1 เดือนผ่านไป.....
แทฮยองเก็บข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองเรียบร้อย ด้วยจำนวนของที่เหลือมีไม่ได้เยอะเท่าไหร่ พวกเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าแบรนด์เนมแทฮยองเก็บเสร็จตั้งแต่ช่วงกลางเดือนแล้ว เหลือแค่เอาไว้ใช้ใส่ไปออกงานเท่านั้น แทฮยองเหนื่อยมากในช่วงที่ผ่านมาเพราะเขาต้องเคลียร์คิวทุกอย่างที่เคยรับงานไว้ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังมีสัญญากับค่ายอยู่และเขาเลือกที่จะยังไม่รับงานเพิ่มในฐานะศิลปินอิสระ เพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะโลดแล่นในวงการนี้คนเดียว อีกอย่างเขาต้องคอยปิดซอกจินเรื่องโดนย้ายที่อยู่อีก ช่วงนี้ซอกจินเองก็ไม่ค่อยได้มาหาเขาสักเท่าไหร่เพราะต้องบินไปคุยงานต่างประเทศบ่อยๆ จึงยังไม่มีจังหวะที่จะได้คุยกันจริงจัง
ชายหนุ่มใช้เงินเก็บที่มีอยู่ซึ่งมันก็ค่อนข้างมากพอ เพื่อใช้ในการซื้อคอนโดที่ใหม่อยู่ย่านชานเมืองซึ่งอาจจะไม่ได้ใหญ่โตหรูหรามากนักแต่ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้คนเดียวสบายๆ แทฮยองเพียงอยากจะหลบจากทุกอย่างสักพักเพื่อไปตั้งหลักชีวิตเสียใหม่แล้วค่อยคิดว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องพวกนี้ดี เพราะไม่นานข่าวก็คงลงเรื่องไม่ต่อสัญญา และถ้าแย่ไปกว่านั้นอาจจะมีคนปล่อยข่าวเขากับซอกจินก็ได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาห่วงที่สุด
————————————
2 วันหลังจากที่แทฮยองย้ายออก
12.30 น.
วันนี้ซอกจินพึ่งกลับมาจากคุยงานที่ต่างประเทศ เมื่อลงเครื่องมาชายหนุ่มก็รีบตรงมาหาคนรักที่คอนโดทันทีโดยไม่ได้โทรนัดก่อน เพราะต้องการจะมาเซอร์ไพรส์แฟนตัวเอง ...เมื่อชายหนุ่มขึ้นมาถึงก็ต้องแอบตกใจเล็กน้อย เพราะมีคนอยู่เต็มห้องแทฮยองไปหมดดูท่าเหมือนกำลังทำความสะอาดกันอยู่อย่างขยันขันแข็ง ซอกจินรีบเดินเข้าไปหาคนที่น่าจะเป็นหัวหน้าแม่บ้านเพื่อสอบถาม
"เอ่อ โทษนะครับ...ทำไมถึงมาทำความสะอาดห้องนี้หรอครับ ปกติไม่ทำเยอะขนาดนี้หนิ แล้วเจ้าของห้องไปไหนล่ะครับ"
"อ๋อ พอดีทางเจ้าหน้าที่คอนโดให้พวกฉันมาทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากมีผู้เช่าย้ายออกน่ะค่ะ"
"ห่ะ!...ย้ายออกหรอครับ เอ่อ งั้นคุณพอจะมีเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่คอนโดมั้ยครับ ผมอยากคุยกับเขา"
"ดิฉันว่าคุณผู้ชายเชิญสอบถามที่ Informations ด้านล่างดีกว่านะคะ ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ"
ป้าแม่บ้านพูดจบก็รีบหันไปทำความสะอาดห้องต่ออย่างไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ แล้วมีหรือที่คนอย่างคิมซอกจินต้องเดินไปถามอินฟอร์มให้เสียเวลา มือหนาหยิบมือถือเครื่องหรูมากดเบอร์เลขาของเขาทันที
[สวัสดีค่ะท่านรอง]
"สวัสดีครับคุณจีซู ผมมีเรื่องรบกวนหน่อย ช่วยเช็คให้ผมทีว่า..คอนโดxx ห้องที่คุณคิมแทฮยองอยู่เกิดปัญหาอะไรขึ้น เห็นเขาแจ้งว่าแทฮยองย้ายออก"
[อ๋อ ได้ค่ะสักครู่นะคะ.......เอ่อ ท่านรองค่ะ ทางฝ่ายกฏหมายของบริษัทและเจ้าหน้าที่คอนโดได้ทำเรื่องขอคืนห้องที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท เพราะว่าคุณแทฮยองหมดสัญญากับเราแล้วและไม่ได้เซ็นต่อสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดอีกอ่ะค่ะ]
"ห่ะ! อะไรกัน แทฮยองไม่ได้ต่อสัญญากับค่ายหรอกหรอ..."
