Kookv - Ice Prince (END)

By Kookv_Vkook9597

114K 1.2K 344

จะเป็นอย่างไรเมื่อวีหลงเข้าไปในเมืองบียอนด์แลนด์ ที่อยู่อีกห้วงมิติหนึ่ง จนได้พบกับเจ้าชายน้ำแข็ง ที่เขาเคยได... More

แนะนำตัวละคร
Ice Prince: Intro
Ice Prince : Ep.1
Ice Prince : Ep.2
Ice Prince : Ep.3
Ice Prince : Ep.5 (Yoonmin)
Ice Prince : Ep.6
Ice Prince : Ep.7
Ice Prince : Ep.8
Ice Prince : Ep.9
Ice Prince : Ep.10
Ice Prince : Ep.11
Ice Prince : Ep.12
Ice Prince : Ep.13
Ice Prince : Ep.14
Ice Prince : Ep.15
Ice Prince : Ep.16
Ice Prince : Ep.17
Ice Prince : Ep.18
Ice Prince : Ep.19
Ice Prince : Ep.20
Ice Prince : Ep.21
Ice Prince : Ep.22
Ice Prince : Ep.23
Ice Prince : Ep.24
Ice Prince : Ep.25
Ice Prince : Ep.26
Ice Prince : Ep.27
Ice Prince : Ep.28
Ice Prince : Ep.29
Ice Prince : Ep.30 (END)
Ice Prince : Spacial

Ice Prince : Ep.4

4.2K 34 6
By Kookv_Vkook9597

คำเตือน: ฟิคนี้เป็นชายxชาย ศิลปินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องใดๆทั้งสิ้น ทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

วีถึงกับช๊อคนิ่งอึ้งไป หลังจากได้ยินประโยคของร่างสูง
ร่างบางกระพริบตารัวพลางกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ยกมือขึ้นชี้จองกุก

“เจ้าชายรัชทายาท?”
“อื้ม!”
“โฮ้ะ! ขออภัยพะยะค่ะ องค์รัชทายาท ขอภัยที่ผม เอ้ย!!! กระหม่อมล่วงเกินพระองค์พะยะค่ะ”
วีกระโดดลงไปคุกเข่าก้มหัวลงกับพื้น รีบขอโทษขอโพยร่างสูงใหญ่ จองกุกขมวดคิ้วก้มมองวีด้วยความงุนงง

“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องทำกับฉันขนาดนั้นก็ได้!”
“หามิไม่พะยะค่ะ ฝ่าบาท!”
พรืด จองกุกหลุดขำออกมากับคำพูดคำจาของวี ที่ผิดๆถูกๆ นี่ตกลงเขาได้เป็นพระราชาแล้วใช่ไหม
เขากลั้นยิ้มจนปวดแก้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ร่างสูงก้าวไปก่อนจะก้มลงพยุงตัววีให้ลุกขึ้น มือหนาจับที่แขนสองข้างของร่างบาง ก่อนวีจะเงยหน้าขึ้นสบนัยตาสีฟ้าสด นาทีนั้นถึงกับทำให้โลกทั้งใบของเขาชะงักไป นัยตาสีฟ้าที่ดูเย็นชาแต่ก็อ่อนโยนด้วยเช่นกัน นัยตาที่ซุกซ่อนความขี้เล่นอยู่ลึกๆ มันทำให้เขาใจสั่น ก่อนจะมีสติเมื่อคิดว่าตัวเขาจ้องอีกฝ่ายเกินไปแล้ว วีหลุบสายตาลงมองพื้นที่เป็นน้ำแข็งไม่กล้าสบตากับร่างสูง จองกุกถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะปล่อยแขนวี

