จิ่งอวี๋ค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนที่ดับไฟมืด โชคดีที่มีแสงจันทร์คอยส่องทางไม่ให้เขาเดินชนของที่วางอยู่บนพื้น ขายาวๆ ขยับเข้าชิดเตียงอมยิ้มน้อยๆ ให้กับคนตัวขาวที่นอนขดม้วนเป็นก้อนอยู่บนเตียง
วันนี้เขารีบเคลียร์คิวถ่ายละครให้เสร็จ เพื่อที่จะได้มีวันหยุดหลังจากนี้ เขาจะได้พาเว่ยโจวไปเที่ยวได้ซักที จะว่าเขาเป็นเจ้าแผนการก็ได้ เพราะตอนนี้เขาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว
งานแต่งงานก็พร้อมแล้ว
เหลือก็แต่เจ้าสาวของเขาเนี่ยแหละ
อย่าไปพูดให้เจ้าตัวได้ยินเชียวว่าผมเรียกเขาว่าเจ้าสาว.. แฮะๆ
จิ่งอวี๋ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงเงียบๆ หันไปขยิบตากับกล้องที่ติดอยู่บนหัวเตียงเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเบาๆ บนเส้นผมนุ่ม
"กลับดึกจัง"
เสียงงัวเงียทำให้คนที่เพิ่งกลับสะดุ้ง
"ฉันทำให้นายตื่นเหรอ?"
"นั่งลงมาทีอย่างกับแผ่นดินยุบ"
ถึงจะง่วงงุนแต่สกิลการต่อปากต่อคำยังไม่ลดลง เว่ยโจวยกมือขยี้ตา แล้วลืมขึ้นมองคนตัวสูงที่นั่งจ้องเขาด้วยสายตาประหลาด จะเอ็นดูก็ไม่ใช่ จะอาฆาตก็ไม่เชิง
"ไปอาบน้ำสิ"
มือขาวดันๆ ตรงสะโพกเขาให้ลุกขึ้น จิ่งอวี๋ยิ้มกับท่าทางจะหลับมิหลับแหล่ของอีกฝ่ายแต่ก็ยังพยายามดันให้เขาลุกไปอาบด้วยแรงเท่าแมวผลัก
"นอนต่อเถอะ"
มือหนาขยี้กลุ่มผมนุ่มอีกครั้ง เขาผุดลุกขึ้นไปอาบน้ำตามที่อีกฝ่ายบอกจนตัวหอมฟุ้ง ขายาวๆ สอดเข้าไปในผ้าห่มอุ่น ขยับตัวชิดกับแผ่นหลังบาง โอบเอวอีกฝ่ายเข้ามากอดเหมือนทุกคืน
"ฝันดี"
กระซิบบอกไปแบบนั้น แต่ลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายหลับสนิทไปแล้ว
จิ่งอวี๋ยิ้มนิดๆ ให้กับตัวเอง ก่อนจะปิดเปลือกตาลง กลิ่นแชมพูสะอาดจากเส้นผมนุ่มทำให้เขาหลับฝันดี
.
.
.
"หวงจิ่งอวี๋!!! นี่มันอะไรเนี่ย!?"
เว่ยโจยที่ลืมตาตื่นขึ้นมาถึงกับคลายความงัวเงียไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นสถานการณ์รอบกาย
แทนที่มันจะเป็นเตียงนุ่มๆ ดันเป็นถนนที่ขยับผ่านกรอบสายตา เดี๋ยวก่อน นี่คือเขาอยู่บนรถเหรอ? มาอยู่บนรถตั้งแต่เมื่อไหร่!?
พอตั้งสติได้ก็แหกปากถามคนขับรถไปแบบนั้น จิ่งอวี๋หัวเราะเมื่อเห็นท่าทางเหมือนแมวตื่น ตากลมๆ เบิกกว้างขยับตัวดุกดิกอย่างอยู่ไม่สุข
"ไม่ตลกเลยนะ! นี่ฉันมาอยู่บนรถได้ยังไง?!"