[เท่าที่ดิฉันทราบ วันนั้นคุณหญิงคิมได้เรียกพบคุณแทฮยองมาคุยเรื่องการต่อสัญญาน่ะค่ะ แต่ไม่มีผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นเลย ดิฉันจึงไม่แน่ใจว่าคุณแทฮยองได้ต่อสัญญากับค่ายหรือเปล่า จนกระทั่งวันที่คุณแทฮยองทำเรื่องคืนห้องกับบริษัท จีซูถึงพึ่งทราบอ่ะค่ะ]
"โอเคครับ ...ขอบคุณมาก แค่นี้นะครับ"
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับขบกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์ที่สุด ร่างสูงไม่รีรอรีบลงไปที่ลานจอดรถทันที เมื่อขึ้นรถมาได้ชายหนุ่มก็เหยียบคันเร่งแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วจนรปภ. เกือบเปิดที่กั้นให้แทบไม่ทัน ...
—————————————-
@คฤหาสน์คิม
รถสปอร์ตคันหรูสีดำเงาที่ขับมาด้วยความเร็วมาเบรกจอดเสียงดังอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้าน ก่อนจะบีบแตรรถเสียงดังสนั่นแบบไม่เกรงใจใคร เพื่อเรียกให้มีคนรีบมาเปิดประตูรั้วให้เขา ทันทีที่ประตูรั้วเปิดออกเท้าใหญ่ก็เลือกที่เหยียบคันเร่งจนมิดเพื่อเคลื่อนให้สปอร์ตคันหรูมาจอดที่ทางเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลงมาจากรถอย่างอารมณ์ร้อน...ร่างสูงเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เขาไม่ได้กลับมานาน สายตาพลางมองหาบุคคลที่เขาอยากจะคุยด้วย
"อ้าว! กลับมาแล้วหรอลูก" เสียงหวานเอ่ยทักคนเป็นลูกอย่างดีใจ ...ร่างสูงรีบหันขวับไปตามเสียงนั้นทันที
"ครับ กลับมาแล้ว....กลับมาพร้อมกับคำถามที่จะถามคุณแม่ด้วยครับ"
"อ่อ ถามมาได้เลย...ว่าไงมีเรื่องอะไร?"
"ทำไมคุณแม่ถึงไม่ต่อสัญญากับคิมแทฮยองครับ?"
"หึ!...ที่แท้ก็เรื่องนี้ ก็เขาไม่อยากต่อเอง แม่ก็ช่วยไม่ได้นะ"
"ไม่จริง...แทฮยองรักอาชีพของเขามาก และเขาก็รักบริษัทนี้เพราะอยู่มาตั้งแต่เป็นเด็กฝึก ทำไมเขาถึงจะไม่อยากต่อสัญญาล่ะครับ"
"มันรักบริษัท หรือว่ามันรักรองประธานบริษัทกันแน่!...แม่ยื่นข้อเสนอให้เขาแล้วเรื่องต่อสัญญา แต่เขาไม่อยากรับไว้ แม่เองก็เลยไม่อยากยื้อให้เสียเวลา"
"ผมรู้นะว่าข้อเสนอของคุณแม่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน"
"ใช่!...แม่บอกให้มันเลิกยุ่งกับลูก แล้วแม่จะต่อสัญญาและมอบคอนโดหรูให้เป็นการตอบแทน แถมยังคิดจะเสนอชื่อเพื่อโกอินเตอร์ที่อเมริกาให้อีก....แต่มันโง่ไม่ยอมเอา มันบอกกับแม่ว่ามันอยากจะคบกับแกต่อ โดยไม่สนใจเรื่องต่อสัญญาใดๆทั้งสิ้น เด็กนั่นมันเอาแต่ใจจะตาย คิดอยากจะรั้งแกไว้ให้เป็นของตัวเองคนเดียวน่ะสิ ความรักจอมปลอม...น้ำเน่าสิ้นดี!"
"ความรักของแม่มากกว่า ที่มันจอมปลอม..."
