กำจัดกาเดรียลไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล
ดีนสงสัยนักว่าสองคนนั้นจะคัดค้านเขาไหมถ้าเพียงแต่ในมือของเขาจะไม่ถือปฐมศัสตรา ถ้าเพียงแต่รอยกรีดยาวบนร่างกาเดรียลจะไม่ใช่รอยที่เกิดจากมีดเวทมนตร์เล่มนั้น
ห่วงอะไรกันไม่เข้าเรื่อง ไม่สิ...
กลัวอะไรกันไม่เข้าเรื่อง
ตอนนี้พวกเขามีเรื่องมากมายต้องทำ ไหนจะต้องกำจัดเมตาทรอน ไหนจะต้องหาทางช่วยแคสเอาพลังกลับมาก่อนที่หมอนั่นจะตาย—ถ้าการดับมอดไปพร้อมกับพลังที่ถูกขโมยไปของทูตสวรรค์เรียกว่าตายละก็ ไม่มีเวลาให้เขามานั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องขังนี่หรอกนะ
"อา ดูเจ้าสิ"
เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู หันกลับไปก็เห็นร่างโปร่งระหงยืนอยู่ตรงนั้น ไหล่บาง ๆ เหยียดตรงและจมูกเชิดหยิ่งทะนงอย่างไม่เข้ากับสถานที่ดุจเดียวกับวันแรกที่พบกัน รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าบ่งบอกว่าเขายังคงไม่จริงใจเหมือนอย่างเคย
ดีนไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจริงใจเป็นหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่กับเขา
และเขาก็ไม่สนใจเสียด้วย เพราะเขาไม่ได้ต้องการความจริงใจจากผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทพมุสาในตำนานของชาวนอร์ส
อีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ครอบครัวหรือใครที่เขาแคร์
โลกิเพียงแต่สมบูรณ์แบบสำหรับวัตถุประสงค์อย่างอื่น วัตถุประสงค์เดียวกันกับที่โลกิมาหาเขา
"รู้ไหม ฉันอยากลองทำอะไร ๆ กับนายในห้องนี้มาโดยตลอด" ความเกรี้ยวโกรธที่ทำให้อยากจะพังทลายทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้ายังคงอยู่ แต่ตอนนี้หนทางระบายมาเชื้อเชิญอยู่ตรงหน้า อารมณ์สนุกจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นและเผยออกมาทางน้ำเสียง
เรียวคิ้วโศกที่ในยามปกติเกือบจะทำให้ใบหน้านั้นดูเศร้าหากปราศจากรอยยิ้มมากเล่ห์เลิกขึ้น ตั้งคำถามแผ่วเบาซึ่งนักล่าหนุ่มย่อมฟังออกว่าเป็นเพียงความซื่อบริสุทธิ์จอมปลอม
"งั้นหรือ ทำไมล่ะ?"
ดูเหมือนว่าวันนี้ก็เป็นอีกวันที่วัตถุประสงค์ของพวกเขาสอดคล้องต้องกันพอดิบพอดี
เขาเพียงแต่โดนขังเอาไว้ ยังคงมีอิสระในการเคลื่อนไหว และในห้องนี้ก็เต็มไปด้วยเครื่องมือน่าสนใจมากมายที่ต่อให้อลาสแตร์ก็อาจจะได้แต่ฝันถึง วูบหนึ่ง เสียงของอดีตเด็กเอเชียอนาคตไกลคนหนึ่งดังขึ้นจากความทรงจำ
"นี่ดูเหมือนคุกทรมานจำเลยสวาทเลย"
เด็กหนุ่มคนนั้น ตอนนี้กลายเป็นผีไปแล้ว ผีที่ขึ้นสวรรค์ไม่ได้เสียด้วย และทั้งหมดก็เป็นความผิดของดีน
"นี่เป็นคุกทรมานจำเลยสวาทรึเปล่า?"
เขาปัดมันออกไปจากใจ ไม่สำคัญหรอกที่เควิน ทรานไม่เคยเข้าใจคอนเซ็ปต์ของคุกใต้ดินสำหรับทรมานจำเลยสวาท แค่เซ็กซ์ธรรมดา ๆ สักครั้งดีนยังไม่แน่ใจว่าเด็กนั่นเคยรึยัง—เอาละ ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่เคย—ก่อนจะเข้ามาพัวพันกับเรื่องบ้า ๆ แบบเดียวกับที่พวกเขาเจอมาทั้งชีวิต เพียงเพราะถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในศาสดาพยากรณ์
แต่ถึงชีวิตจะห่วยแตก อย่างน้อยเควินก็จะยังมีชีวิตอยู่ หากไม่ใช่เพราะเมตาทรอนทำอะไรได้ตามใจชอบแต่แรก ทำให้เทวดานางฟ้าทั้งหมดตกสวรรค์ รวมถึงกาเดรียล—ที่ดีนโง่ไว้ใจ—ซึ่งเป็นฆาตกรสังหารเควินหลุดออกมาจากคุกด้วย
เขาถึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเมตาทรอนไง! ทำไมแคสกับแซมมี่ถึงไม่เข้าใจนะ
ถ้าเขาไม่ได้ติดอยู่ในห้องขังนี่ เขาก็จะไปกำจัดเมตาทรอนอย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อตอนนี้เขาติดอยู่ในนี้ออกไปไม่ได้ และมีโลกิมาอยู่ที่นี่ด้วย...
