[ Love Story III ] หลุมรักอำพ...

By LADy_PINKSKY

62.6K 2.2K 589

ฉัน(สายขิม)ตกที่นั่งลำบาก ถูกดึงเข้าไปพัวพัล ในสมรภูมิรักหลายเศร้า เพราะเขา(เทลโอ) ที่มีฐานะเป็นนายจ้างชั่วค... More

ตอนที่2.. Crisis♡.
ตอนที่3.. อัศวินขี่ม้าขาว
ตอนที่4.. พี่เลี้ยง (เด็ก)
ตอนที่5.. คนแปลกหน้า
ตอนที่6.. ผู้หญิงอ่อนแอ
ตอนที่7.. ตกหลุมพราง
ตอนที่8.. การกลับมาของ'อันนา'
ตอนที่9.. Secret??
ตอนที่10..ทีมบาสที่ล่มสลาย
ตอนที่11.. คำเตือนจากคนไม่น่าเชื่อถือ
ตอนที่12.. คิดไปเอง
ตอนที่13.. คำสั่งร้าย นายซาตาน
ตอนที่14.. แล้วนายจะเสียใจ
ตอนที่15.. จะรักหรือจะร้าย
ตอนที่16.. หลงทาง!
ตอนที่17.. มิตรภาพที่หวนกลับ
ตอนที่18.. ไม่ยุติธรรม
ตอนที่19.. ความรู้สึกกับเรื่องไร้สาระ
ตอนที่20.. เผชิญหน้า
ตอนที่21.. ผู้หญิงในฝัน
ตอนที่22.. ร่าน แรด มั่ว!!
ตอนที่23.. คำยินดี
ตอนที่24.. โอกาสสุดท้าย
ตอนที่25.. ระยะทำใจ ToT
ตอนที่26.. มองกันที่ใจ
ตอนที่27.. you're the only one in my heart.
...บทส่งท้าย...

ตอนที่1.. น้องชายตัวแสบ

6.2K 117 15
By LADy_PINKSKY

"น้องๆ มานั่งทำไรอยู่คนเดียวเนี่ย ตกรถเมล์หรอ ให้พี่ไปส่งมั้ย "

เสียงขลุ่ยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในเครื่องแบบนักเรียนเวนเทียร์เต็มยศที่ย่อตัวลงมานั่งข้างๆเขาแล้วส่งรอยยิ้มใจดีมาให้ นี่ถ้าเป็นสาวๆคงละลายกลายเป็นฝุ่นละอองไปหมดแล้วละมั้ง
โชคดีนะที่เขาเกิดเป็นผู้ชาย!!

"ไม่ต้อง! "

เทลโอยักคิ้วให้กับเสียงแข็งที่ตอบกลับมา เด็กผู้ชายท่าทางไม่อายุไม่น่าจะเกินม.ต้นใบหน้าฟกช้ำเต็มไปด้วยร่องรอยตามเนื้อตัว นั่งกอดเข่าถอนหายใจอยู่หน้าโรงเรียนมาร่วม2ชั่วโมงแล้ว เขานั่งจับตามองอยู่ห่างจนคิดสงสารเลยเข้ามานั่งเป็นเพื่อน

"ทำไม"

"พี่สอนไม่ให้ไว้ใจคนแปลกหน้า "

คำของเด็กน้อยผู้หยิ่งทะนงเรียกเสียงหัวเราะให้เขาเข้าไปอีก

"หัวเราะอะไรอ่ะ "

เสียงขลุ่ยขึ้นเสีบงอย่างขุ่นเคืองเมื่อโดนหัวเราะเยาะ

"ป่าว! ก็แค่คิดว่าถ้ากลัวเรื่องแบบนั้นจริงๆ จะมานั่งล้อเสือล้อจระเข้ทำไม "

้เสียงขลุ่ยชะงักเข้าอย่างจัง เมื่อตระหนักได้ถึงท้องฟ้าที่แสงสว่างเริ่มหมดไป จริงสิ!นี่ก็เย็นมากแล้ว เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท แต่ก็ไม่วายที่จะอดถามคนข้างๆไม่ได้

"ว่าแต่พี่เหอะ! ว่าแต่คนอื่น แล้วทำไมไม่กลับบ้าน "

"พี่ก็นั่งเป็นเพื่อนนายไง ! "

