NOOBFUL // SEVEN
มือเรียวเลื่อนเปิดประตูตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ของพี่ชายที่แทบไม่ได้แตะต้องมานานตั้งแต่พี่ชายย้ายออกไปอยู่กับแฟน เมื่อก่อนพี่เขาน่ะเพลย์บอยตัวยงออกเที่ยวกลางคืนทุกวี่ทุกวัน ในตู้เลยมีแต่เสื้อผ้าแบรนด์แพงๆ จากต่างประเทศทั้งนั้น เดี๋ยวนี้พอมีแฟนก็ถอดเขี้ยวไปหมดละข้าวของก็ไม่ได้เอาไปด้วย
แบคฮยอนแทบไม่เคยมายุ่งเพราะยังไงก็เอามาใส่ด้วยไม่ได้อยู่ดีตัวเขากับพี่มันคนละไซส์กันเกินไป แต่ชานยอลกับพี่ชายเขานั้นหุ่นใกล้เคียงกันเลยล่ะ ชานยอลสูงกว่านิดหน่อยแต่เสื้อผ้าพวกนี้ก็น่าจะใส่ด้วยกันได้พอดี เชื่อสายตาเขาสิ...คืนนี้ทุกคนต้องอึ้งจนตาหลุดออกจากเบ้า
"พวกนี้ชุดพี่ชายเราเอง ชานยอลน่าจะใส่ได้พอดีนะ"
"จะดีหรอครับเอามาให้ผมใส่แบบนี้"
ร่างสูงมีสีหน้ากังวลไม่น้อย แค่อีกคนบอกว่าอยากให้ไปที่งานปาร์ตี้ด้วยเขาก็กังวลว่าจะขวางหูขวางตาแบคฮยอนมากอยู่แล้ว เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนพอเลิกเรียนปุ๊บแบคฮยอนก็พาโดดชมรมลากมาถึงห้องบอกให้เอาคอนแท็คเลนส์ที่ใส่เป็นประจำมาด้วย
"เดี๋ยวนี้พี่ชายเรามันต้องใส่แต่สูทเนี้ยบๆ ไปทำงาน ชุดพวกนี้มันไม่ได้ใส่แล้วล่ะ ชานยอลเอาเชิ้ตสีฟ้าอ่อนตัวนี้กับกางเกงยีนส์ขาเดปส์ก็ดีนะ แล้วค่อยใส่แจ็คเก็ตยีนส์ทับอีกที"
แบคฮยอนจัดการเลือกชุดที่น่าจะเหมาะกับอีกคนให้เสร็จสรรพแล้วตรงเข้ามาปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสีขาวของชานยอลออก เล่นเอาร่างสูงยืนตัวเกร็งให้อีกคนจัดแจงไปทุกอย่าง
"อ่า...ครับ"
คนสวมแว่นพยักหน้าตอบเล็กน้อยพลางก้มมองร่างเล็กของแฟนตัวเอง เขาเม้มปากนิดหน่อยจนเห็นลักยิ้มเมื่อถูกจับปลอกเปลือกจนทั้งร่างเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ร่างเล็กยื่นกางเกงยีนส์ขายาวให้ชานยอลสวมขาใส่อย่างตื่นเต้น
ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วแฟนเอ๋อของเขาต้องออกมาหล่อพังพินาศแน่เลย..
แค่นี้แบคฮยอนก็แทบอดไม่ได้ที่จะไม่ลอบมองหุ่นดูสมส่วนไม่ผอมก้างจนน่าเกลียดอยู่แล้ว บอกตัวเองว่าอดใจไว้ก่อนเถอะ ลิ้นเล็กแลบเลียกลีบปากแดงเชอรี่ กล้ามแขนกำลังพอดีกับขนาดตัวของชานยอลยิ่งเพิ่มพูนสเน่ห์ในตัว แค่นี้แบคฮยอนก็ระทวยแล้ว
"ดะ เดี๋ยวผมใส่เองก็ได้ครับ" ชานยอลจับมือเรียวที่ถือกางเกงรออย่างเกรงอกเกรงใจ
"ไม่เอาอ่ะเราอยากใส่ให้ มาเร็วเข้า" แบคฮยอนยิ้มกะลิ้มกะเรี่ย "ชักช้าเดี๋ยวก็ถอดด้วยเลยดีมั้ยเนี่ย"
"ครับๆ ใส่แล้ว" ร่างสูงเกาแก้มเล็กน้อยแก้เขินแล้วจึงยอมทำตามใจคนตัวเล็ก
เขาสวมขาลงมากับกางเกงยีนส์ขายาว จัดแจงจนเข้ารูปใส่มันได้พอดิบพอดีไม่หลวมไม่คับ มือเรียวช่วยติดกระดุมทองเหลืองให้และรูดหัวซิบขึ้นมาจนเสร็จเรียบร้อย มือหนาเอื้อมไปหยิบเสื้อเชิ้ตที่แขวนอยู่มาสวมและค่อยๆ ติดกระดุมขึ้นมาจนถึงเม็ดบนสุด
แบคฮยอนช่วยพับแขนเสื้อให้อีกคนจนถึงข้อศอกก่อนจะผละออกมามองผลงานตัวเองอย่างพออกพอใจ แววตาสวยพราวระยับเมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าอันพุ่งพล่านเปล่งประกายออกมาจากผัว...เอ้ยแฟนหนุ่มสุดเอ๋อที่ตอนนี้แปลงร่างเป็นนายแบบหนุ่มพ่วงตำแหน่งวิศวกรไปแล้ว
ร่างเล็กถึงกับเอามือทาบอกแรงมากๆ บอกได้แค่นี้
ฟึ่บบ~
"แว่นนี่ขอยึดไว้ก่อนนะ" แบคฮยอนเขย่งปลายเท้าขึ้นมาคว้าแว่นสายตา
"แบคฮยอนแน่ใจ-" ชานยอลอ้าปากเพื่อจะถามอีกคนว่าแน่ใจแล้วใช่ไหม
"แน่ใจสิ มาถึงขั้นนี้แล้วเนี่ย"
แต่แบคฮยอนก็ยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนและยื่นกล่องคอนแท็คเลนส์ที่วางไว้บนโต๊ะใส่มือหนาแทน ชานยอลรับมันมาถือในใจกังวลนิดหน่อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนของร่างเล็กเบลอๆ เพราะสายตาสั้นเขาถึงได้ยอมเดินเข้าไปในห้องน้ำไปจัดการใส่คอนแท็คเลนส์
ตึก ตึกก ตึกก
แบคฮยอนนั่งไขว่ห้างใจเต้นระรัวรอชมผลงาน Masterpiece อันสุดแสนจะภาคภูมิใจของตัวเอง บอกได้เลยว่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนไปบาร์เกย์ครั้งแรกล้านเท่าได้มั้ง ตอนนี้กำลังจะได้เห็นชานยอลในลุคใหม่เหมือนวันแรกที่เจอจนหัวใจจะวายรัวๆ กระทั่งประตูห้องน้ำถูกเปิดออกหลังจากนั้น
...