ฝ่ามือบางส่งไปตบหน้าลูกชายอย่างแรงจนซอกจินหน้าหันไปตามแรงของมือ เครื่องประดับเพชรที่สวมใส่เมื่อกระทบกับใบหน้าก็ทำให้เกิดบาดแผลที่ข้างแก้มจนมีเลือดออกซิบอยู่บนใบหน้าหล่อ...คนเป็นแม่ถึงกับตกใจกับการกระทำของตนเอง เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยแม้แต่จะตีลูกชายตัวเองด้วยซ้ำ น้ำใสๆเริ่มคลออยู่ที่เบ้าตาเพราะความเจ็บปวดที่หัวใจ เพราะเธอทำร้ายร่างกายคนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต
"ฉันทำทุกอย่าง..เพื่อให้แกได้มีความสุข อนาคตอันใกล้แกก็จะได้ขึ้นตำแหน่งสูงสุดของบริษัท ฉันจะไม่ทนเห็นแกคบกับไอ้นักร้องคนนั้นที่วันนึงมันอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ท่านประธานต้องเสื่อมเสียหรอกนะ...ฮึก! ฮือ~ มันรักแกจริงรึป่าว หรือแค่เห็นแก่เงิน เห็นแก่หน้าตาทางสังคม และก็ตำแหน่งที่ใหญ่โตของแก มันเลยเลือกที่จะคบกับแกเนี้ย เหอะ! ฮือ~"
"แต่คุณแม่ไม่เคยถามผมสักคำ ว่าความสุขของผมคืออะไร....หลายครั้งที่คุณแม่ไม่เคยคิดจะให้โอกาสใคร ตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยอยากจจะให้โอกาสจีมินได้พบกับคุณปู่ เพียงเพราะแม่กลัวว่าคุณปู่จะเอ็นดูจีมินแล้วยกสมบัติให้...พอตอนที่พ่อจะตาย แม่ก็ห้ามไม่ให้ทุกคนแจ้งข่าวไปบอกจีมินที่เรียนอยู่ต่างประเทศอีก แม่ตัดโอกาสที่น้องจะได้เจอพ่อเป็นครั้งสุดท้าย....ส่วนแทฮยองแม่ไม่เคยคิดจะให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองเลย ว่าเขารักผมจริงหรือไม่และมาตอนนี้แม่ก็ยังเป็นแม่ ที่ไม่คิดจะให้โอกาสลูกชายตัวเองได้ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขอีก"
ร่างสูงพูดออกไปเป็นชุดจนคนเป็นแม่ต้องยืนตัวแข็งหน้าชาไปไม่เป็น คุณหญิงเริ่มร้องไห้ออกมาไม่หยุดเหมือนแทบจะขาดใจที่ต้องฟังคำพูดถากถางจากลูกชาย
"แต่เอาเถอะครับ ในเมื่อคุณแม่ก็มีจุดยืนของคุณแม่ ผมเองก็มีจุดยืนของผม....ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ขอให้รู้ไว้ ว่าผมทำเพราะความสุขของผมนะครับ"
ซอกจินกล่าวจบก็หันหลังเดินออกไปทันที โดยไม่สนใจผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้นั่งเข่าทรุดลงไปกองกับพื้น ชายหนุ่มขึ้นรถมาได้ก็รีบต่อสายโทรหาแทฮยองทันที...แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่สามารถติดต่อหาคนตัวเล็กได้เลยจนเขาแอบใจเสียและเป็นห่วงว่าแทฮยองจะไปอยู่ที่ไหน ....ไม่นานก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาพอดี ซอกจินแอบเอ๊ะใจเล็กน้อยแต่ก็กดรับสายไปเผื่อจะเป็นแทฮยอง
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีครับพี่จิน นี่แทเองนะ"
"แท!...ทำไมโทรไปแล้วติดต่อไม่ได้เลยอ่ะ เกิดอะไรขึ้นรึป่าว?"
