค์ชายจองกุกมองก่อนจะรับมาทานตอบความหวังดีนี้ให้สำเร็จผล

    ในขณะช่วงยามบ่ายตะวันจะเริ่มเอียงตกดินไปนั้น ชายหนุ่มสูงศักดิ์ลากพาตัวม้าของตนเองไปผูกซ่อนไว้หลังโขดหินใหญ่เพื่อกันไม่ให้ใครเห็นเข้า ทหารองครักษ์มินยุนกิที่จะเดินออกมาช่วยกลับตกใจที่ออกมาพบกับม้าตนที่เพิ่งปล่อยไปตามเวรตามกรรมในเวลาที่ผ่านมานานแล้ว แต่มันเลือกที่จะกลับมาหาเขาอย่างเชื่อฟัง

  “ข้าเลือกเจ้าไม่ผิดจริงๆ” ลูบเส้นผมตรงคอสูง

     ตกค่ำ

ทั้งสามคนที่ตัวใหญ่พากันนอนอัดอยู่ในกระท่อมหลังนี้ด้วยกันหมดไม่ผลักไสผู้ใด โดยที่จีมินจะนอนริมกำแพงในสุด ส่วนตัวยุนกิจะนอนต่อจากร่างเล็ก แทฮยองนอนระหว่างกลาง ส่วนตัวจองกุกจะนอนติดกับประตูทางออก ทั้งสี่นอนนิ่งไม่คิดจะขยับตัวสักนิดเดียวเพื่อให้สบายต่อคนข้างๆ

  จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้นานพอจะทำให้คนอ่อนเพลียหลับไปได้ ท้องฟ้ามืดสนิทจนตาเปล่ามองไม่เห็นสิ่งรอบข้างใดๆเลย ร่างผอมบอบบางที่นอนไม่หลับนั้นดีดตัวลุกขึ้นมานั่งมองกำแพงไม้เก่าช้าๆ แล้วจากนั้นจึงค่อยๆเงยไปมองแสงจันทร์ที่ลอดมาจากข้างนอก มือดันตัวลุกยืนเดินออกไปจากตัวกระท่อมเบาสุดเสียง ตัวเล็กเหมือนเด็กน้อยเดินไปตามทางของแสงจากดวงจันทร์ที่สาดไล่เป็นทางประดุจดั่งตะเกียงไฟในราชวัง เท้าก้าวเดินอ้อยอิ่งมาถึงริมแม่น้ำลึกเกินกว่ามนุษย์จะว่ายข้ามฝั่งไปได้ ก้นแห้งนั่งลงบนก้อนหินนับพันก้อนทับซ้อนกันจนผ้าคลุมกายเปียกเมื่อได้นั่งลงไปเต็มที่

...

“ดาวดวงที่1 ดาวดวงที่2 ดาวดวงที่3...” เสียงยืดยาวพร้อมนิ้วชี้จิ้มอากาศตรงไปบนท้องฟ้าประดับดาวสวยงาม องค์ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำลึกเพียงคนเดียวเอาแต่เงยไปใช้ตามองท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดาวมากมาย รอยยิ้มจืดจางยิ้มให้กับแผ่นฟ้าสีมืดครึ้มนี้ทั้งความคิดข้างในที่มันว่างเปล่าไร้การตัดสินใจอื่นแล้ว

“มันคงถึงเวลาของลูกแล้วสินะท่านแม่…” จีมิน
สิ้นคำพูดไต่ถามประหลาด ชายตัวบอบบางผิวสีขาวกระจ่างก็ลุกขึ้นและพาร่างตนเองที่แม้แต่ชีวิตคนที่รักก็ไม่มีเหลือสักคนร่วงลงดำดิ่งสู่แม่น้ำที่ลึกพอจะกลืนกินจีมินให้หายไปในคำเดียวได้ ชุดฮันบกสีแดงล่องลอยในแม่น้ำดั่งตัวเขากำลังลอยอยู่บนอากาศที่ไม่มีจุดศูนย์ถ่วง ดวงตาค่อยๆปิดช้าๆจนกระทั่งมีใครบางคนกระโดดลงมาคว้าร่างที่เตรียมจะปลิดชีพตัวเองไว้