ดีนมองดูร่างที่ถูกตรึงอยู่บนเก้าอี้ทรมานอย่างพอใจ
คืองี้นะ เควิน สิ่งสำคัญสำหรับคุกทรมานจำเลยสวาทก็คือ มันจะต้องมีผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำว่ะ
ตอนนั้นมีแค่เควินกับเขา ดังนั้นจึงไม่นับว่าเป็น
แต่ให้ตายเถอะ แม้แต่อลาสแตร์ นักทรมานมือหนึ่งของนรกผู้เป็นอาจารย์ของเขาก็ยังยอมรับว่าดีน วินเชสเตอร์นั้น เป็น 'ผู้กระทำ' มือชั้นยอด และเมื่อดูจากสีหน้าของเทพนอร์สแล้ว 'ผู้ถูกกระทำ' ของเขาในตอนนี้ก็คงไม่มีทางไม่เห็นด้วยกับอลาสแตร์หรอก
"เราเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น"
เขาก้มลงกระซิบข้างหู สง่าราศีของอีกฝ่ายลดลงเล็กน้อยในสภาพใบหน้าแดงฉาน หยาดน้ำคลอปริ่มดวงตา ทรวงอกเปลือยเปล่าสะท้อนขึ้นลงถี่ ๆ เท่าที่สายหนังที่รัดแน่นจะอนุญาตให้เคลื่อนไหวได้ ลมหายใจขาดวิ่นและตื้นเขิน
แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมา
ตั้งแต่ใต้จมูกจนถึงแนวคางของเทพมุสาถูกรัดปิดเอาไว้ด้วยที่ครอบปาก เป็นโลหะลงลวดลายประณีต นอกจากเสื้อผ้าแล้ว นี่ก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่โลกินำติดตัวมาในการพบกันสองสามครั้งหลังนี้ของพวกเขา
และยืนยันให้ใช้มัน
โดยส่วนตัวแล้วดีนอยากจะฟังเสียงครางกระเส่าในยามอีกฝ่ายอารมณ์เตลิดมากกว่า แต่เขาก็ไม่ขัดข้อง จะปฏิเสธความต้องการของคู่นอนที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาเคยมีมาได้อย่างไร? อีกอย่าง ที่ครอบปากนี่ดูไม่เลวเลยจริง ๆ เมื่อประดับอยู่บนใบหน้าของโลกิ ดูราวกับว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
"บอกช่างหลวงของนายว่ายังไงหือ? 'ข้าตื่นเต้นเวลาที่ส่งเสียงไม่ได้ระหว่างมีเซ็กซ์ ทำที่ครอบปากสวย ๆ ให้สักอันสิ' อะไรแบบนั้นเหรอ?"
มือสากของคนที่จับอาวุธมานานปีเคล้นคลึงยอดอกอ่อนไหวหนัก ๆ หากไม่ใช่เพราะพันธนาการทั้งหลายละก็เทพมุสาคงดิ้นพล่าน ดีนเกือบจะได้ยินเสียงสะอื้นลอดออกมาจากใต้ที่ครอบปากเลยทีเดียว
"รู้ไหมว่าฉันคิดอะไรอยู่ โลกิ?"
นักล่าหนุ่มทำงานของเขาไปเรื่อย ขยับนั่นจัดนี่ให้เข้าที่เข้าทาง เขาดันอะไรบางอย่างซึ่งสอดคาเอาไว้ในตัวโลกิตั้งแต่เมื่อครู่ให้ลึกเข้าไปอีก รู้สึกได้ว่าฝ่ายนั้นสั่นเทิ้มไปทั้งกาย
ริมฝีปากได้รูปแย้มออก
"ฉันว่าเชื้อมาโซคิสม์ในหัวนายมันไปบดบังสมองส่วนที่มีเหตุผลหมดแล้ว!"