“นายไม่เห็นต้องเคารพฉันขนาดนั้นก็ได้...พูดแบบที่นายคุยกับฉันเมื่อก่อนหน้าเถอะ”
จองกุกกล่าวเสียงเรียบ หลังจากได้สังเกตุใบหน้าหวานใกล้ๆเมื่อกี้ พลันทำให้ใจเขาเต้นแรงขึ้นอย่างปกติ
วีเม้มปากแน่นแต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นไปสบตาร่างสูง

“...มันจะดีหรือพะยะค่ะ ... ถ้าเกิดมีคนมาได้ยินเข้า ผมจะไม่โดนประหารหรอพะยะค่ะ”
จองกุกหลุดยิ้มมาอีกครั้งแต่ก็พยายามทำให้น้ำเสียงของตนอยู่ในระดับคงที่คือเรียบนิ่ง

“เอาเถอะ! ฉันอนุญาตให้นายพูดกับฉันแบบเดิม แล้วไม่ต้องห่วง...ที่นี่ไม่มีผู้ใด นอกจากฉันแล้วก็นาย...”
วีเงยหน้าขึ้นแล้วเอียงคอขมวดคิ้วหมุ่น คล้ายสงสัยอะไรในที จองกุกที่เห็นดังนั้นก็รีบอะไรอธิบายต่อ

“ที่นี่เป็นที่ส่วนตัวของฉัน รับใช้หรือใครในวังไม่มีสิทธิเข้ามาได้ หากฉันไม่อนุญาต!”
วีอ้าปากคล้ายเข้าใจแล้วพลางพยักหน้าไปด้วย ก่อนจะสะดุ้งเมื่อน้ำเสียงเย็นเฉียบดังขึ้นอีก

“และนายยังไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน!”

เฮือก!

“เอ่อ...ผม ผมไม่รู้ว่าผมเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง เพิ่ง เพิ่งมารู้สึกตัวก็ ก็ตอนที่คุณยืนมองผมนั่นแหละครับ”
วีรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะโดนนัยตาสีฟ้าสดจ้องมองอย่างจับผิดซ้ำยังเพิ่มความกดดันใส่เขาอีกด้วย

“งั้นหรอ? แล้วทำไมนายถึงมาอยู่ในนี้ได้!”
“อ้าว! คุณ!! ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่รู้!!!”
วีชะงักเมื่อรู้สึกตัวว่าตนเผลอขึ้นเสียง ก่อนจะส่งยิ้มแห้งให้จองกุกแล้วเอ่ยขอโทษ

“...ผมขอโทษ ...แต่ผมพูดจริงๆนะ ผมไม่รู้ว่าผมมาโผล่ในปราสาทของคุณได้ยังไงอ่ะ”
วีก้มหน้าลงทำหน้าจ๋อย นั่นทำให้จองกุกที่จ้องจับผิดร่างบางอยู่ก็เริ่มแน่ใจขึ้นมาแล้ว ว่าคนๆนี้ไม่ได้โกหก แต่ที่เขาอยากรู้ก็คือ อีกคนมาโผล่ในปราสาทเขาได้อย่างไร

“ชั่งเถอะ!! นายหมดคำถามแล้วใช่มั้ย? งั้นคราวนี้ถึงตาฉันถามนายบ้างแล้ว!”
วีเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงตาปริบๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วหลุบตาลงอีกครั้ง

“นายรู้จักเจสันได้อย่างไร?”
วีเงยหน้าอ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆประมวลเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันที่เจสันโผล่ขึ้นที่แคมป์ของพวกเขา

“เขา....หามาพี่จิน พี่ชายของผม เพราะรู้ว่าพี่จินสัมผัสเห็นผีได้ เช่นเดียวกับผม แต่เราสองคนต่างกัน ตรงที่พี่จินได้แค่ได้ยินเสียงผีหรือวิญญาณ ส่วนผมสามารถมองเห็นผีและวิญญาณได้ เรามีเซ้นท์แบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ”
จองกุกเลิกคิ้วสูงจนหายเข้าไปในปอยผม เขาเพิ่งจะเจอมนุษย์ที่มาจากเมืองKสามารถเห็นผีเห็นวิญญาณได้ก็ตอนนี้แหละ