ม่านตามองพร่ามัวไม่เห็นชัดมาก แต่พอคน คนนั้นดึงเอวของปาร์คจีมินเข้ามาใกล้ตัว คำตอบทุกอย่างก็เฉลยให้กับองค์ชายน้อยได้อย่างดีแท้ ชายฐานะเชื้อพระวงศ์กระโดดดำลงมาช่วยจีมินที่กำลังปล่อยให้ตัวเองจมน้ำตายในมือของเพชฌฆาตที่ไม่มีส่วนรู้เห็น จอนจองกุกพยายามกวาดน้ำว่ายเข้ามาจนประชิดตัว แขนข้างขวาเอื้อมลงไปคล้องกอดรัดเอวเล็กขอดดึงมาไว้ใกล้ตัว มือข้างซ้ายตบหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่เขาก็หาได้ฟื้นไม่ เพราะตอนนี้ชายผู้เป็นที่รักของเขาได้ขาดอากาศหายใจไปแล้ว ริมฝีปากสีธรรมชาติเก็บอากาศไว้ในปอดจึงทำการประกบจูบมอบจุมพิตเพื่อถ่ายเทอากาศตนเองทั้งหมดไปให้อีกคนใต้พื้นผิวน้ำสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาเล็กตี่เบิกขึ้นมองอีกครั้งทันทีที่ได้อากาศเข้ามาในปอด เขาตกใจที่เห็นจอนจองกุกลงมาช่วยตน แต่เมื่อความสุขจะเข้ามา ร่างหนาที่พยายามช่วยกลับหมดอากาศสำหรับตัวเองไปสิ้น ร่างเล็กรีบคว้าแขนหนา ว่ายพาเขาขึ้นฝั่งไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

  !!!

แรงแขนวางตัวหนาลงพื้นกองหินกลม มือสองข้างวางทับกันกดเอาน้ำออกมาจากในปอด มือเรียวสวยตบเข้าที่ข้างแก้มถี่เรียกชื่อชายที่ช่วยตนจนสลบไป มือพยายามปั๊มให้น้ำออกมาก็ไม่เห็นจะดีขึ้นเลย ปาร์คจีมินที่ไม่มีหนทางจะทำต่อ แต่ก็นึกถึงวิธีจากในหนังสือของพระมเหสียองเฮได้

    จูบช่วยชีวิตอีกครั้งพาน้ำจากข้างในจำนวนมากพอประมาณออกมาจากในปากอุ่น องค์ชายจากแดนเหนือมองก่อนจะเริ่มสะอื้นออกมาเบาเสียง

“ท่านทำบ้าอะไรลงไป!” 

เขาได้แต่สำลักน้ำพร้อมกับแขนขาอ่อนแรงล้มลงนอนกับพื้นหินก้อนไม่ใหญ่มาก ชุดที่เปียกปอนผมยาวสลวยของพวกเขาทั้งคู่ ไม่สนเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์แต่อย่างใด องค์ชายผิวกายขาวกว่ามององค์รัชทายาทก่อนจะทุบกำปั้นอ่อนแรงให้ลงไปยังหน้าอกหนาให้จองกุกรู้สึกขึ้นมาบ้างเสียที

“ท่านทำบ้าอะไร ท่านทำแบบนี้ทำไม!” ร้องไห้

มือสองข้างหนาจับกำปั้นมือเล็กที่สั่นอยู่กลางอกตัวเองมากุมไว้แน่น ณ ที่เดิม คนที่นั่งอยู่ตาเบิกโตไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมาสักคำ ส่วนคนที่นอนก็กำลังมองใบหน้าสดไร้เครื่องประโคมผิวหน้าพร้อมมอบยิ้มอ่อนให้เชื่องช้า มือขวาเอื้อมไปแตะยวงแก้มนุ่มนิ่มพลางลูบตามที่ตนชอบฉับพลันไม่ถึงชั่วหนึ่งลมหายใจร่างใหญ่สง่าต่อเชื้อพระวงศ์ก็ลุกขึ้นไปหาหนุ่มนั่งพื้นก่อนที่ใบหน้าเปียกน้ำจะเคลื่อนขยับเข้าไปใกล้ๆ และมอบจูบให้อย่างอ่อนโยน