นึกคิดย้อนไป เมื่อคืนเขาก็นอนอยู่บนเตียงดีๆ นี่หว่า
"บินมามั้ง ฉันก็อุ้มนายมาน่ะสิ"
"อุ้ม!!!?"
ตากลมเบิกขึ้น ในสมองก็นึกภาพตัวเองถูกช้อนตัวในท่าเจ้าสาว ชิบหาย ชิบหายแน่ๆ!
"อย่ากังวลไปเลยน่า ตอนนั้นกล้องไม่ได้ถ่าย"
ตากลมหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ แต่พอเห็นอีกฝ่ายไม่แสดงสีหน้าอะไรก็เริ่มคลายความกังวลลง
ตาเรียวหลังแว่นกันแดดเหลือบมองแมวตัวขาวที่เริ่มปรับสภาพให้เข้ากับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยได้แล้วก็ยิ้ม เอื้อมไปกดวิทยุ เปิดเพลงเพื่อทำลายความเงียบ
"แล้วนี่จะไปไหน?"
หลังจากปล่อยให้เสียงเพลงดังเอื่อยๆ ไปซักพัก เว่ยโจวก็เอ่ยถามขึ้น
"ไปในที่ที่ฉันกับนายชอบเหมือนกัน"
เว่ยโจวขมวดคิ้ว ก่อนจะคลายออกเมื่อนึกขึ้นได้ ตากลมเป็นประกายขึ้น
"ทะเลเหรอ?"
รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากอิ่มทำให้จิ่งอวี๋ยกยิ้มตาม
"แล้วไปกี่วัน นี่นายลักพาตัวฉันมาแบบนี้ฉันไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามา เออ แล้วโทรศัพท์ฉันอีกล่ะ?"
"ใจเย็นๆ หน่อยที่รัก ฉันเตรียมมาพร้อมน่า"
คนตัวขาวชะงัก ก่อนจะแปลงร่างเป็นกุ้งตัวแดงตอบรับคำเรียกของเขา
"นายนี่มัน.. เป็นพวกขี้หยอดแถมยังขี้เซอร์ไพร์สอีกเหรอ"
จิ่งอวี๋เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ท่านี้เหมือนเป็นท่าประจำตัวของอีกฝ่ายไปแล้ว
"มันยังไม่หมดแค่นี้หรอก"
"พึมพำอะไรของนายวะ"
จิ่งอวี๋ยักไหล่ให้กับคำถามนั่น
"แล้วจะอยู่กี่วัน? นายไม่มีคิวถ่ายละครเหรอ?"
"ฉันบอกแล้วไงว่าเตรียมการมาพร้อม ห้าวันสำหรับเรา"
"ห้าวันเนี่ยนะ!?!?"
...
Q : คุณดูช็อคมาเลยนะคะ
ZZ : เป็นคุณคุณจะรู้สึกยังไงล่ะครับ ตื่นมาก็เห็นถนน สองข้างทางมีแต่ต้นไม้ ผมนี่ช็อคไปเลยนึกว่าโดนลักพาตัวซะอีก
Q : เขาตั้งใจจะเซอร์ไพร์สคุณนะคะ เขาทำงานหนักเลยนะ
ZZ : ผมรู้ พวกคุณก็ช่วยเขาใช่มั้ยละครับ
Q : พวกเราแค่ช่วยอำนวยความสะดวกนิดหน่อยเองค่ะ ขอให้มีความสุขกับทริปนี้นะคะ
ZZ : ยิ้มของพวกคุณดูเจ้าเล่ห์จังเลยอะ ผมโคตรไม่ไว้ใจ (หัวเราะ)
...
"ทะเลลลลลล!!!"