“แล้วเจ้าเจสันนั่น ได้เล่าอะไรให้นายฟังหรือเปล่า?”
วีทำหน้าครุ่นคิดก่อนอ้าปากเอ่ยว่า

“เขาบอกว่า ตัวเขาเคยเป็นทหารในกองทัพบียอนแลนด์มาก่อน แต่ก็ถูกฆ่าตายแล้วพอเป็นวิญญาณถูกให้เฝ้าเทือกสแตนแลนด์มานานหลายร้อยปี แล้วก็...เรื่องที่กษัตริย์จอห์นรุ่นที่1ขึ้นครองราชรวมถึงเรื่องราวต่างๆก่อนหน้านั้นด้วย”
วีเล่าให้จองกุกฟังตามที่เขาได้ยินมา ส่วนร่างสูงที่ยืนฟังอยู่ก็หรี่ตาลงก่อนจะถามอีกว่า

“แล้วมีอะไรอีกมั้ย?”
“ไม่มีแล้วครับ มันมีแค่นั้น”
จองกุกพยักหน้า วีที่เริ่มเมื่อยขาแล้วก็หันตัวเตรียมจะเดินกลับไปนั่งบนเตียงเหมือนเดิม แต่แล้วก็ลื่นพื้นที่เป็นแข็งจนหงายหลัง

“เหวอ!!!”

จองกุกรีบเข้าไปรับร่างของวีเอาไว้ก่อนที่จะล้มลงไปหัวฟาดพื้น นัยตาสีฟ้าสดสบเข้ากับนัยตาสีน้ำตาลกลมอีกครั้ง พลันในใจของทั้งสองก็เต้นรัวขึ้นมาอย่าไงทราบสาเหตุ จนวีต้องกระพริบตาเรียกสติกลับมา จองกุกก็ละสายตาไปสำรวจร่างกายของวีเพื่อตรวจดูว่าบาดเจ็บตรงไหน

“ไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย?”
ร่างสูงถามแต่ก็ยังไม่ปล่อยร่างบาง วีกรอกตาไปมาใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อยก่อนส่ายหน้าไปมาเชิงบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร จองกุกจึงค่อยๆประคองให้วียืนดีๆ ก่อนจะก้มมองรองเท้าของอีกคน

“บู๊ทของนายไม่ได้เหมาะแก่การเดินบนพื้นน้ำแข็งเช่นนี้ แต่เหมาะแก่การเดินบนหิมะมากกว่า...”
วีกระพริบตาก้มมองรองเท้าตัวเองสลับกับมองรองเท้าของจองกุก ที่ดูดีๆก็เป็นบู๊ทธรรมดาที่ใช้เดินบนพื้นหิมะเหมือนกับของเขา แต่มันต่างกันตรงที่บู๊ทของทั้งสองถูกประดิษฐ์ออกมาให้เหมาะกับการเดินบนพื้นแบบไหนต่างหาก

ก็แหง่สิที่เมืองเขามีใครผลิตรองเท้าบู๊ทแบบร่างสูงกันล่ะ เอ้ะ หรือจะมี? เพียงแต่เขาไม่รู้? วีขมวดคิ้วคล้ายคิดอะไรบางอย่าง จนจองกุกต้องเอียงคอมอง

“เป็นอะไร?”
“เอ่อ...เปล่าครับ!!”
จองกุกพยักหน้าจากนั้นก็ประคองวีให้เดินกลับไปนั่งบนเตียงดีๆ วีเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงราวกับกำลังรอคำถามของอีกคน

