Rose Lady ปฏิบัติการสุดเซ็กซี...

By Morningmoonz

50.2K 1.4K 142

พราะเขาเย็นชากับสาวสวยอย่างฉันได้ลงคอ ปฏิบัติการอ่อยว่าที่หมอจึงเกิดขึ้น ให้มันรู้กันไปสิว่าเขาจะทนได้สักกี่... More

แนะนำนิยาย
บทนำ
บทที่ 1 คำสบประมาณที่ยากจะลืม
บทที่ 2 วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ใช้ลมหายใจร่วมกัน
บทที่ 3 แผนจู่โจมปล้นหัวใจ
บทที่ 5 คู่แข่งแสดงตัว
บทที่ 6 ความรู้สึกที่หวั่นไหว
บทที่ 7 : ปั่นป่วนยั่วยวนใจ
บทที่ 8 คนคุ้นเคยที่ไม่อยากเห็น
บทที่ 9 : ศัตรูหัวใจหมายเลข 1
บทที่ 10 : อดีตที่ไม่อยากพูดถึง
แจ้ง Pre-Order 25 พค - 10 มิย 2015
บทที่ 11 อย่าทำให้สับสน
บทที่ 12 แรกไม่รักชักหวั่นไหว
บทที่ 13 ชายชุดดำ
บทที่ 14 ยอมรับเถอะหัวใจ
บทที่ 15 ใครคือคนร้าย
EPISODE 16[END]DELETE

บทที่ 4 วุ่นวาย วุ่นใจ

2.1K 66 10
By Morningmoonz

วุ่นวาย วุ่นใจ

                “ตื่น ๆ”

                ……….

                “นายโลกันต์ ตื่นได้แล้ว!!”

                ผมรู้สึกถึงการเขย่าตัวอย่างแรงจากใครบางคนที่มีเสียงแหลมแสบแก้วหูจนต้องเอาหมอนมาปิดไว้  เสียงมันคุ้น ๆ เหมือนเสียงของยัยโรคจิตจอมยั่วนั่น นี่ผมหลอนจนถึงขั้นเก็บมาฝันเลยหรอเนี่ย!!

                “ตื่น ๆๆๆ ตื่นเดี๋ยวนี้!!”

                ผมถูกมือเล็ก ๆ ตบเบา ๆ เข้าที่หน้า แต่คือมันหลายทีไงเลยรู้สึกชาจนต้องลืมเปลือกตาขึ้นมามองทั้งที่ยังสลึมสลืออยู่….

                ยัยโรคจิตแพรลีน!!

                โหนี่ผมเห็นหน้าเธอชัดมาก ขนาดในฝันนะเนี่ย!! แต่เฮ๊ยทำไมมันเจ็บจริงอะไรจริงอย่างกับ 4DX ขนาดนี้

                “นายจะตื่นมั้ย หรือจะให้ปลุกด้วยท่าไม้ตาย……”

                หน้ายัยบ้านั่นเลื่อนเข้ามาใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน มือผมรีบดันเธอออกห่างไปโดยอัตโนมัติ…. มือผมสัมผัสเธอได้แสดงว่าไม่ได้ฝันนี่หว่า!!!

                “เข้ามาได้ยังไง?”

                แม้ว่าผมจะยังไม่ตื่นดีเท่าไหร่ แต่สมองยังประมวลผลได้อย่างดีว่าก่อนนอนผมก็ล็อคห้องเรียบร้อยแล้วหนิ ทำไมยัยนี่ถึงเข้ามาได้นะ! เป็นสาวเป็นแซ่เข้ามาห้องผู้ชายตามใจชอบแบบได้ไง!!

                “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ฉันต้องมาปลุกนายนะ”

                ปลุกฉันเพื่อ??!!

ผมเหลือบตามองเห็นท่ายืนที่สุดจะมั่นของเธอแล้วโคตรหมั่นไส้เลยผู้หญิงอะไรมั่นหน้ามั่นหุ่นจนเกินงาม แล้วยิ่งกระโปรงสั้น ๆ นั่นอีกเห็นแล้วหงุดหงิดลูกตาชะมัด!