คิ้วเขาขมวดเข้าหากัน แล้วชายแปลกหน้าคนนี้จะมานั่งเป็นเพื่อนเขาทำไม หน้าตาก็ดูดีไม่น่าจะใช้พวกมิจฉาชีพ หรือว่าเขาเป็นห่วงเรา

"ผมรอพี่อยู่"

"พี่?? "

"อืม..พี่สาวผมเรียนที่นี่ เธอกำลังจะมารับผม "
ไม่รู้ว่าทำไมถึงตัดสินใจพูดออกไป สงสัยคงเป็นเพราะว่าเราอยากมีเพื่อนคุยละมั้ง

"หึ!งั้นเธอก็คงเป็นพี่สาวที่แย่มากสินะ ถึงได้ทิ้งเราไว้คนเดียว ฮ่าๆๆ "

เขาพูดติดตลก หัวเราะเสียงดังลั่นทำลายบรรยากาศตึงเครียดที่เสียงขลุ่ยสร้างขึ้นมาอย่างราบคราบ ทำให้เสียงขลุ่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม

"ใช่เลย!นอกจากนั้น พี่ผมเธอเป็นคนซุ่มซามชอบทำโน่นทำนี่หกเลอะเทอะไปหมด ฮ่าๆ "

"ฮาๆ พี่สาวนายยังฮาน้อยกว่าพี่สาวพี่อีกนะจะบอกให้ ยัยนั่นน่ะชอบทาลิปสีแดงสดๆ ทาไปทามานึกว่าชะนีหลุดจากสวนสัตว์ ฮ่าๆ "

ไม่รู้ว่าเราคุยถูกคอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็เข้าขากันซะแล้ว

***************

ฉันตั้งใจไปหาไอ้น้องชายตัวแสบที่บ้าน อุตส่าห์ลงทุนเดินเข้าไปคฤหาสน์ห่วยแตกนั่น แต่มันกลับโทรมาบอกฉันว่ามันรออยู่หน้าโรงเรียนฉัน การเปลี่ยนสถานที่กะทันหันกินเวลาไปไม่น้อย หันไปอีกทีนี่ก็เกือบจะมืดซะแล้ว

"โธ่เว้ย! ลุงค่ะเร่งหน่อยได้มั้ยค่ะ ป่านนี้น้องหนูจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

ฉันลนลานบอกลุงคนขับแท็กซี่

"โธ่!หนู นี่ก็สุดๆแล้วนะ ถ้าเร่งกว่านี้ลุงเกรงว่าล้อมันจะหลุดไปกลิ้งอยู่กลางถนนแทน "

รถคนขับพูดติดตลก แต่ฉันเนี่ยไม่มีอารมณ์ร่วมเลยตอนนี้
ก็จริงของลุงนั่นแหละ=_=
ฉันเหลือบมองไปรอบแท็กซี่เก่าคร่ำครึเหมือนเศษเหล็กวิ่งอยู่บนถนนก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ รอหน่อยแล้วกันนะไอ้น้องชาย =o=
.
.
.
เสียงหัวเราะเฮฮาดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณ ฉันรีบลงจากรถเดินไปตามเสียงนั่นทันที พอรู้ว่าเสียงหัวเราะนั่นเป็นของใคร
เสียงไอ้น้องชายตัวแสบของฉัน ใช่!ไม่ผิดแน่

ว่าแต่..มันคุยกับใคร??

ฉันค่อยๆย่องเข้าไม่ด้อมมองเงียบๆ ร่างเด็กผู้ชายใส่เครื่องแบบต่างโรงเรียนนั่งคุยอย่างถูกคอกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่หัวเราะจนตาหยีติดไม่เหลือตาดำ ไม่ต้องบอกก็รู้ หมอนั่น!!