หลังจากจอดรถที่บ้านพัก (จิ่งอวี๋บอกว่าเป็นบ้านพักตากอากาศของเขา) เรียบร้อยแล้ว คนตัวขาวก็รีบลงจากรถแถมถอดรองเท้าวิ่งเร็วๆ ไปบนหาดทรายเนื้อละเอียด แขนทั้งสองข้างกางออกเหมือนพยายามจะโอบกอดผืนน้ำสีครามเอาไว้
จมูกโด่งสูดกลิ่นทะเลเข้าไปเต็มปอด เขาไม่ได้มาเที่ยวทะเลแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
"ถอดรองเท้าแบบนั้นระวังหอยบาด"
เสียงทุ้มดุแว่วมา เว่ยโจวบึนปากแต่ก็กลับมายิ้มอีกครั้งให้กับเสียงคลื่นและปูลมตัวเล็กๆ ที่พากันวิ่งลงรูเมื่อเขาขยับเข้าไปใกล้
"โจวโจว เข้าบ้านก่อนค่อยออกมาเล่น"
เว่ยโจวสวมรองเท้าตามคำเตือนของอีกฝ่าย ขายาวค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้านตามหลังร่างสูงที่ทำหน้าที่แบกกระเป๋า
"นอนห้องเดียวกันนะ ห้องอื่นไม่ได้จัด"
เว่ยโจวแค่นหัวเราะอย่างรู้ทัน ส่วนจิ่งอวี๋ฉีกยิ้มทะเล้นให้อีกฝ่าย เขาเอากระเป๋าเข้าไปเก็บก่อนจะเดินออกมา
"ไปกินข้าวกลางวันกัน"
หัวกลมพยักหน้ารับคำ เขารับโทรศัพท์ของตัวเองมาจากคนสูงกว่า เดินออกมาใส่รองเท้าก่อน
"ใส่ไว้ แดดมันแรง"
หมวกสีเข้มจากศีรษะอีกฝ่ายถูกสวมลงมา เว่ยโจวเหลือบมองมันเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่เจ้าของหมวกที่ตอนนี้มีแค่แว่นกันแดด
"แล้วนายล่ะ"
"ฉันไม่เป็นไร ไปเถอะ"
"เดี๋ยวหน้าก็ไหม้หรอก"
บ่นไปขาก็ก้าวตามไป จิ่งอวี๋หัวเราะก่อนจะคว้าเอามือขาวมาจับเอาไว้ แล้วยกมันขึ้นมาบังแถวๆ หน้าผาก
"แบบนี้ดีมั้ย"
"ไม่ดี เพราะฉันเมื่อย!"
เขากระชากมือกลับแล้วเดินหนี จิ่งอวี๋หัวเราะ เร่งฝีเท้าตามไปติดๆ
"เมื่อยหรือเขิน เอาดีๆ"
"เคยอยู่ดีๆ หน้าทิ่มลงไปในทะเลมะ"
ใบหน้าขาวต้องเชิดขึ้นเล็กน้อยเพราะปีกหมวกบังสายตา จิ่งอวี๋ตาพราวเมื่อสามารถแกล้งอีกฝ่ายได้ลำเร็จ เขาหัวเราะอีกครั้งยกมือทั้งสองข้างยอมแพ้
"ยอมๆ ไปกินข้าวกันเถอะ"
.
.
.
"ฉันไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานมากแล้ว"
เว่ยโจวพูดขึ้นขณะกำลังนั่งอยู่บนหาดทรายหน้าบ้าน บรรยากาศตอนกลางคืนที่เงียบสงบทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
"ฉันก็ไม่ได้มานานแล้ว ดาวเต็มเลยนายดูสิ"
จิ่งอวี๋ที่เท้ามือไปด้านหลังแหงนหน้ามองจุดสีขาวบนผ้ากำมะหยี่ผืนสีดำสนิท เพราะเป็นต่างจังหวัดถึงเห็นดาวชัดขนาดนี้
"หื้อ.. สวยอะ"
จิ่งอวี๋เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายแล้วอมยิ้ม เขาแอบส่งซิกให้ทีมงานที่แอบอยู่ ก่อนที่จะ..
ปัง!!!