“ปลุกทำไม”

“ก็ลากนายไปเรียนไงล่ะ ฉันรู้นะว่าเช้านี้มีเรียน” ยัยนี่เดินมายื่นหน้าใส่ผม “เพราะฉันมีตารางเรียนของนาย!!” ไม่พูดเปล่านะ แพรลีนยังถือวิสาสะใช้มือเล็ก ๆ นั่นมาลูบบริเวณไหปลาร้าผมเฉย….

”ไม่ไปอ่ะ”

ผมปัดมือเธอก่อนที่จะโดนลวนลามไปมากกว่านี้ แล้วล้มตัวนอนหันหลังโดยไม่สนใจเสียงแว๊ด ๆ ของเธอที่กำลังบ่นผมอยู่ นอกจากเสียงเธอจะน่ารำคาญแล้ว ทุกอย่างที่เป็นเธอมันก็น่ารำคาญด้วย!

“ได๊ ไม่ตื่นดี ๆ งั้นช่วยไม่ได้นะนายเลือกเอง”

ควับ!!

สิ้นเสียงปุ๊บ เธอก็ผลักผมให้นอนตรง ๆ แล้วก็ขึ้นคร่อมกันแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ประเด็นคือเธอมีแก้วน้ำอยู่ในมือด้วยไง!!

ซ่า…..

คือเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากในขณะที่ผมกำลังตกใจเธอก็สาดน้ำใสหน้าผมเต็ม ๆ แรงแล้วรีบลุกออกไปจากตัวผมทันคือ ด้วยความไม่ทันตั้งตัวทำให้น้ำเข้าตาเข้าจมูกจนผมต้องเอามือลูบออก…

ยัยโรคจิตตัวแสบ!!!

“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว ฉันจะรอตรงนี้แหละ”

ผมหันไปมองเธอด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง แต่เธอกลับนั่งไขว้ห้างกระดิกเท้าอย่างสบายใจที่เก้าอี้นั่น กล้าสาดน้ำใส่ผมแล้วยังมาสั่งให้ทำนู้นทำนี่อีก ยัยนี่เป็นใครวะกล้าทำกับผมถึงเพียงนี้!!!

“ออกไปรอข้างนอกก่อน เดี๋ยวตามไป”

“รอตรงนี้แหละ ฉันรู้เดี๋ยวนะว่านายจะนอนต่อ”

โดยกวนประสาทกันแบบนี้ ใครจะนอนได้ลงอีก!!

“อยากดูฉันแก้ผ้าก็ตามใจ”

ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะแน่แค่ไหน ผมเดินไปใกล้ ๆ เธอแล้วเริ่มถอดเสื้อออกอย่างช้า ๆ ใบหน้าของแพรลีนที่ขาวซีดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงน้อย ๆ ผมตาฝาดหรือเพราะนั่นเป็นสีเครื่องสำอางวะ คนอย่างเธอเนี่ยนะจะมาหน้าแดงเพราะผมถอดเสื้อโชว์

“เออ ๆ รอข้างนอกก็ได้ รีบ ๆ ล่ะถ้ายึกยักล่ะก็ฉันไปลากนายถึงในห้องน้ำแน่”

แพรลีนทำท่าดุใส่ผมเหมือนกำลังกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง นี่ถ้าเธอเป็นนักแสดงผมว่าคงได้รางวัลออสก้าเลยนะเนี่ย บทผู้หญิงกร้านโลกที่กำลังแสดงท่าทีเหนียมอาย หลอกใครหลอกได้ครับแต่อย่ามาหลอกคนอย่าง ‘โลกันต์’

ผมรู้ว่าเธอเป็นพวก ‘พูดจริงทำจริง’และก็ใจกล้าบ้าบิ่นมากด้วย ขืนช้าละก็มีหวังเธอได้บุกเข้ามาอีกแน่ ๆ ผมเลยใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วและลงไปพบเธอที่ห้องนั่งเล่นข้างล่าง

“วันนี้รถฉันนะ”