เทลโอ!!! O_o

"เอ้า! พี่สายขิมมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ ขลุ่ยรอจนรากจะงอกแล้ว "

เสียงขลุ่ยทักขึ้นทันทีที่เหลือบเห็นฉันทำให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆหันมองตามมาด้วย วินาทีนั่นสายตาฉันก็ประสานกับหมอนั่นพอดี

"ยัยแว่นนี่หรอ พี่สาวนายอ่ะ "

น๋อย! กล้าดียังไงมาเรียกฉันว่ายัยแว่นย่ะ

"ใช่! นี่พี่ผม ว่าแต่พวกพี่รู้จักกันหรอ"

"ไม่/ใช่ "
เราสองคนประสานเสียงกันแต่คนละความหมายอย่างสิ้นเชิง แต่เดี๋ยวน่ะ เราหรอ! เอ้ย..ทำไมฉันต้องใช้คำว่าเราด้วยเนี่ย >\\\<

"เอ๊ะ!นี่นาย.. "

"ก็ฉันไม่ชอบโกหก "
เทลโอว่าพลางยักคิ้วข้างซ้ายขึ้นนิดหน่อย นั่นมันยิ่งทำให้เขาดูเจ้าเล่ห์เข้าไปอีก

นึกว่าหล่อนักรึไงห๊ะ! ไอ้ขึ้เก๊กเอ้ย=_=

คิดเท่าไหร่ฉันก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าเราสองคนไปรู้จักกันตอนไหน
ก็แค่อยู่โรงเรียนเดียวกันเดินเฉียดไปเฉียดมาแทบจะไม่ได้ทักทายกันด้วยซ้ำ อย่างว่าเขาคือคาสโนว่าซุปตาร์สุดหล่อประจำเวนเทียร์ จะต้องมารู้จักอะไรกับยัยเนิร์ดหน้าบ้านๆอย่างฉันละ แค่ชนชั้นทางสังคมในเวนเทียร์ฉันก็เทียบอะไรหมอนี่ไม่ติดแล้ว

"เลิกทำหน้างงได้แล้วยัยแว่น ฉันไงที่เราเจอกันที่คฤหาสน์วรากรณ์ในงานวันเกิดคุณหญิงพราวพิลาศไง ทำเป็นจำไม่ได้ไปได้ "

ก็ไม่ได้จำไม่ได้หรอก ก็แค่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องรู้จักกัน

"พี่นายนี่แปลกนะไอ้น้อง นอกจากชอบทำตัวเฉิ่มๆแล้วยังสมองปลาทองอีก หันกินปลาเยอะๆหน่อยก็ดีน่ะสาวน้อย"

เขาหันไปพูดกับเสียงขลุ่ยแต่มือนี่สิ้...ดันมาขยี้ไปมาบนหัวฉัน

น๋อยแน่ะ! เพื่อนเล่นหรอไอ้ตี๋น้อย

"ท่าทางพวกพี่คงจะสนิทกันจริงๆด้วย "

เสียงขลุ่ยยิ้มแป้นมาที่เราสองคน
แต่ฉันไม่มีอารมณ์มานับญาติกับใครหรอกนะ

ฉันหันขวับไปจ้องเทลโอตาเขียว ก่อนจะส่งเสียงอำมหิตๆเข้าประสาทหูหมอนั่นด้วยความอดทนที่เหลือน้อยเต็มที

"จะปล่อยมือจากหัวฉันได้รึยัง"

เขาเบะปากนิดหน่อย แล้วเอามือออกอย่างไม่อิดออด ให้ตายสิ..ทำไมวันนี้ฉันต้องมาทำสงครามประสาทกับหมอนี่ด้วยเนี่ย

"ไปกันเถอะ..ดึกแล้วมีอะไรไปคุยในหอ "

ฉันว่าแล้วจับมือเสียงขลุ่ยให้เดินตาม จริงๆแล้วรำคาญคนข้างมันต่างหากแหละ

"เดี๋ยวสิพี่สายขิม ขลุ่ยยังไม่ได้รู้จักพี่สุดหล่อเลย "

อุ๊ยตาย! ไอ้เด็กแก่แดด แกเรียกหมอนี้ว่าอะไรนะ แกไม่ได้วิปริตผิดเพศใช่มั้ยเสียงขลุ่ย !!