"เอิ่ม..พอดีแททำมือถือตกแตกน่ะครับ นี่ก็พึ่งไปหาซื้อเครื่องใหม่ แล้วก็รีบโทรหาพี่เลย"
"แท....พี่รู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะ ตอนนี้แทอยู่ที่ไหน ส่งโลเคชั่นมาให้พี่เดี๋ยวนี้ พี่จะไปหา"
"เอ่อ ...อืม ได้ครับ เดี๋ยวแทส่งให้เดี๋ยวนี้ล่ะครับ"
เมื่อได้รับข้อความจากแทฮยอง ซอกจินก็รีบเหยียบคันเร่งมุ่งไปยังสถานที่ที่ตัวเองจะไปทันที...ไม่นานร่างสูงก็มาถึงยังคอนโดของแทฮยอง โดยมีคนตัวเล็กมายืนรอรับอยู่ที่ล็อบบี้ ....ทั้งคู้ขึ้นลิฟต์มายังห้องพักก่อนจะเดินเข้าห้องมานั่งกันอยู่ที่โซฟา
"ทำไมแทไม่บอกพี่ เรื่องไม่ต่อสัญญา แล้วก็เรื่องที่คุณแม่ท่านยื่นข้อเสนออะไรพวกนั้นน่ะ"
"คือ ขอโทษนะครับ แต่แทไม่อยากให้พี่จินเป็นห่วง แล้วก็กลัวว่าพี่จินจะต้องทะเลาะกับที่บ้านด้วยอ่ะครับ"
"ไม่ช้าก็เร็ว พี่ก็ต้องทะเลาะอยู่ดีนั่นแหละ"
"อ๋อ ครับ!....เอ๊ะ!...แล้วหน้าพี่ไปโดนอะไรมาอ่ะ...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ?"
"พี่ทะเลาะกับคุณแม่นิดหน่อยน่ะ ท่านเลยตบพี่"
"เพราะแทเป็นต้นเหตุใช่มั้ย?"
"อย่าคิดแบบนั้นเลยแท...ไม่ใช่หรอก...เอ่อ..พี่ขอถามอะไรหน่อยนะ ตอนที่คุณแม่ยื่นข้อเสนอให้อ่ะ แล้วแทไม่รับ แทบอกกับคุณแม่ไปว่าอะไรหรอ?"
"แทบอกว่า...แทจะรักคนที่แทอยากรัก เรื่องไม่ต่อสัญญาแทไม่แคร์...แทแค่ยืนยันที่จะคบกับพี่จินต่อไปครับ ต่อให้แทต้องเจอกับอะไร แทก็ไม่สน แทจะไม่มีวันปล่อยมือจากพี่จินนะครับ"
คนตัวโตที่ได้ฟังคำพูดเหล่านั้นจบก็รีบคว้าร่างบางมาโอบกอดเอาไว้พร้อมกับหอมเบาๆลงที่ผมหนาเพื่อเป็นการขอบคุณ...
"พี่ก็จะไม่มีวันปล่อยมือแทไปไหนเด็ดขาด พี่จะทำให้เรื่องของเราเป็นไปได้"
22.45น.
ซอกจินค่อยๆเดินย่องออกมาที่ริมระเบียงเพราะเกรงว่าคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงจะตื่นขึ้นมา ...มือหนาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูแล้วรีบต่อสายหาใครคนนึงที่เขาต้องการจะสนทนาด้วย
[สวัสดีครับ]
"อ่า...จีมิน เรานอนรึยัง? พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ"
[อ๋อ ยังครับพี่จิน มีเรื่องอะไรว่ามาได้เลยครับ]
"พรุ่งนี้เคลียร์คิวมาประชุมที่บริษัทตอนเช้าด้วยนะ มีเรื่องด่วนและสำคัญมากจะต้องประชุม และที่สำคัญนายต้องมาให้ได้นะ"
[เอ่อ อ๋อ ได้ๆครับ...]
"จีมิน!"