จองกุกหันหลังเดินกลับไปถอดชุดคลุมสีดำที่คลุมร่างเขาไว้ออก เผยออกให้เห็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตามยุคสมัย วีเลิกคิ้วคิด ตอนแรกคิดว่าที่จะเป็นยุคโบราณเสียอีก ที่แท้ก็ยุคเดียวกัน แถมการแต่งตัวของร่างสูงก็ดูทันสมัยมาก เผลอๆจะล้ำหน้าเมืองKของเขาไปก่อนแล้ว

“นายชื่อคิมแทฮยอง ชื่อเล่นคือวี? อื้มมมม ชื่อเพราะดีนะ”
วีเลิกคิ้วสองขึ้นสูงอีกครั้งเมื่อจองกุกชมว่าชื่อของเขาเพราะดี ที่ทำให้รู้สึกแปลกๆคือ ไม่เคยมีใครเอ่ยชมชื่อเขามาก่อน

“แต่ฉันอยากนายเรียกว่า เวส มากกว่า”
วีที่เลิกคิ้วค้างอยู่ก็เลิกขึ้นไปอีกจนหายเข้าไปในปอยผม พร้อมคิดในใจว่า ชื่อเขาก็มีให้เรียกแล้ว ทำไมต้องมาตั้งชื่อให้เขาใหม่ด้วย

ร่างสูงหันมาหาวีหลังจากจัดเก็บชุดคลุมของเขาแล้ว ในปราสาทแห่งนี้ถึงจะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด แต่มันถูกสร้างจากพลังไฟหนาวที่ในระดับกลาง ซึ่งจะมีความอบอุ่นอยู่ด้วย

พลังไฟหนาวแบ่งออกเป็น3ระดับ
ขั้นที่1คือระดับสูง ที่มีอนุภาพสูงที่สุด โดยมีความหนาวเย็นสุดขั้วจนสิ่งของหรือสิ่งมีที่ชีวิตที่โดนจำต้องแตกสลาย ขั้นที่2คือระดับกลาง มีอนุภาพหนาวแต่ก็อบอุ่นด้วยเช่นกัน ในระดับนี้ใช้เฉพาะสร้างปราสาทหรือใช้ควบคุมบรรยากาศที่หนาวเย็นให้อบอุ่นขึ้นได้
ส่วนระดับที่3คือระดับต่ำ มีอนุภาพแห่งไฟร้อนสามารถละลายน้ำแข็งหรือสิ่งมีชีวิตสิ่งของต่างๆให้ละลายหายไปได้ อย่างตอนกษัตริย์จอห์นรุ่นที่1ได้เผาร่างของเคนที่ยึดเมืองบียอนด์แลนด์ไปในครานั้น

จองกุกที่เห็นใบหน้าไม่เข้าใจของวี จำต้องอ้าปากอธิบายให้วีเข้าใจในส่วนที่เขาตั้งชื่อใหม่ให้

“ที่ฉันตั้งชื่อใหม่ให้นาย เพราะนายคือคนที่แปลกสำหรับฉัน และฉันก็ไม่เคยเจอคนแบบนายมาก่อน ฉันคิดว่าชื่อนี้ก็เหมาะกับนายดี”
วีอ้าปากค้างก่อนจะหัวเราะแห้งออกมา

“...ชื่อผมก็เรียกง่ายอยู่นะครับ วี? ทำไมต้องตั้งชื่อใหม่ให้ด้วย?”
“เพราะชื่อนี้จะมีฉันแค่คนเดียวที่สามารถเรียกนายได้”
วีมีหน้าเหวออีกครั้ง เขากำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก และไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรต่อดี อยู่ๆหัวสมองกลับขบคิดขึ้นมาได้ว่าเขาลืมถามร่างสูงไป

“เอ่อ...เดี๋ยวนะครับ ขอเปลี่ยนเรื่อง เอ่อ...ถ้าผมหลุดเข้ามาในนี้แล้ว จะได้กลับไปเมืองKอีกมั้ยครับ?”
จองกุกชะงักไปก่อนจะตอบออกไปโดยแสดงสีหน้าเห็นใจอยู่นัยๆ