"พี่ชื่อเทลโอ ยินดีที่ได้รู้จักน่ะ "

เทลโอย่อเข่าลงมาแล้วส่งยิ้มให้เสียงขลุ่ยอย่างอ่อนโยน ซึ่งไอ้น้องชายตัวแสบของฉันก็ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ

"ผมเสียงขลุ่ยครับ น้องชายพี่สายขิม หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะ "

"แน่นอนสิ เราได้เจอกันอีกแน่ ใช่มั้ย!สายขิม "

เขาว่าแล้วเปรยสายตามาหาฉัน ฉันหันหน้าหนีทันที อร๊าย!มาถามฉันทำไมเนี่ย

"รีบไปกันเหอะ พี่รีบ "

"บ้ายบายครับพี่เทลโอ "

แหม๋!รู้จักกันยังไม่ทันข้ามวันมีบ้ายบงบ้ายบายกันแล้วนะ นี่ถ้ารู้จักกันเป็นเดือนเป็นปีไม่ไปเกาะหมอนั่นเป็นพี่แทนฉันเลยหรอห๊ะ! เอ้ย!แล้วนี่ฉันเป็นอะไรเนี่ย
อิจฉาหมอนั่นหรอ..ไม่..ไม่ใช่แหละ

*****************

»» หอพัก

ตุ๊บ!

"โอ้ยยย!!"

"ใจเย็นๆสิว่ะไอ้สายขิม เดี๋ยวเสียงขลุ่ยมันก็ตายพอดีหรอก"

นาริสว่ารีบเอาตัวกันเสียงขลุ่ยไว้ข้างหลังมันก่อนที่ฉันจะตีมันตายซะก่อน

"ใช่!ใจเย็นๆนะแก พี่น้องกันแท้ๆค่อยๆพูดค่อยๆจากันนะ"

แชมเปญเสริมขึ้นอีกคน ในขณะที่มือมันกำลังรั้งแขนฉันแน่นจนกระดิกแทบไม่ได้

"เย็นหรอ! พวกแกพูดใหม่ดิ แกดูสภาพมันดิมันเป็นแบบนี้แกจะให้ฉันเย็นอีกหรอ "

ฉันตวาดลั่น จนสองคนนั้นถึงกลับพูดไม่ออก
ร่องรอยฟกช้ำและบาดแผลหลายแห่งบนใบหน้าและร่างกายของเสียงขลุ่ยเป็นเครื่องยืนยันและตอกย้ำโทสะของสายขิมได้เป็นอย่างดี

"ใช่! ถ้าฉันเป็นไอ้สายขิม ฉันจะตีให้ตายเลย "

"บลายธ์ !!"

แชมเปญกับนาริสพูดขึ้นพร้อมกัน แต่เจ้าตัวก็ยังลงนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนเล่นสบายใจไม่รู้ไม่ชี้

"ถ้าแกไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าแกเป็นใบหรอกนะ " นาริสว่า

"ปากฉันยะ ไปยืมแกรึไง "

"น๋อย!ยัยบลายธ์ "

"พอพอพอ..พี่น้องทะเลาะกันคู่เดียวฉันก็ห้ามไม่ไหวแล้ว อย่าก่อศึกสายเลือดกันเพิ่มเลยนะดเว้ย "

แชมเปญรีบห้าม เมื่อบลายธ์กับนาริสจะตีกันอีกคู่

ฉันรู้ดีว่านำเรื่องลำบากใจมากให้ยัยพวกนี้ปวดหัว แต่เรื่องนี้ฉันปล่อยไปไม่ได้จริง ไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวของตัวเองทำตัวเกเรหรอกนะ โดยเฉพาะเสียงขลุ่ยน้องชายที่อ่อนโยนของฉัน เขาเป็นเด็กดีมาตลอด แต่ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ฉันไม่เข้าใจมันจริงๆเลย

"ปล่อยฉันได้ยังแชมเปญ ฉันต้องพูดกับมันให้รู้เรื่อง "

"ไม่!ฉันไม่ปล่อย น้องแกกลัวจนตัวสั่นหมดแล้วไม่เห็นรึยังไงสายขิม "

"ถ้ามันกลัวจริงๆมันคงไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้หรอก "

"เลิกบ้าสักทีน่า แกเป็นพี่มันประสาอะไรว่ะ น้องแกนิสัยยังไงแกยังไม่รู้เลย แกอยู่กับมันมาตั้งนานแกน่าจะเข้าใจมันมากที่สุดสิสายขิม ไอ้ขลุ่ยหนีร้อนมาพึ่งแกนะเว้ย แกตวาดใส่มันอีกคนมันถูกแล้วหรอว่ะ "

