13หลังจากจัดการเบอร์เกอร์ชิ้นที่สองเสร็จไปตอนช่วงเกือบสามทุ่ม และช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะทานข้าวกับแทฮยองเรียบร้อยแล้ว ซอกจินก็แยกย้ายกับแทฮยองกลับเข้าห้องของตัวเอง
"อย่าลืมทำการบ้านด้วยล่ะ ห้ามเล่นเกมดึกนะ พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียน" ซอกจินหันไปบอกแทฮยองตอนที่อีกคนกำลังเปิดประตูเข้าห้อง เด็กหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มส่งมาให้เท่านั้น
เมื่อเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่ซอกจินทำคือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กดูว่ามีข้อความอะไรเข้ามาบ้างไหม เพราะตอนที่นั่งทานมื้อค่ำกับแทฮยอง เขานึกห่วงจองกุกอยู่เกือบตลอดเวลา และเมื่อเห็นข้อความของคนที่อยู่ในความคิดเด้งขึ้นมาบนแถบแจ้งเตือน รอยยิ้มน้อย ๆ ก็ปรากฏที่มุมปาก
JEONJK: อย่าลืมทายานะครับ
ซอกจินเหลือบมองหลอดยาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง อมยิ้มนิด ๆ พิมพ์ตอบไปว่า
KinJIN: จะพยายามไม่ลืมนะ นายโอเคไหม เรื่องตอนเย็นขอโทษแทนแทฮยองด้วยนะ
ซอกจินจ้องอยู่ที่หน้าจอซักพัก เฝ้ารอให้อีกฝ่ายตอบกลับมา แต่จองกุกยังไม่แม้แต่จะเปิดอ่านด้วยซ้ำ วูบหนึ่งเขารู้สึกหงุดหงิด แต่เมื่อคิดได้ว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จองกุกจะต้องเฝ้ารอข้อความจากเขา ซอกจินก็ได้แต่พรูลมหายใจออกมาเบา ๆ
'ผมชอบคุณซอกจิน'
'ให้ผมรักคุณซอกจินได้ไหม'
..เหอะ! บอกชอบแต่ไม่สนใจกันแบบนี้เหรอ ไอ้เด็กบ้า!..
ซอกจินชะงักเมื่อเผลอคิดอะไรไม่เข้าท่า สลัดหัวไล่ความน้อยใจออกไป แต่สายตาก็ยังคงจ้องหน้าจอรอข้อความตอบกลับอย่างใจจดใจจ่อ
ผ่านไปเกือบสิบนาที ซอกจินตัดสินใจกดออกจากหน้าต่างสนทนา แล้วเลื่อนดูแถบแจ้งเตือนอื่น ๆ เผื่อว่าจะมีงานจากเพื่อนร่วมงานไม่ก็นักแปลที่ทำงานด้วยส่งเข้ามา และชื่อของนัมจุนตรงแถบรายชื่อผู้ติดต่อก็ทำให้เขาเพิ่งจะนึกได้ว่านัมจุนโทรมาหาตอนที่โทรศัพท์เขาอยู่กับจองกุก เมื่อเห็นว่าดึกพอสมควร เขาเลยเลือกที่จะส่งข้อความไปหานัมจุนแทนที่จะโทรกลับไป
YOU ARE READING
BTS FANFICTION: Saint PAPA (KOOKJIN)
Fanfictionคิมซอกจินวัย 37 ปี ตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าไปจนกว่าจะอายุ 40 แต่แล้วก็ได้พบกับมารผจญที่ทำให้ปธิธานของเขาสั่นคลอน มารหน้าหล่อวัย 17 ปี ทึ่ชื่อว่า จอนจองกุก