“ท่านทำแบบนี้กับข้าทำไม ทำไมไม่ปล่อยข้าให้ตายไปเลย” ถอนจูบก้มหน้าหนีสายตาขององค์ชายจองกุกที่กำลังยิ้มห่วงพระทัยปาร์คจีมินอยู่ใน ณ ตอนนี้

ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม หน้าคมสันวางปลายจมูกแตะสัมผัสกับแก้มที่เปียกแต่ยังคงนุ่มเหมือนเดิมไม่ต่างกัน ร่างบางไม่ขัดขืนแต่อย่างใด หากแต่เขาจะสะดุ้งกับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง

    “เจ้าเป็นคนพูดกับข้าเองไม่ใช่หรือไง?”

“...”

   “ว่าหากกษัตริย์ตรัสอะไรไว้จะต้องไม่คืนคำ”

“องค์ชาย...”

  “เจ้าจะต้องเป็นชายาของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น”
สายตาพวกเขาต่างรู้สึกเหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาต้องอัดอั้นมันเอาไว้เท่านั้น ร่างชายหนุ่มเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงก้มลงประทับจูบโดยหาคุมสติตนเองได้ไม่ ทั้งสองจูบตอบกันโดยไม่เกรงกลัวทุกสิ่ง แขนเล็กคล้องคอหนา จองกุกพลิกตัวกดทับร่างบางให้นอนแนบกับพื้นดินอันแสนเย็นชืด

   ความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคนได้ขับออกมาจากนัยน์ตาใสกระจ่าง คำสั่งทั้งหมดคัดกลั่นออกมาเป็นการกระทำหมดแล้วสิ้น เขาปล่อยให้อีกคนกดขี่ร่างกายได้ตามสบายใจ ภายใต้สักขีพยานนั่นคือท้องฟ้า ดวงดาว และทุกสิ่ง

“ข้ารักเจ้านะ ปาร์คจีมิน” จองกุก

บทเพลงรักอันแสนหวานชื่นกำลังเริ่มต้นกับชายหนุ่มทั้งสองคน ยังบริเวณริมแม่น้ำที่หาได้มีผู้ใดมาพบเห็นไม่ในช่วงเวลานี้ [มีให้อ่านNCคือตอนหน้านะคะ]



  ย้อนกลับเมื่อคืนวันก่อน

“เจ้ากล้ากระทำการแบบนี้กับคนทั้งวังงั้นเหรอ?” จองกุก

“...”

“กระหม่อมหาได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดพระเจ้าค่ะ ที่กระหม่อมมาที่นี่ ก็เพราะหน้าที่โดยทั้งสิ้น น้องสาวของกระหม่อมมีพระสวามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว หากจะมาที่แห่งนี้แล้วทิ้งคนรักไว้ข้างหลังก็คงราวกับเอาตนไปแขวนไว้บนขื่อทั้งเป็น น้ำตาของนางทำให้กระหม่อมเห็นใจ จึงขออาสามาแทนพระเจ้าค่ะ”

องค์รัชทายาทจอนจองกุกที่ตกใจมากเมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมดจากปากชายผู้นี้เอง เขาย้ายร่างกายไม่สู้ดีไปนอนพื้นโดยไม่พึงไล่จีมินออกไปข้างนอกสักนิด แม้ว่าตนจะทำได้ก็ตาม ร่างหนานอนกอดตัวเองพร้อมคิดวกไปวนมาในหัวตลอดเวลา ตนสารภาพรักกับจีมิน แต่เขากลับได้รู้ว่าจีมินไม่ใช่ผู้หญิง เขากำลังหลงรักกับผู้ชาย แล้วถ้าจะต้องมีบุตรสืบราชบัลลังก์กันจะต้องทำยังไง? ถ้าหากเสด็จพ่อรู้จะทรงพิโรธหรือไม่? ถ้าหากรักเขาจริงจะต้องโกหกเสด็จพ่อเพื่อจีมินต่อไปสิ

    ฮึ่ก!