นาริสขึ้นเสียงแข่งกับฉัน ทำสถานการณ์หยุดชะงักไปชั่วขณะ

"ทำไมแทนที่แกจะมาทุบตีมันแกไม่ใช่เวลานี้ไปถามมันละว่ามันทำทำไม ทำเพราะอะไร ไม่มีใครเขาอยากทำความผิดหรอกนะสายขิมแม้แต่แกหรือฉัน น้องแกก็ด้วย มันขึ้นอยู่ที่ความจำเป็นด้วยกันทั้งนั้น ใจเย็นเมื่อไหร่ค่อยมาว่ากัน ไปเสียงขลุ่ย เดี๋ยวพี่หายาทาให้ "

นาริสว่าสายตามองมาที่ฉันด้วยความตำหนิ ก่อนจะพาร่างของเพลงขลุ่ยหายเข้าห้องนอนไป

จิตใจของฉันปั่นป่วนไปหมด ทั้งสับสนและวุ่นวาย ทำไม..ทำไมกัน.. ทำไมแทนที่ฉันจะปลอบประโยนน้องชายตัวเองฉันกลับเลือกที่จะทำร้ายเขา วินาทีแรกที่เห็นบาดแผลบนหน้าเสียงขลุ่ยฉันพยายามสะกดกลั้นอารมณ์มาตลอดทางรอจนถึงหอ อารมณ์พวกนั่นมันก็เก็บไว้ไม่อยู่
จนเผลอทำอะไรที่ไม่สมควรกระทำ

ฉันคงเป็นพี่สาวที่แย่มากสินะ U_U
"เอ้ย! โชคดีนะที่ฉันไม่ได้เป็นพี่ใคร วุ่นวายชะมัด "

"ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงโชคดีเหมือนกันที่เกิดเป็นลูกคนเดียว "

บลายธ์กับแชมเปญหันหน้าพูดกันเงียบๆ ก่อนจะเบี่ยงตามามองที่ฉัน

"รีบไปปฎิบัติหน้าที่พี่สาวที่ดีสิยะ มัวแต่ยืนเซ่อแบบนี้ ไอ้เสียงขลุ่ยมันแย่งนาริสของฉันไปฉันจะฆ่าแกสายขิม "

บลายธ์ขู่ ทำหน้าตาใสซื่อไร้เดียงสาเหมือนเด็กอนุบาลหวงพี่สาว

"ทำไม! เกิดหวงนาริสขึ้นมารึไงแก"

แชมเปญทักยิ้มๆ

"ก็ป๊าว! แค่ไม่ชอบใช้พี่ร่วมกับใคร ไปเอาน้องแกออกจากพี่ฉันเลย"

"เออ..ไปแล้ว "

ฉันว่าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ เอาว่ะ!! อย่างน้อยฉันก็ควรจะกล่าวคำขอโทษ ฉันทำรุนแรงไปจริงๆ ก็โมโหหนิ

ฉันไม่รู้หรอกว่าเสียงขลุ่ยมันเป็นอะไร แต่ก่อนหน้านี้มันโทรหาฉันจนโทรศัพท์แทบจะระเบิดลงเดาไม่ยากว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับแผลบนหน้ามันแน่นอน ไหนจะอาการไม่อยากกลับบ้านมันเอง ให้เดาอีกก็ถูกอีกว่าทุกคนในบ้านยังไม่เห็นหน้าเละของมัน แต่ที่ฉันเดาไม่ถูกและไม่มีวันที่จะเดาถูกก็คือ มันทำไปทำไม

ก๊อกๆๆ!!

"มีอะไร" นาริสเปิดประตูห้องออกมาหน้าตาไม่รับแขกเท่าไหร่ มันคงโกรธแทนเสียงขลุ่ยละมั้ง

"ฉันขอคุยกับเสียงขลุ่ยหน่อย"

"ไม่ได้น้องนอนแล้ว "

"ขลุ่ยอยากคุยกับพี่สายขิมครับ"

เสียงขลุ่ยพูดขึ้นแทรกประโยคหลังของนาริสทันที ทำให้ยัยนั้นหันกลับไปทำสายตาดุๆนิดหน่อยก่อนจะยอมเดินออกไปจากห้องแล้วให้ฉันเข้าไปได้

เสียงขลุ่ยนั่นอยู่บนเตียงมองสบตาฉันไม่ละห่างไปไหน ทำเอาฉันสำนึกผิดไปเลยทีเดียวที่ตีมันไปตั้งหลายที

"เสียงขลุ่ย..พี่..ขะ..ขอ "