“ขอโทษนะ ผู้ใดที่หลุดเข้ามาในนี้ จะไม่มีหนทางได้กลับไปเมืองที่อยู่อีกห้วงมิติอีก....”
“ห๊ะ!!! อะไรน๊ะ!!!”
วีเบิกตากว้างแหกปากอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ ถ้าเป็นอย่างนี้เขาก็ไม่ได้กลับไปเมืองK อีกแล้วงั้นหรือ แล้วเรื่องงานที่เขาไปสมัครไว้แล้วเริ่มงานเดือนหน้าล่ะ จะทำอย่างไร ไหนจะสัญญาที่เคยให้ไว้กับมินแจเพื่อนอีกคนของเขาที่จะพาไปเลี้ยงข้าว จีซูที่บอกว่าเขาจะกลับไป ฮื่ออออ อย่างนี้เขาต้องติดแหงกที่นี่ไปตลอดชีวิตเลยหรือ

จีซู? เขารู้แล้วเหตุใดวันนั้นจีซูถึงกล่าวลาเขาเชิงไม่พบกันอีกแบบนั้น เพราะเขาต้องมาอยู่ที่นี่นี่เอง แล้วเขาจะไปอยู่กับใครล่ะ ไม่รู้จักใครเลยสักคนนอกจากร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่

“นายได้ยินไม่ผิดหรอก ทางเดียวที่นายจะออกไปจากที่นี่ได้คือ ...ตายแล้วกลายเป็นผีเท่านั้น”
วีถอนหายใจทำหน้าโอดครวญออกมาอย่างปิดไม่มิด ก่อนจะยกมือบางสองข้างขึ้นมาลูบหน้าตัวเองคล้ายรับไม่ได้

“แล้วพี่จินกับจีมินล่ะ? คุณ!!! ผมอยากออกตามหาพี่ชายกับเพื่อนของผมอ่ะ ผมเชื่อว่าเขาต้องหลุดเข้ามาที่นี่ด้วย”
วีพึมพำกับตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นหาร่างสูง
จองกุกพยักหน้าเข้าใจพลางเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้วยเดิมที่เคยนั่งก่อนหน้าแล้วกล่าวว่า

“ถ้าเป็นอย่างที่นายว่า ป่านี้พี่ชายและเพื่อนของนายคงโดนใครสักคนช่วยเหลือแล้วล่ะ แต่อยู่ที่ว่าจะไปโผล่ที่ไหนให้ใครพบเห็นเท่านั้น”
จองกุกเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมวีถึงมาโผล่ในปราสาทของเขา นั่นก็เพราะคงจะเป็นความต้องการของช่องดูดมิติที่จะนำพาคนๆนั้นไปโผล่ที่ใดแน่นอน

“แล้วผมจะตามหาพวกเขาได้ยังไง?...”





ร่างเล็กตื่นขึ้นมาบนกองฟางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ จีมินขมวดคิ้วงงกับสถานที่ที่แปลกตาไปเล็กน้อย เขาจำได้ว่าโดดหิมะดูดจนจมหายไปพร้อมๆกับวีและจิน แล้วเหตุใดตอนนี้เขาถึงมาโผล่ที่ไหนสักแห่ง ที่ไม่ใช่นรกหรือสวรรค์แต่มันเป็นสถานที่แห่งหนึ่งในโลก จีมินยันตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะก้มมาสำรวจตัวเองพลางยกแขนขึ้นมาดูแล้วพึมพำเบาๆว่า

“นี่เรายังไม่ตายหรอเนี่ย?”
เอ่ยจบก็หันไปมองสถานที่ที่เขามานอนสลบอีกครั้ง ทำไมมันมีแต่คอกม้าล่ะ แล้วเรามานอนบนกองฟางนี้ได้ยังไง จีมินคิดในใจก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัว

“แล้วที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ย!!!”
กล่าวพลางหมุนตัวมองไปรอบอย่างไม่เข้าใจ เขาตัดสินใจเดินฝ่าหิมะเพื่อหาทางออกจากคอกม้า

‘เจ้าชายแน่ใจแล้วหรือ ว่าจะออกไปล่าสัตว์ตอนนี้’

จู่ๆเสียงใครบางคนก็ดังนั้นทำให้จีมินหยุดชะงัก ก่อนจะเห็นร่างชาย3เดินตรงมาทางเขา
โดยมีชายร่างโปร่งคนหนึ่งเดินนำหน้ามานัยตาของเขาสีน้ำเงิน เมื่ออีกฝ่ายเห็นจีมินก็หยุดชะงักเช่นกัน ทำให้ชายสองคนที่เดินตามหลังมาต้องหยุดเดินตาม พร้อมมองมาทางจีมินด้วยความสงสัย

จีมินเมื่อดวงตา3คู่จ้องมองมาทางตนคล้ายกำลังสงสัยมาว่าเป็นใคร เจ้าตัวก็ทำตัวไม่ถูก ยกมือขึ้นขยับหมวกผ้าบนหัวด้วยความประหม่า ภายในใจก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี ดูเหมือนว่าตัวเขาจะเข้ามาอยู่ผิดที่ ยังไม่ทันจะอ้าปากถามว่าที่นี่ไหน ร่างโปร่งนัยตาสีน้ำเงินก็เอ่ยถามเสียงทุ้ม เจือกระแสเย็นชาและใบหน้าเรียบนิ่ง

“เจ้าเป็นใคร? เข้ามาทำอะไรในนี้?”
“เอ่อ...”
จีมินถึงกับคิดคำตอบไม่ถูกเพราะยังตะลึงกัยชาย3คนตรงหน้า ที่มีสีนัยตาต่างกัน คนหนึ่งมีนัยตาสีน้ำเงิน อีกคนหนึ่งที่ยืนฝั่งด้านซ้ายมีนัยตาสีเขียวมรกต ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ด้านขวามีนัยตาสีฟ้าอมม่วง แปลกพิกลที่นี่ที่ไหนกัน

“ข้าถาม เหตุใดถึงไม่ตอบข้า?”
จีมินสะดุ้งโหยงเมื่อร่างโปร่งนัยตาสีน้ำเงินขึ้นเสียง

“ผม ผม จีมินครับ ปาร์คจีมิน...”
จีมินตอบเสียงเบาๆ แต่นั่นก็ดังพอที่ทำให้ชาย3คนตรงหน้าได้ยินชัดเจน

“เจ้ามาทำอะไรในที่แห่งนี้?”
ชายผู้มีนัยตาสีเขียวมรกตถามขึ้น

“ผม...ผมไม่รู้ ...ที่นี่ไหนครับ?”
ชายสองที่มีนัยตาสีเขียวมรกตและสีฟ้าอมม่วงชะงักไป ต่างร่างโปร่งนัยตาสีน้ำเงินที่ยืนสำรวจร่างเล็กนิ่งๆ

“...ที่นี่คือบียอนด์แลนด์!”
เฮือก! จีมินเบิกตากว้างอ้าปากค้าง เมื่อฟังคำตอบจากชายผู้มีนัยตาสีฟ้าอมม่วง

“เจ้ามาจากที่ใด? แอลแลนเดล หรือ เมืองK?”
จีมินกระพริบตารัวอ้าปากจะพูด แต่ยังไม่ทันพูดอะไรร่างโปร่งนัยตาสีน้ำเงินก็เอ่ยกับชายสองคนนั้น

“พาตัวเขามา!”
จากนั้นเขาก็หันหลังเดินกลับไปทางเดิม ปล่อยให้ชายนัยตาสีฟ้าอมเขียวและชายนัยตาสีเขียวหันมองหากันอย่างงงๆ ก่อนจะหันมามองจีมินพร้อมกันจนเขาสะดุ้ง มองพวกเขาอย่างระแวง