พูดจบเธอก็เดินนำลิ่ว ๆ ส่วนผมก็ขี้เกียจพูดมากและเบื่อที่จะต้องเถียงไหน ๆ ก็โดนก่อกวนขนาดนี้แล้ว คงต้องไปเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้

ไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดูดีมากไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ามองอย่างตอนนี้ที่เธอกำลังขับรถสปอร์ตสุดหรูสวมแว่นดำกันแดด มันทำให้ดูเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก

คือผมก็ไม่ได้มองตรง ๆ หรอกนะ ใช้หางตาเหลือบมองเท่านั้นแหละเดี๋ยวเธอจะได้ใจ ส่วนใหญ่แล้วผมมองออกไปนอกหน้าต่างมากกว่า เห็นหน้าเธอมาก ๆ ก็รำคาญหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แต่ผมมันพวกแสดงออกไม่เก่งไงเธอเลยคิดว่าผมอารมณ์ปกติมั้ง เลยขยันหาเรื่องกวนประสาทได้ไม่หยุดหย่อน

แลนโบกินีสีดำถูกจอดที่หน้าคณะแพทย์ ดีที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่คนเลยไม่มากนักเพราะผมก็ไม่อยากจะให้ใครเห็นว่ามากับยัยนี่เท่าไหร่

ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะแพรลีนน่ะดังจะตายใคร ๆ ก็รู้จักเธอแต่แบบว่าเรื่องในด้านลบซะมากกว่า ขนาดเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่รู้จักเธอผมยังเคยได้ยินชื่อผ่านหูบ่อย ๆ ผมไม่อยากเป็นเป้าสายตาให้คนอื่นนินทาเอา ไม่ใช่ว่าแคร์อะไรหรอกนะแต่มันรำคาญซะมากกว่า ที่ใคร ๆ ต่างจับตามอง

“เดี๋ยวเย็นนี้ฉันมารับนะ”

“ทำไมต้องเชื่อ”

“เพราะโทรศัพท์นายอยู่กับฉันไง”

ยัยนั่นกำลังยกมือถือของผมขึ้นมาโชว์ เวรเหอะไปอยู่กับเธอตอนไหนวะเนี่ย!!

จริง ๆ ผมจะแย่งคืนก็ได้นะ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงเลือกลงจากรถไปอย่างเงียบ ๆ แทน ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นตึกผมก็ครุ่นคิดไปด้วยว่าทำไม…. แต่รู้อะไรมั้ยคำตอบคือความว่างเปล่า ผมคิดอะไรไม่ออกเลย!!!

คิดว่าเรื่องยัยแพรลีนน่าเบื่อแล้ว วิชาในห้องเรียนน่าเบื่อมากกว่าอีก ปกติผมจะเลือกเข้าเป็นบางวิชาเท่านั้นไง และวันนี้ผมก็ไม่ได้คิดจะมาเรียนด้วย ยัยจอมวุ่นวายนั่นทำให้ผมกำลังนั่งทรมานอยู่ในคลาสเรียนที่แสนจะสะอิดสะเอียนไปด้วยการบรรยายเรื่องอวัยวะของแมลง

ความจริงผมก็ไม่ได้คิดอยากจะเรียนหมอมาแต่แรกอยู่แล้ว แต่ก็ทนมาได้จนจะจบ นี่ผมยังมองไม่ออกเลยว่าจะรักษาคนไข้ได้ยังไง แม้ว่าผมจะไปขึ้นวอร์ดบ้างก็ตามแต่ส่วนใหญ่ก็จะโบ้ยงานให้เพื่อนทำแล้วตัวผมเองจะคอยยืนเป็นแบล็คอยู่ข้างหลัง

ผมเลยไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่หรอก มาเรียนบ้างไม่มาบ้างทำตัวผ่าเหล่าผ่ากอไม่มีอนาคตอย่างผมใครจะมาคบละจริงมั้ย ฉะนั้นในแต่ละวันที่ต้องมาเรียนจึงผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย จนกระทั่งมียัยโรคจิตนั้นเข้ามาวนเวียนในชีวิตผม