พลุสีเขียวสว่างถูกจุดขึ้น เว่ยโจวสะดุ้งเฮือกหันขวับมองคนข้างกายทันที จิ่งอวี๋เลิกคิ้ว ทำท่าราวกับตัวเองไม่รู้เรื่อง
ปัง!! ปัง!!!
รัวมาอีกสองรอบ เว่ยโจวกัดริมฝีปาก มันเป็นสีเขียวแบบที่เขาชอบเลย พออยากจะหันกลับไปถามอีกฝ่าย คนตัวสูงกลับไม่ได้นั่งอยู่ข้างๆ อีกแล้ว
"จิ่งอวี๋?"
เว่ยโจวผุดลุกขึ้นยืน เขาหรี่ตาลงเมื่อหันกลับไปเห็นบ้านทั้งหลังถูกประดับไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ได้แต่ถอนหายใจให้กับความเยอะของอีกฝ่าย แต่เขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ร่างสูงเดินกลับมาพร้อมกับกล่องเล็กๆ ในมือ ใจที่เคยสงบเต้นรัวแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
"ฉันอยากจะอยู่กับนาย ตลอดไปจนกว่าจะแก่เฒ่า แล้วนายล่ะ?"
มือหนาหยิบแหวนสีเงินเกลี้ยงมาถือไว้ในมือ เว่ยโจวยิ้มจนตาปิด เขาค่อยๆ ร้องเนื้อเพลงที่เขาท่องจำได้ขึ้นใจออกมาเบาๆ
"หว่อย้าวเห๋อหนี่ป่ายโถวเฉียหล่าว"
สัมผัสเย็นบนปลายนิ้วทำให้เขาเกือบลืมหายใจไปชั่วขณะ เว่ยโจวมองตรงไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่าย มันมีวงแหวนแบบเดียวกันอยู่บนนั้น
"ถอดออกมา"
จิ่งอวี๋หน้าเหลอทันทีเมื่ออีกฝ่ายทำเสียงแข็งใส่ ตากลมจ้องเขม็งจนเขาเริ่มลนว่าทำอะไรผิด แต่ก็ยอมถอดออกให้
"โจวโจว"
เจ้าของชื่อรับแหวนวงนั้นมาถือไว้ เขาเม้มริมฝีปากแล้วคว้ามือหนามาจับ แสงไฟที่ประดับบนตัวบ้านทำให้เขาเห็นใบหูแดงจัดของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
"ฉันต้องเป็นคนสวมให้นายสิ อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า.."
ประโยคสุดท้ายถึงจะเป็นเสียงกระซิบแต่จิ่งอวี๋ก็ได้ยิน เขาหัวเราะในลำคอแล้วทดไว้ในใจ
จะเอาคืนให้น่วมเลย สวี่เว่ยโจว
...
Q : คุณไม่กลัวเขาจะเบื่อเซอร์ไพร์สบ้างเหรอคะ
JY : ถ้ามันยังเรียกว่าเซอร์ไพร์ส ผมว่าเขาไม่มีทางเบื่อหรอกน่า
Q : อันนี้คือคุณแต่งงานกันอย่างเป็นทางการแล้วเหรอ
JY : ใช่ เหลือทะเบียนสมรสนี่แหละ เขาไม่ยอมจดกับผมอะ
Q : แต่ไม่เห็นมีบาทหลวงมาเป็นสักขีพยานเลยนี่คะ?
JY : มันเป็นคำสัญญาต่อหน้าผืนทะเล..ของเราสองคน (ยิ้ม)
...
tbc
#หยูโจวแต่งงานแล้ว
ง่อว ป๋าไม่กากนะคะ!!!!
มดขึ้นกันยัง
55555555555555555555
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกแท็กเลยนะคะ ตอนที่แล้วเม้นเยอะกว่าตอนอื่น ประหลาดใจแฮะ555555555
ยังไงตอนนี้ก็อย่าลืมเม้นให้เรานะคะ :)