สุดท้ายก็โดนจับตัวให้เดินตามชายร่างโปร่งไป ระหว่างทางจีมินก็คอยสำรวจเส้นทางบรรยากาศสถานที่ไปด้วย พลางสะบัดตัวไปมาให้หลุดการจับตัว จนเดินมาถึงหน้าประตูบานใหญ่ ที่มีกำแพงกั้นไว้สูงราว7เมตร จีมินหยุดชะงักแล้วชะเง้อมองไปด้านใน ก่อนจะทำตาลุกวาวแล้วอุทานมาดังลั่นจนคนที่เดินนำอยู่หยุดชะงักแล้วหันมามอง

“โห้!!! วังหรอเนี่ย!!!! ทำไมใหญ่โตงี้วะ!”

จีมินรีบหุบปากลงทันที เมื่อสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงิน เขาปิดปากนิ่งก่อนจะโดนองครักษ์ของร่างโปร่งผลักหลังจีมินเล็กน้อยให้เดินเข้าไป

ระหว่างทางที่เดินตามร่างโปร่งเข้ามาในวัง คนตัวเล็กถูกคนในวังจ้องมาทางเขาเป็นตาเดียวจนรู้สึกประหม่า พลางคิดในใจ นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ แล้ววีกับพี่จินอยู่ที่ไหน แล้วทำไมเขาต้องเดินตามชายข้างหน้าเข้ามาในนี้ด้วย

คิดดังนั้นเมื่อจีมินดันประมวลผลในหัวได้ ก็หยุดเดินแล้วหันหลังจะเดินกลับออกไปแต่แล้วก็โดนองครักษ์ของร่างโปร่งยกแขนกันเอาไว้ก่อน ทำให้จีมินต้องขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมองสองคนสลับกันไปมา

“เจ้าจะไปไหน?”
จีมินกรอกตาไปมาเพื่อคิดหาทางออกให้เจอ

“ผม...จะไปตามหาเพื่อน”
กล่าวเช่นกันก็เดินฝ่าแขนแกร่งขององครักษ์ไปแต่ก็ยังไปไม่ถึงสามก้าวก็โดนรั้งตัวเอาไว้

“เฮ้! เจ้าจะไปหาสหายตอนนี้ไม่ได้ เจ้าชายกำลังรอเจ้าอยู่ด้านใน รีบเข้าไปเสีย!!”
ชายนัยตาสีเขียวมรกตเอ่ยขึ้น ทำให้จีมินหันหลังไปมองตำหนักที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าที่มีขนาดใหญ่โตเท่ากับบ้านเศรษฐีในเมืองK ขณะเดียวกันคิ้วเรียวก็กระตุกขึ้น แล้วส่งเสียงพึมพำเบาๆ

“เจ้าชายหรอ?”
“บ่นอะไรของเจ้ารีบเข้าไปได้แล้ว!!”
จีมินโดนผลักหลังให้เดินขึ้นบันไดไปยังประตูที่ร่างโปร่งเพิ่งเดินเข้าไปเมื่อกี้ เมื่อร่างเล็กเข้าไป องครักษ์ประจำตัวของยุนกิก็หันมามองหน้ากัน

“ฮีชอล เจ้าว่าเจ้าชายจะให้หนุ่มแปลกหน้าคนนั้นเข้าไปในตำหนักทำไม?”
ชายนัยตาสีเขียวมรกตหันมามองคนถาม จากนั้นก็ออกเดินช้าๆออกจากตำหนักเจ้าชายพลางยักไหล่ครั้งหนึ่งแล้วตอบสหายว่า