ดวงตาปริ่มน้ำเบิกกว้างกับรอยยิ้มแสยะของดีน ชายหนุ่มชะโงกเงื้อมอยู่เหนืออีกฝ่ายอย่างผู้คุมเกม ใบหน้าส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ในเงามืดเพราะแสงไฟที่สาดลงมาจากเบื้องบน อึดใจหนึ่งเต็ม ๆ ที่เขาดู...กระหายเลือด
ดีน วินเชสเตอร์ เป็นนักล่า เป็นมาโดยตลอด
"คิดว่าฉันจะดูไม่ออกหรือ ว่าที่ครอบปากอันนี้มันทำอะไรกับนายบ้าง?"
เสียงกระซิบแผ่วต่ำ กร้าวแทบจะครูดหู "ไม่ใช่แค่กั้นเสียงใช่ไหม? มันยึดพลังอำนาจของนายไป โลกิ นายอ่อนแอลง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต่อให้อยากดิ้นให้หลุดจากสายรัดพวกนี้ นายก็ทำไม่ได้ตราบเท่าที่สวมมันอยู่!"
เขามองเห็นระลอกแห่งความหวาดกลัวสั่นไหวลึกล้ำอยู่ในดวงตาสีเขียวที่ต่างเฉดกับของเขาเอง
"ประมาทเกินไปแล้ว"
สันมีดเย็นเฉียบลูบไล้แก้มเผือดขาวในลีลาที่เขารู้ว่าจะทำให้อีกฝ่ายขนลุกเกรียว
"ฉันอ่านข่าวเรื่องที่นิวยอร์กนะ" เขากระซิบ "นายทำได้น่าประทับใจดี พี่ชายของนายยังปล่อยให้นายออกมาเพ่นพ่านได้ยังไง หือ? ฉันว่าฉันน่าจะดัดสันดานนายแทนเขา ดีไหม มีคนเคยบอกว่าฉันน่ะเก่งเรื่องนั้นนะ นายมาหาฉันเพราะแบบนั้นรึเปล่า"
เขาบอกได้ว่าโลกิกำลังกลัว...กลัวจริง ๆ ไม่เจือด้วยอารมณ์ปรารถนาอันเร่าร้อนอีกแล้ว รอยหยิ่งทะนงที่มักฉาบในดวงตาคู่นั้นถูกกะเทาะออกเป็นรอยร้าวลึก เผยให้เห็นวิญญาณภายในที่กำลังจ้องกลับมาอย่างหวาดผวา วิงวอนขอความเมตตา เป็นสายตาของเหยื่อที่ตระหนักว่าตัวเองตกเป็นลูกไก่ในกำมือของผู้ที่เป็นนักล่าโดยกำเนิด
พวกเทพนี่มีวิญญาณรึเปล่านะ? พวกเขาไม่เหมือนแคสใช่ไหม หากว่าโลกิตายแล้ว วิญญาณจะไปแดนชำระไหมนะ สำหรับดีนแล้ว พวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดจำพวกหนึ่งเหมือนกัน
"เก็บเอาไว้เป็นข้อเตือนใจสำหรับครั้งหน้านะ" มือหนากระชับด้ามมีดในมือ นึกเสียดายที่มันไม่ใช่ปฐมศัสตรา แต่เอาเถอะ แค่เทพนอร์สตัวเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดฆ่าด้วยปฐมศัสตรา เพียงแต่ทำให้ถูกวิธีก็ตายอยู่ดี และดีน วินเชสเตอร์ก็รู้วิธีฆ่าเกือบจะทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลบ้า ๆ นี่ เขาเจอมาแทบจะครบหมดแล้ว "แม้ว่าจะไม่มีครั้งหน้าสำหรับนายแล้วก็เถอะ แต่การไปเสนอตัวมีเซ็กซ์กับนักล่า แล้วก็ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายคุมเกมโดยสมบูรณ์น่ะ..."
มือที่ถือมีดจ้วงลง หมายปักลงกลางยอดอกของอีกฝ่าย เมื่อเขาเอ่ยปากอีกครั้ง มันก็แทบไม่มีความรู้สึกใด ๆ เจืออยู่นอกจากความจริงอันเหี้ยมเกรียมและเยือกเย็น
"มันโง่เง่าสิ้นดี"
แต่ก่อนที่มีดจะทันสะกิดผิวขาว ๆ นั้นเป็นรอย แขนของเขาก็โดนคว้าเอาไว้เสียก่อน
"ดีน!"
ดวงตาสีฟ้าราวท้องฟ้าฤดูร้อนนั้นเบิกกว้างจ้องมองตรงมา เกือบจะมีแววหวาดหวั่น ราวกับเป็นคนที่เกือบจะโดนแทงเสียเอง วินเชสเตอร์คนพี่ถอนหายใจ
"โธ่เอ๊ย แคส"
_______________________________
เรื่องนี้เราย้ายไปทยอยลงเว็บ readawrite แทนนะคะ ตามลิงค์นี้ไปน้า >> https://www.readawrite.com/a/0e7a96389e28350b069a32ba715a6ad0