เสียแต่มันไม่ใช่เสียงอื่นเสียงใด มันมาจากชายที่ปลีกกายลงไปนอนใต้ล่างแท่นบรรทม จองกุกหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อได้คิดภาพว่าจีมินจะต้องโดนอะไรบ้างหากฝ่าบาทจับได้ เขาไม่สามารถที่จะห้ามหรือรั้งไม่ให้มันไหลออกมาได้ ร่างหนารวบรวมความกล้าลุกนั่งมองไปทางจีมินที่นอนหันหลังให้อีกฝั่งห่างออกไป กายาสูงลุกขึ้นไปพร้อมกับนอนใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกับองค์ชายดินแดนเหนือราวกับเขาไม่ได้รังเกียจจีมินแล้วแขนสองข้างกอดรัดร่างบอบบางไว้ไม่ให้ห่างไกลไปจากตรงนี้ เสียงร้องสะอื้นดังออกมาทันทีที่พวกเขากอดกัน จีมินหันร่างกลับเข้าสวมกอดตอบตัวใหญ่แน่นจมอกแข็งแกร่ง

  “ข้าขอโทษ ฮือออ! ~” กอดจองกุกตอบ

มือใหญ่ลูบปลอบศีรษะเล็กหอม ปากที่เคยจูบจีมินไปหลายครั้งก็ยอมที่จะก้มหน้าลงไปจูบลงที่ปากงามเบาๆ พร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมาอีกรอบ ชายชาตรีที่แม้จะฝึกทุกกระบวนวิธีให้ใจแข็งดั่งหินผาก็ต้องใจอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงเมื่อเห็นน้ำตาของคนที่ตนหลงรักเสียใจกับสิ่งที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้กับองค์รัชทายาท

“ได้โปรดจีมิน โกหกเสด็จพ่อของข้าต่อไปเถอะนะ ข้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเจ้า” เสียงแหบพร่าสั่นเครือ

   “ข้าทำไม่ได้พระเจ้าค่ะองค์ชาย ฮึ่ก! เราอยู่ในสภาวะที่ต่างกัน...ท่านกับข้าเรารักกันไม่ได้ ฮือออ~”

ทั้งสองกอดกันแน่นพลางร้องไห้ไปด้วยกันจนเผลอหลับไปพร้อมกัน ภายในเช้าตรู่วันต่อมาที่ไก่ยังไม่ทันขันสักคำจีมินได้หายตัวไปจากตำหนัก จีมินยอมจำนนต่อกฎธรรมชาติทั้งหมดที่วางไว้ เข้าไปในตำหนักบรรทมขององค์ราชาเพื่อบอกความจริงด้วยตัวเอง 

“กล้ามากที่กล้าหลอกข้า ทหาร! จับมันไปไว้ที่ตำหนักใหญ่!! ข้าจะทำการไต่สวนมัน...ขั้นเด็ดขาด” เอ่ยสั่งทหารด้านนอก

- - - - - - - - - - - -
TALK TALK 

ตอนหน้าNCอาจจะมาช้าหน่อยนะคะ โปรดรอกันสักนิด อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้ว หวังว่าทุกคนจะยังคงตั้งตารอไปด้วยกันนะคะ^^

BY. OASIS

HASHTAG;  #นางสนมจีมิน


Seguir leyendo

También te gustarán

56.1K 626 23
นายมีคนที่รักอยู่แล้วลืมฉันซะเถอะ เพราะฉันก็แค่คนที่นายพลาดไปมีอะไรด้วยก็เท่านั้น
781K 5.6K 20
คลังฝึกเขียนฉากดอกไม้ของคุนมาย :) | ชงแล้วดื่ม ชงจนแก้วแตก | → kookmin
17.5K 934 8
បេះដូងរបស់បុរសម្នាក់នេះត្រជាក់នឹងធឹងប្រៀបដូចជាទឹកក តែអ្នកណាទៅដឹងថារាងកាយរបស់គេក្ដៅរោលរាលពោរពេញទៅដោយកម្ដៅអាចដុតកម្លោចរាងតូចស្ទើរតែក្លាយទៅជាផេះក្នុងមួយ...
13.9K 332 26
จากบุรุษสามัญชนทั่วไป กลับกลายต้องมาใช้ชีวิตในฐานะสนมเอกขององค์รัชทายาทจากแดนไกล ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเขาจะต้องปิดบังความลับที่แท้จริงของตนเองเอาไ...