เธอกล้าถึงขนาดย้ายมาอาศัยอยู่ชายคาเดียวกับผมด้วยไม่รู้ทำไมถึงอยากจะเอาชนะผมนัก เพียงแค่ผมไม่เล่นด้วยแค่นี้เอง ไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยหรอกนะ

แพรลีนน่ะสวยมากและเซ็กซี่สุด ๆ แต่ท่าทางมั่นใจของเธอมันทำให้ผมอยากจะกำราบอย่างบอกไม่ถูก มันสนุกดีนะเวลาเห็นเธอเสียหน้าด้วยคำพูดเจ็บ ๆ ของผม เธอจะได้รู้ว่าอย่ามั่นให้มากเกินไป

“เฮ๊ย วันนี้คิดไงมาเรียนวะ”

ระหว่างที่ผมกำลังคิดเรื่องยัยตัวแสบเสียงไอ้ ‘อัศวิน’ เพื่อนคนเดียวในคลาสก็เอ่ยทักขึ้น ก็บอกแล้วไงปกติผมมาเรียนที่ไหนกันล่ะ

“ไม่ได้คิด”

อัศวินเป็นเพื่อนที่คอยช่วยผมในเรื่องเรียนนี่ถ้าไม่ได้มันก็คงไม่ผ่านมาถึงจุดนี้แน่ ๆ ถ้าพูดถึงความสนิทแล้ว ก็จัดอยู่ในขั้นที่พูดคุยกันได้เกือบทุกเรื่อง หมายถึงมันนะไม่ใช่ผม

ไอ้อัศวินมันชอบมาระบายเรื่องต่าง ๆ มันบอกว่าผมเป็นผู้ฟังที่ดี ก็จริงอย่างที่มันว่าแหละ ผมชอบฟังมากกว่าพูดฉะนั้นไม่ว่ามันจะระบายอะไรออกมาผมก็ฟังทุกเรื่อง

“เจอนายก็ดีละ เมื่อหลายวันก่อนมีคนมาถามหาที่อยู่นายกับฉันว่ะ”

“ใคร?”

“มารีน ปี 3 คณะนิเทศ นายรู้จักมั้ยล่ะ?”

มารีน…. ผมพยายามนึกนะ แต่คือไม่เคยรู้จักเด็กปี 3 คณะนิเทศเลยไง ขนาดคณะแพทย์ด้วยกันยังแทบจะไม่รู้จักเลย

“เห็นว่าเป็นเพื่อนน้องแพรลีนแสนสวย”

โอเคชัดเลย!! ผมเลิกสงสัยละ ยัยนั่นคงให้เพื่อนมาสืบหาที่อยู่ชัวร์ มิน่าล่ะทำไมเธอถึงไปโผล่ที่บ้านพี่สาวผมได้ ยัยนี่น่ากลัวกว่าที่คิดแฮะ

“ช่างเหอะ”

“ฉันเห็นนะเว้ย ช่วงนี้น้องเขามาเกาะแกะแกอยู่หนิ”

.”…..”

“เป็นไงวะ น้องเขาถึงใจมั้ย?”

ผมหันไปมองหน้าไอ้อัศวินอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าอย่างไหนกันแน่อะไรเหมือนกัน คือไม่พอใจที่มันถาม หรือไม่พอใจคำถามของมันกันแน่!!!

                “ไร้สาระว่ะ”

                มันก็เป็นปกติที่ผมเคยได้ยินมาเกี่ยวกับเรื่องของแพรลีนที่เธอชอบยั่วมั่วเซ็กส์ แต่คือทุกทีที่ได้ยินเรื่องทำนองนี้ก็เฉย ๆ ไง แต่ทำไมวันนี้มันหงุดหงิดได้ก็ไม่รู้ สงสัยเพราะตื่นเช้าเกินแน่เลย!! เพราะยัยนั่นคนเดียว!