[ครับพี่จิน]
"ตั้งแต่เล็กจนโต พี่ดูแลและปกป้องนายเสมอนะ ถ้าพรุ่งนี้ฉันทำอะไรโดยที่ทำให้นายต้องลำบากใจ ก็ขอโทษไว้ตรงนี้เลย"
[เอ่อ ครับ..คือ พี่จินมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ ทำไมพูดแบบนี้]
จีมินรู้ดีว่าตั้งแต่เขาเกิดมาก็มีคุณแม่ของเขาและคิมซอกจินที่คอยดูแลและให้ความรักกับเขาเสมอ ด้วยความที่แม่ของจีมินเป็นคนที่ไม่ค่อยมีฐานะมากนักจึงต้องตบแต่งกับคุณพ่อแบบเงียบๆไม่ได้ออกหน้าออกตาสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับคุณหญิงคิมที่มีพร้อมทุกอย่างเลยได้เป็นสะไภ้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย แต่คุณพ่อก็รักเขามากไม่เคยลำเอียงเลย คอยดูแลและใส่ใจเขาเป็นอย่างดี ส่งเสียให้เรียนเมืองนอกเมืองนา ส่วนคุณหญิงคิมเองก็เอ็นดูเขาเหมือนลูกคนนึงเช่นกัน แต่แค่เวลามีอะไรจีมินจะต้องถอยให้กับซอกจินก่อนเสมอ แต่ชายหนุ่มเองก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรอยู่แล้ว จนกระทั่งวันที่คุณพ่อท่านเสียไป ทำให้ตำแหน่งรองประธานบริษัทต้องตกเป็นของคิมซอกจิน โดยยังมีคุณปู่เป็นคนนั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานใหญ่ของบริษัทอยู่ ส่วนจีมินเองก็จะต้องเป็นรุ่นที่สามที่รับช่วงต่อจากคิมซอกจินอีกทีในกรณีที่เขาไม่มีทายาทสืบสกุล....แต่ในวันนี้จีมินไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ซอกจินพูดกำลังหมายถึงอะไรกันแน่
"เอาเป็นว่า พรุ่งนี้นายมาประชุม นายก็จะรู้ทุกอย่างนะจีมิน ...ฉันรักนายนะ"
[ผมก็รักพี่ครับ]
นิ้วเรียวของจีมินกดวางสายพร้อมกับนั่งครุ่นคิดเรื่องที่ซอกจินพูด มันดูเหมือนสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่
"เมื่อกี้พี่บอกรักใครอ่ะ?" เสียงของคนตัวสูงที่นอนอยู่ข้างๆก็ดังขึ้น //นึกว่าหลับแล้วสะอีก//
"อ๋อ พี่จินโทรมาน่ะ ดูเหมือนจะมีเรื่องเครียดนะ พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทไปประชุมอ่ะ"
"เอ้า มีเรื่องอะไรหรอครับ?"
"ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ พี่จินไม่ได้บอก...แต่จีมว่ามันต้องเป็นเรื่องไม่ค่อยโอเคแน่ๆ"
"สู้ๆนะครับ อย่าคิดมากนะ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"
"ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นนะ"
จีมินล้มตัวลงนอนกอดเอวคนตัวสูงก่อนจะซุกหน้าลงบนอกอุ่นๆของจองกุก ร่างสูงเองก็กอดตอบจีมินเช่นกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมปกติที่พวกเขาทำกันทุกคืนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมกัน
————————————
@KM Music Entertainment
เช้านี้ที่ค่ายมีความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างมาก ทั้งผู้บริหารในทุกระดับและบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมถึงจีมินเองก็ต่างมารวมตัวกันในที่ประชุมตามนัดหมายของคิมซอกจิน
ไม่นานนักร่างสูงที่มาในชุดสูทเรียบหรูเดินเข้ามาในห้องประชุมและเข้าประจำที่โพเดียม ทุกคนต่างนั่งประจำที่อย่างเป็นระเบียบ เพื่อรอฟังเรื่องสำคัญจากปากท่านรองประธานที่นัดประชุมด่วนในวันนี้
"เอาล่ะครับ...ไม่ขอมีพิธีให้ยุ่งยากนะครับ เพราะผมจะเริ่มเลย อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี ว่าผมจะต้องขึ้นมาบริหารงานในตำแหน่งประธานบริษัทแทนคุณปู่ในอนาคต ซึ่งผมก็ทำหน้าที่รองประธานได้ดีเสมอมา...แต่มาถึงวันนี้ ผมตัดสินใจที่จะเลือกทำในสิ่งที่ผมคาดหวังเอาไว้มานานแล้ว ดังนั้นผมจะขอหยุดติและลาออกจากตำแหน่งรองประธานบริษัท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
ทุกคนในที่ประชุมต่างเริ่มมีเสียงซุบซิบกันขึ้นมาทันทีทั้งผู้บริหารระดับสูงรวมถึงจีมินเองที่กำลังงงและตกใจกับสิ่งที่ซอกจินป่าวประกาศออกมาเมื่อครู่
"ขออนุญาตครับท่านรอง แล้วอย่างนี้ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรองประธานต่อจากคุณ คือใครล่ะครับ?"