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ไม่ได้มีหูทิพย์เช่นเจ้าเสียหน่อย!”
“นั่นสินะ ข้ามีหูทิพย์ส่วนเจ้าก็มีตาทิพย์ อืมมม”
ฮีชอลที่เดินนำหน้าอยู่หยุดชะงักแล้วหันมามองสหายของตน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“นี่! โจวมี่ ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าชายเรียกเจ้าหมอนั่นเข้าไปในตำหนักทำไม เจ้าก็ใช้หูทิพย์ของเจ้าฟังดูสิ!”
เจ้าของชื่อถึงกับทะลึ่งตาใส่ฮีชอลพร้อมกล่าวดุๆว่า

“จะบ้าหรือ! หากทำเช่นนั้น ข้าก็โดนเจ้าชายลงโทษสิ เจ้านี่ขยันหาเรื่องใส่ตัวข้าจริงๆ”
กล่าวก็เดินกระแทกไหล่ฮีชอลอย่างแรงจนอีกคนกระเด็น ก่อนฮีชอลจะตั้งตัวดีๆแล้วโวยวายไล่หลังโจวมี่

“เจ้านี่!!! จะขอทางเดินก็บอกข้าก่อนสิโว้ย!! เกิดข้าล้มหัวฝาดพื้นขึ้นมาจะทำอย่างไร!! ย่าห์~~”



.............................................................
Talk: เหตุที่ค้างไปหลายวัน เพราะคิดฉากที่จะเจอกันของยุนมินไม่ออกค่ะ อับจนหนทางจนโดนดิ้นรนไปขอคำปรึกษาจากเพื่อน 😂 แต่สุดท้ายก็ต้องตั้งสมาธิแล้วคิดใหม่ จนได้ฉากอย่างว่านี้มา ตอนแรกกะว่าจะเอา พี่อีทึกกับพี่ฮีชอลมาเป็นองครักษ์พี่ออกัสเค้า แต่พอไปเห็นสัมภาษณ์ของพี่โจวมี่ที่บอกว่าคุณยุนกิ ไปเคาะประตูบ้านพี่เขาตอนตี1 นึกจะไปก็ไปโดยไม่โทรบอกล่วงหน้าด้วย สนิทกันถึงขั้นไหนคิดดู 😂😂 ก็เลยเอาพี่โจวมี่มาแทน ฮ่าๆ

อืมมม สุดท้ายขอบคุณคอมเม้นท์ที่ส่งเข้านะคะ มันช่วยกระตุ้นให้เราขยันมากเลย จนแต่งตอนนี้เสร็จ ผิดคำหลงคำตรงไหนก็ขอโทษด้วยนะคะ พอดีรีบ555 เดี๋ยวจะรีบแก้คำผิดด่วนๆเลย ขอบคุณอีกครั้งที่มาอ่านเรื่องนี้กันนะคะ^^

Continue Reading

You'll Also Like

7.3K 174 17
รวมฟิค One Shot จากแฟนด้อม Criminologist Himura and Mystery Writer Arisugawa (臨床犯罪学者火村英生の推理) Pairing : Himura Hideo x Arisugawa Alice Language : Thai
112K 9K 35
_ត្រឹមជាអង្គរក្សតូចតាចសាមញ្ញម្នាក់ ចំណែកឯទ្រង់ឈាមជ័រជាខ្សែររាជវង្ស ហើយម៉្យាងគេមានគូរដណ្តឹងហើយ តើស្នេហាមួយនេះវាអាចទៅរួចឬទេ?? ឆ្ងាយពេកហើយ..... «គេសំខ...
44.6K 581 48
จีมินคือนางฟ้าประจำวง FanFicสั้น..♡♡♡♡♡ ขอพื้นที่สำหรับนางฟ้าตัวเล็กด้วยค่ะ ถ้าชอบอย่าลืมคอมเม้นด้วยน้าา รักและขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
210K 2.8K 25
พ่อเขาฝากลูกให้มึงเลี้ยง ไม่ใช่ฝากให้มึงเอาลูกเขาทำเมีย #อากุกเลี้ยงต้อย