                วันนี้ทั้งวันผมโคตรทรมานเลยเพราะช่วงบ่ายผมไม่มีเรียนเลยไม่มีอะไรทำเซ็งสุด ๆ ดีที่วิชาสุดท้ายของวันนี้ปล่อยเร็วหน่อย เลยมีเวลาออกมาสูดอากาศด้านนอก ไม่รู้ป่านนี้ยัยนั่นเรียนเสร็จรึยังด้วย

                “อ่าว สวัสดีค่ะ พี่โลกันต์”

                ผมหันไปมองตามเสียงใสๆ ที่เข้ามาทักผม เธอเป็นรุ่นน้องคณะแพทย์ที่น่ารักนิสัยดี ชอบเข้ามาทักผมบ่อย ๆ เวลาเจอกัน

                “สวัสดีครับเม็ดนุ่น”

                “โอ้ พี่โลกันต์จำชื่อนุ่นได้ด้วยหรอคะเนี่ย”

                “ครับ”

                เม็ดนุ่นเป็นผู้หญิงที่น่าตาน่ารักมากในสายตาผม เธอเรียบร้อยทั้งนิสัยและการแต่งตัวเลยล่ะเรียกว่าใกล้เคียงกับสเปคผมมาก ๆเมื่อเทียบกับยัยโรคจิตนั่นห่างไกลกันมากมาย

                “แล้วนี่พี่โลกันต์รอใครอยู่หรอคะ?”

                คำถามของเธอทำให้ผมตอบไม่ถูกเหมือนกัน จะว่าไงดีแพรลีนไม่ใช่เพื่อน คำว่าแฟนนี่ยิ่งห่างไกล จะว่าคนรู้จักก็ไม่เชิง ก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบไหนเหมือนกัน

                “รอฉันไง!”

                แพรลีน!! ยัยนี่โผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้แถมยังมาเกาะแขนผมซะแน่นเลย!

                “นี่พี่โลกันต์รู้จัก แพรลีนด้วยหรอคะ”

                “รู้จักดีซะด้วยแหละ!!”

                ผมไม่ได้ตอบนะ ยัยโรคจิตตอบแทนผมต่างหาก….

                “อ๊อ มิน่าละเห็นเธอมาป่วนเปี้ยนแถวนี้บ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนพี่โลกันต์นี่เอง”

                เม็ดนุ่นยังคงพูดด้วยท่าทีสุภาพอ่อนหวาน รอยยิ้มอ่อน ๆ นั่นทำให้ผมอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้ ใบหน้าของเธอไม่ได้แต่งแต้มสีอะไรมากนักดูเป็นธรรมชาติ ผิดกับคนข้าง ๆ ผมที่หน้าเต็มไปด้วยสีสันจัดจ้าน

                “ฉันเป็นแฟนเขา”

                แพรลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำอย่างมั่นใจจนทำให้ผมอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้จริง ๆ

                “ไม่ใช่”

                “นาย!!”

                “งั้นนุ่นขอตัวก่อนละกันนะคะ เอาไว้โอกาสหน้าค่อยคุยกันใหม่” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยท่าทีที่ดูน่ารักน่าชัง ”ฉันไปก่อนนะ…แพรลีน”

                ดูเหมือนทั้งสองคนนี้จะรู้จักกันมาก่อนดูจากทาท่าของแพรลีนที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ พวกเขาคงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อกันแน่ๆ

                “รีบไปเลยไป๊”

                ยัยนี่คงสะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นแน่ ๆ ผมอดที่จะถอนใจออกมาไม่ได้ ผู้หญิงอะไรนอกจากขี้อ่อยแล้วยังมารยาทโคตรแย่

                ทำตัวน่ารังเกียจขนาดนี้ยังมีหน้ามาทำตาเขียวใส่ผมอีกแน่ะ!!

                “มองอะไร”

                “นายรู้จักยัยนั่นด้วยหรอ”

                “รู้จัก”

                “สเปคนายเลยสิ!!”

                “ใช่”

                “นะ นายโลกันต์!!”

                ผมไม่เข้าใจว่าทำไมยัยโรคจิตต้องมาตะคอกผมด้วย ทั้งที่ผมพูดความจริงก็เม็ดนุ่นเป็นแบบที่ผมชอบนี่นา เพียงแต่ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเธอก็เท่านั้นเอง

                “หึงหรอ?”