"นี่แหล่ะครับ คือเรื่องที่ผมจะแจ้งเป็นเรื่องต่อไปผมต้องการจะแต่งตั้งตำแหน่งรองประธานบริหารรวมถึงถ่ายโอนหุ้นในส่วนของผมทั้งหมดให้กับ..พัคจีมิน! ทายาทรุ่นที่สามของ KM music ครับ โดยทุกอย่างได้ผ่านการเห็นชอบจากท่านประธานเรียบร้อยแล้วครับ...คุณพัคจีมินจะเริ่มเข้ามาบริหารงานในตำแหน่งนี้ตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป....ขอให้ทุกคนโปรดเข้าใจตามนี้ ใครมีคำถามเพิ่มเติมมั้ยครับ?"
ทุกคนที่ยังคงตกใจและยังงงวยกันไม่หาย จึงไม่มีใครคิดที่จะถามอะไรออกไป ได้แต่มองกันกันเลิ่กลั่กไปมาอยู่แบบนั้น
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอจบการประชุมแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณและลาก่อนนะครับ"
ร่างสูงโค้งตัวทำความเคารพทุกคนและย่างกรายออกไปอย่างไม่สนใจคนที่อยู่ในห้องประชุมแม้แต่น้อย จีมินเองที่ก็ยังอึ้งไม่หายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาได้แต่ถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับซอกจินกันแน่ ....ไม่นานเสียงของความโกลาหลก็เริ่มดังเซงแซ่อีกครั้ง
"หึ่ย...ทุกคนครับ ตอนนี้หุ้นในส่วนของคุณคิมซอกจิน ถูกโอนไปให้คุณพัคจีมินทั้งหมดแล้วครับ ดูสิ ตอนนี้หุ้นในบริษัทปั่นป่วนไปหมดเลยอ่ะ"
"เอ๊ะ แล้วหุ้นในส่วนของท่านรองประธานคนก่อนที่คุณหญิงคิมถืออยู่ ก็ร่วงลงไปเยอะเลยค่ะ ตอนนี้นักลงทุนหันมาเล่นหุ้นในส่วนของคุณพัคจีมินกันเกือบหมดเลยนะคะ"
ทุกคนต่างกำลังตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเหนือการคาดหมายเช่นนี้ จีมินที่ไม่อยากฟังอะไรจากใครทั้งนั้น รีบตัดสินใจวิ่งตามซอกจินออกไปจนมาถึงที่ห้องทำงานในชั้นผู้บริหาร ก่อนจะขออนุญาตเข้าไปในห้องทำงานรองประธาน
ก็อก ก็อก ก็อก
"พี่จินครับ จีมินเองนะครับ..ขอเข้าไปได้มั้ยครับ"
"เข้ามาเลย" ร่างสูงตะโกนบอกคนหน้าห้อง
"เอ่อ..ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่มันเกิดอะไรขึ้นครับ?"
"อย่างที่พี่เคยบอกเราไป...พี่ไม่ต้องการบริหารและอยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป เพราะถึงยังไงวันนึงนายก็ต้องขึ้นมาบริหารรับช่วงต่ออยู่ดี ก็เป็นซะตั้งแต่ตอนนี้ไปเลย"
"ผมเข้าใจครับ...แต่ผมจะรับช่วงต่อ ก็ต่อเมื่อพี่เป็นประธานบริหารและไม่มีทายาทในการสืบสกุลนี่ครับ..."
"พี่ก็คิดว่าพี่คงไม่มีอยู่แล้วล่ะ...นายรู้ใช่มั้ย ว่าฉันคบอยู่กับแทฮยอง แม่ฉันพยายามทำทุกวิถีทางให้เราสองคนแยกออกจากกัน...แล้วนายก็รู้ใช่มั้ย ว่าความฝันของฉันคือการได้ทำอะไรในแบบที่ตัวเองชอบ นั่นคือร้านอาหารที่ฉันฝันไว้ตั้งแต่เด็ก....เวลาว่างฉันก็ไปเรียนทำอาหารเพิ่มจนจบคอร์ส เพื่อเปิดร้านของตัวเอง แล้วฉันก็กะว่าจะให้แทฮยองมาช่วยอีกแรง ฉันวาดฝันอนาคตของฉันไว้หมดแล้ว แต่คุณแม่กำลังทำมันพังลงต่อหน้า ....ฉันขอโทษนะ ที่ฉันเห็นแก่ตัว ทุกๆอย่างเป็นความผิดฉัน นายโทษฉันได้เลย"
"ผมยินดีที่จะทำนะครับ พี่จินดีกับพวกเรามาโดยตลอด ผมมีความสุขทุกครั้งที่เกิดในครอบครัวนี้ มันก็คงถึงวันที่พี่มีความสุขบ้างแล้วล่ะครับ...ผมเคารพการตัดสินใจของพี่นะครับ"
"ขอบใจมากนะ...ฉันเชื่อว่านายทำได้ ตอนที่คุณพ่อยังอยู่ ท่านก็คอยบอกคอยสอนพวกเราสองคนเสมอๆ นายเองก็จบด้านนี้มาโดยเฉพาะ นายมีคุณสมบัติเหมาะสมมากพอที่จะได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร....มีอะไรนายปรึกษาฉันได้เสมอนะจีมิน ฉันรักนายนะ"
"พี่จินพูดเหมือนจะไปไหนเลยอ่ะ?"