"ไม่ต้องขอโทษหรอกพี่ พี่ไม่ผิดหรอก ขลุ่ยผิดเองแหละที่ก่อเรื่องมาให้พี่ปวดหัว "

พูดแบบนี้เอาไม้หน้าสามตีหัวฉันให้แตกเลยดีกว่าเสียงขลุ่ย ยิ่งแกพูดฉันยิ่งกลายเป็นคนร้ายทำร้ายน้องตัวเองเข้าไปทุกที

"ขลุ่ยไม่เหลือใครแล้วพี่สายขิม ถ้าพี่ไม่ช่วยแม่เอาขลุ่ยตายแน่ๆ พี่ต้องช่วยขลุ่ยนะ..พี่ต้องช่วยขลุ่ย"

ไม่พูดป่าว เสียงขลุ่ยเขย่าร่างฉันเหมือนไวตามิลยิ่งเขย่ายิ่งอร่อย เอ้ย!ไม่ใช่แล้ว

"พอก่อน เอ่ยพอๆๆ แกบอกฉันก่อยสิว่าไปทำอะไรมา"

ฉันสะบัดมือมันออกเพราะเริ่มจะปวดหัวแล้ว

"พี่พูดแบบนี้แสดงว่าจะช่วยใช่มั้ย"

"พูดขนาดนี้แล้วไม่ช่วยมั้ง"

"สัญญานะ"

"เออสัญญา "

อะไรของมันทำไมต้องทำลึกลับซับซ้อนอะไรด้วยพูดซะทีสิ้

เสียงขลุ่ยยิ้มอย่างดีใจก่อนจะล่วงเอาจดหมายฉบับหนึ่งที่ยับยู๋ยี่ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วส่งมันมาให้ฉัน

"อ๊ะ! แทนคำตอบทุกอย่าง"

"อะไรของแก "

ฉันว่าแล้วยื่นมือไปรับอย่างงงๆ
ก่อนจะเปิดอ่านทันที

"อะไรน๊ะ! จดหมายเชิญผู้ปกครองหรอ แกไปทำอะไรมาเนี่ย "

"เดี๋ยวไปถึงพี่ก็รู้เองแหละ ขลุ่ยง่วงแล้วนอนนะ "

เป็นคำตอบที่ฉันไม่ต้องการจะได้ยินเลย ถึงขั้นเชิญผู้ปกครองนี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะ

"ไอ้ขลุ่ย!ลุกมาพูดกันให้รู้เรื่องนะ "

"ไม่เอา!บอกแล้วไงว่าง่วง อ่อเสื้อนักเรียนขลุ่ยกองไว้ตรงนั้นนะ เอาไปซักอบแล้วก็รีดให้ด้วย พน.ขลุ่ยต้อวไปรร.แต่เช้า"

โห้ยยย! ไอ้น้องบ้า ก่อเรื่องแล้วยังมาหน้ามาใช้ฉันอีกหรอเนี่ย

ฉันกัดฟันกรอดก่อนจะก้มเก็บเสื้อผ้ามันใส่ตะกร้า พลางก้มมองจดหมายเชิญผู้ปกครองอย่างเหนื่อยใจ จะเอายังไงดีละทีนี้

Continue Reading

You'll Also Like

168K 2.1K 45
เมื่อผมโดนบอกเลิกในวันครบรอบ1ปี เลยไปฉลองให้กับความโสดของผมกับน้องชาย จนเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
12K 555 17
ถ้าคุณรู้ว่าอีก 40 วันโลกจะแตก คุณจะทำยังไง? แมตตี้ บลูธอร์น เด็กสาววัย 17 ปี ผู้มีชีวิตเรียบง่าย และแสนธรรมดา เว้นเสียแต่ เธอสามารถเห็นอ...
68.6K 2.5K 69
ชายหนุ่มผู้มีครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์อีกครึ่งเป็นแวมไพร์ เขาคือกุญแจสำคัญในการคืนชีพ"ราชินีแวมไพร์" เพื่อทวงสิทธิความเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อาหาร...เขาจะเลือก...
30.7K 294 18
เรื่องนี้มีเนื้อหาเหมาะสำหรับสาววัยทุกช่วงอายุ ผู้คนที่ไม่ใช่สาววายและคนโลกสวยควรได้รับคำแนะนำก่อนอ่าน