                “บะ บ้า ประสาทใครจะหึงนายไม่มีวันหรอก นายตะหากจะต้องมาหึงฉัน!!”

                “ไม่มีวันหรอก”

                อยากให้มาเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้จัง ตาปูนอย่างกะไข่ห่าน ปากที่เคยสวยได้รูปตอนนี้เริ่มเบี้ยวไปมา นี่ถ้ามีมีดอยู่ในมือเธอคงพร้อมที่จะสับผมออกเป็นชิ้น ๆ แน่ความจริงยั่วยัยนี่ให้โมโหเล่นก็สนุกดีเหมือนกัน ปกติชอบเก็กหน้าสวยยั่วให้ทำหน้าบูดเบี้ยวบ่อย ๆ ท่าจะดี

                ระหว่างทางกลับบ้านเธอไม่พูดกับผมเลยสักคน นั่นถือเป็นเรื่องดีเพราะผมก็ไม่อยากจะคุยอะไรมากแถมเบื่อที่จะได้ยินเสียแว๊ด ๆ ของเธอด้วย นั่งอยู่ในรถเงียบ ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

                เพราะเธอขับรถเร็วมากไม่นานนักพวกเราก็ถึงที่หมาย วันนี้เป็นวันศุกร์ซึ่งผมจะต้องเป็นคนทำกับข้าวให้ทุกคนในบ้านทานกันเป็นประจำ ทำไมต้องทำน่ะเหรอ…

                เพราะพี่สาวตัวดีอยากจะให้พวกเราดูเหมือนครอบครัวแต่เธอดันทำอาหารไม่เป็น จะพึ่งไอ้โมกก็คงไม่ได้เรื่องราวนั้นกินอย่างเดียว ฉะนั้นหน้าที่นี้เลยตกเป็นของผมยังไงล่ะ

                แต่ก็ไม่อะไรหรอกผมพอทำได้บ้างไม่ได้อร่อยเหาะระดับ 5 ดาวก็รสชาติก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป และวันนี้ยัยแพรลีนก็จะได้ชิมฝีมือผมเป็นครั้งแรกด้วย

                “ฉันไปทำงานก่อนนะ”

                ผมหันไปมองตามเสียงเห็นเธอกำลังยืนพิงกำแพงอยู่ แต่ประเด็นคือบอกเพื่อ!!

                เธอเดินมายืนก้มลงเท้าคางอยู่ที่เค้าท์เตอร์ข้าง ๆ ผม ทำให้เห็นชุดที่สวมใส่ได้อย่างชัดเจน เสื้อยืดแขนกุดตัวยาวถูกมัดขึ้นจนเห็นหน้าท้อง กางเกงยืนส์สั้นแค่คืบเดียว กับรองเท้าสีแดงสูงปรี๊ด

                ให้ตายเหอะเห็นแล้วโคตรหงุดหงิด!

                “แต่เดี๋ยวฉันจะกลับมาเล่นงานนายต่อแน่ไม่ต้องห่วง”

                พูดจบเธอก็รีบเดินออกไปอย่างร้อนรน แล้วคือจะกลับมาเล่นงานอะไรผมวะ!! ยัยโรคจิตชอบสำคัญตัวผิดสงสัยจะยังไม่เข็ดยัยนี่ด้านทนเกินไปใช้คำพูดอย่างเดียวคงไม่เข้าสมองน้อย ๆ ของเธอละมั้ง!!   

                ผมก้มลงทำอาหารตรงหน้าต่อ เธอจะไปไหนทำอะไรมันก็เรื่องของเธอนี่หว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกันสักหน่อย ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องมีคนมาวุ่นวาย อีกอย่างคืนนี้เธอคง ‘มีคิวเยอะ’ จนไม่มีเวลามาป่วนผมแน่นอน!!

Continue Reading

You'll Also Like

95.9K 474 14
@realps_jkm💜 ที่เก็บฉากคัท
299 38 15
Üniversite öğrencisi
6.5K 414 22
"ทำไมเค้าถึงนอกใจฉันวะ" 》》 อิศวิน "ถ้าเค้าไม่รักก็กลับมาหาฉันสิไอ้ตี๋" 》》 ริริน