"ใช่! พี่จะไปอยู่ในที่ของพี่ ส่วนทางนี้ ฉันฝากนายดูแลด้วยแล้วกันนะ แล้วเดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ไปให้เผื่อนายอยากจะไปหา"
"โชคดีครับ แล้วเจอกัน"
ร่างสูงพูดจบแล้วกอดลาคนเป็นน้องก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ทิ้งให้จีมินยืนอยู่ในห้องกว้างใหญ่เพียงลำพัง คนตัวเล็กรู้สึกว่าเวลาที่เขาต้องโตเป็นผู้ใหญ่มันช่างมาถึงเร็วเหลือเกิน แล้วเรื่องคงไม่จบแค่เท่านี้แน่ เขาคงต้องตอบคำถามมากมายกับนักข่าว รวมไปถึงคนในครอบครัวเขาอีก ร่างบางทิ้งตัวลงที่โซฟาอย่างหมดแรง //จองกุก...ฉันอยากให้นายอยู่ตรงนี้ด้วยจัง//
————————————
ซอกจินขับรถออกมาได้สักพัก ก็มีเสียงเรียกเข้าที่โทรศัพท์ดังขึ้นมาแบบไม่หยุด ร่างสูงรีบใส่บลูทูธก่อนจะกดรับสายคนที่โทรมาทันที
[นี่ลูกทำอะไรลงไปเนี้ย ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้]
"ผมบอกคุณแม่แล้วไงครับ ว่าผมจะทำเพื่อความสุขของผม ผมไม่มีตำแหน่งรองประธานแล้ว แม่จะได้ไม่ต้องพยายามหาผู้หญิงที่เหมาะสมมาให้ผม เพราะคนที่เหมาะสมกับผมในตอนนี้ คือคิมแทฮยองครับ"
[แกเห็นนักร้องคนนั้นดีกว่าคนในครอบครัวได้ยังไง? แล้วถ้าคุณปู่รู้เรื่องจะทำยังไง]
"ผมแจ้งคุณปู่ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วแล้วครับ ว่าผมต้องการจะทำอะไร ซึ่งคุณปู่อนุญาตและเห็นด้วย เพราะเขารักผม เขาถึงได้อนุญาตให้ผมทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบ มันคือความสุขที่ผมต้องการ ...ไม่ใช่ความสุขที่แม่พยายามยัดเยียดให้"
[งั้นแม่ก็หวังว่าแกจะมีความสุขกับมันให้นานๆนะ...ส่วนจีมิน ฉันจะช่วยสอนงานมันเอง]
"ถ้า KM Music ไม่อยากมีทายาทสืบทอดธุรกิจต่อ คุณแม่ก็เชิญบังคับน้องได้ตามสบายครับ ลาก่อนนะครับ"
ชายหนุ่มกดวางสายก่อนจะถอดบลูทูธแล้วเหวี่ยงไปที่เบาะคนนั่งทันที ร่างสูงตอนนี้เพียงแต่เป็นห่วงจีมินที่ต้องมารับศึกหนักแทนเขา แต่คุณปู่รับปากกับเขา ว่าจะคอยดูแลและสอนงานจีมิน รวมถึงปกป้องเขาจากการชอบบังคับของคุณหญิงคิม //หวังว่าจีมินจะเข้มแข็งพอที่จะผ่านมันไปให้ได้นะ//
————————————
@คอนโดติดริมแม่น้ำฮัน
จีมินกลับมาที่คอนโดร่างบางเดินเข้ามาอย่างเหม่อลอย เขาเครียดกับเรื่องนี้มาก เพราะหลังจากที่ซอกจินออกไปแล้ว คุณหญิงก็โทรมาหาเขา ก่อนจะต่อว่าเขาชุดใหญ่ที่ไม่ห้ามซอกจินไม่ให้ทำเรื่องแบบนี้ จีมินถึงกับต้องอธิบายอยู่นานกับเหตุผลที่ทำให้ซอกจินตัดสินใจแบบนี้ จนคนเป็นผู้ใหญ่ยอมรับฟังและกล่าวขอโทษที่อารมณ์เสียใส่เขา ...แต่จีมินก็รู้ดีว่าคุณหญิงคิมคงไม่ยอมหยุดเรื่องนี้ง่ายๆแน่
เสียงประตูห้องที่เปิดออกทำให้คนตัวเล็กรู้ว่าจองกุกกลับมาแล้ว จีมินรีบเดินเข้าไปหาจองกุก ก่อนจะสวมกอดคนตัวสูงเอาไว้แน่นเหมือนต้องการหาที่พักพิง จองกุกเองก็กอดตอบร่างบางไปอย่างแนบแน่นเช่นกัน ชายหนุ่มเองก็รับรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว เพราะวันนี้ข่าวธุรกิจออกอากาศในทุกๆช่อง แต่เขาติดงานจนยังไม่สามารถโทรหาจีมินได้ พอเสร็จงานเขาเองจึงรีบกลับมาที่คอนโดทันทีเพื่อมาให้กำลังใจจีมิน
"ไม่เป็นไรนะครับ พี่ต้องทำได้" ร่างสูงปล่อยคำพูดปลอบใจออกไป ก่อนจะค่อยๆใช้มือหนาลูบผมสีบลอนซ์อย่างเบามือ
"ขอบคุณนะจองกุก จีมเครียดมากเลย จีมกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี...และที่สำคัญ..." จีมินพูดก่อนจะค่อยๆผละออกจากกอดเพื่อมามองหน้าคนตัวสูง
"จีมกลัวว่าจะไม่ได้อยู่กับจองกุกอ่า" ร่างบางพูดพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าสร้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ต้องห่วงนะครับ...ถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมนี่ครับ"
จีมินเมื่อฟังคำพูดของจองกุกก็ได้แต่คิดในใจ เพราะเขาไม่ได้หมายถึงแบบนั้น แต่เขากลัวว่าความรักของเขากับจองกุกอาจจะเป็นไปไม่ได้ เขาอาจจะไม่ได้คบกับจองกุกต่อไปเพราะไม่ว่ายังไงคนที่ต้องมานั่งในตำแหน่งนี้ สักวันก็ต้องแต่งงานและมีทายาทรุ่นสืบสกุล เขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าคุณหญิงคิมอาจจะจัดการเรื่องนี้ให้เขาแทนซอกจิน
"ไปครับ...ไม่เครียดน้า...ไปทานข้าวกันดีกว่า"
"อื้ม โอเค"
ร่างสูงจัดแจงโทรสั่งอาหารสำหรับมื้อเย็นของพวกเขา จีมินเอาแต่มองตามหลังจองกุกพลางคิดว่า เขาจะเสียผู้ชายคนนี้ไปได้ยังไง เขารักจองกุกมากจริงๆ จองกุกเกือบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตเขาไปแล้ว แต่ครอบครัวก็สำคัญกับเขามากเช่นกัน ชายหนุ่มนึกไปถึงเมื่อก่อนตอนที่คุณพ่อคอยสอนงานเขากับซอกจิน พร้อมกับบอกให้พวกเขาสองคนรักและดูแลบริษัทนี้ให้เหมือนกับที่พ่อทำ จีมินคิดวิตกไปหมดทุกอย่าง...ระหว่างความรักกับหน้าที่การงานและครอบครัว เขาจะทำให้มันไปด้วยกันได้อย่างไร
"ฉันรักนายสุดหัวใจเลยนะจองกุก อุปสรรคกำลังเขามาแล้ว นายอย่าพึ่งปล่อยมือฉันนะ"
จีมินได้แต่พรืมพรำออกมาแบบไม่ให้คนตัวสูงได้ยิน เขาเพียงแต่ภาวนาให้ความรักของเขาผ่านอุปสรรคในอนาคตไปให้ได้โดยหวังว่าจองกุกจะอดทนไปพร้อมๆกับเขา
Himawari Talk
"มรสุมมากเหลือเกินค่ะ เอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านอุปสรรคให้ได้นะคะ"
ฝากแท็ก #MyManager ด้วยนะคะ ถ้าชอบอย่าลืมกดให้กำลังใจกันด้วยนะคะ