..
.
เวลา 20:15
ณ บ้านหลังเล็กของผัววินมอเตอร์ไซด์ของเซฮุน
ปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ที่จัดขึ้นมาโดยมีเพื่อนพ้องที่สนิทสนมกันมางานไม่ถึงยี่สิบคน ส่วนใหญ่เป็นพวกเพื่อนวินของจงอินที่สลัดคราบเสื้อกั๊กสีส้มออกทั้งนั้น ธีมงานก็บ้านๆ ไม่ได้หรูหรามีแต่เหล้ากับเบียร์ เปิดเพลงตื๊ดๆ ต่อลำโพงเสียงดังจนบ้านสั่นแรงยิ่งกว่าเตียงน้ำในเดอะซิมส์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกนี้แม่งสายเถื่อน ก็นะ...เซฮุนชอบแนวนี้มาแต่ไหนแต่ไร แฟนแต่ละคนนี่อย่างกับแหกคุกออกมา ดูดีหน่อยก็มีจงอินนี่แหละที่ดูจะโอเคกว่าคนอื่นผองเพื่อนยอมให้คบค้าสมาคมได้ อย่างคยองซูมันชอบคนมีอายุโตๆหน่อย อบอุ่นเป็นไมโครเวฟอย่างพี่อินซองที่เป็นดารานั่นไง
แบคฮยอนนี่ไม่มีสเป็คอะไรหรอกขอแค่หล่อก็นอนด้วยละ แต่คบคนยากมากเว้นเสียแต่ว่าจะน่าสนใจจริงๆ ชอบคนละแนวไปเลยก็ดีไปอย่างไม่แย่งกันเองด้วย พวกเขาสามคนถึงได้ไม่เคยตีกันเรื่องแย่งแฟนอะไรงี้เลยซักที
"เราเข้าไปกันเลยเถอะ"
รถแท็กซี่สีเหลืองที่นั่งมาจอดลงหน้าบ้านหลังที่กำลังจัดปาร์ตี้กันครึกครื้น แบคฮยอนกอดแขนหนาพลางกัดปากอย่างนึกสนุก เขาดันอีกคนให้มายืนหน้าประตูบ้านแล้วกดกริ่งเรียกเพื่อนหนึ่งที
จนกระทั่งเซฮุนเปิดประตูไม้ที่ปลวกกินไปทั้งมุมบนออกดังพลั่กโผล่หน้าออกมาขมวดคิ้วดูพร้อมกับมือที่ถือแก้วเหล้า สองแก้มเริ่มมีเลือดฝาด ตาปรือนิดๆ มองคนคงจะซัดไปพอตัวแล้วมั้งเนี่ย แบคฮยอนคิดในใจ
"ใครมาอ่ะ อ...อุ๊ย!?"
ร่างผอมขาวเบิกตากว้างค้างชะงักเกือบทำแก้วเหล้าในมือร่วงเมื่อเห็นร่างสูงหน้าตาหล่ออย่างกับนายแบบยืนอยู่หน้าประตู เซฮุนกลืนน้ำลายอึกช้อนตามองคนแปลกหน้าก่อนจะเอียงคอถามแล้วคลี่ยิ้มสวยๆ พลางเอานิ้วชี้จิ้มแขนอีกคน
"เป็นเพื่อนจงอินหรอเตง ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ"
"เอ่อ...คือว่า" คนถูกถามเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี
"เรื่องนั้นช่างหัวมันเนอะ ป่ะเข้าไปกันก่อน-"
เซฮุนคว้าแขนหนาหมับทันทีแล้วดึงเข้าไปในบ้านพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ตอนนี้ผัวเผลออยู่ขอสีคนหล่อซักนิดละกัน ไม่ยักรู้ว่าจงอินมีเพื่อนหล่อขนาดนี้ด้วย แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดชะงักภายในสองวินาทีเมื่อมือที่กอดแขนหนาอยู่ถูกร่างช้างสารที่ไหนไม่รู้แทรกเข้าตรงกลางผลักจนเซฮุนกระเด็นตัวปลิวหวืดแรงมากกก
"หึ จะพาผัวกูไปไหนหรออีดอก..."
เออ! แล้วอีช้างสารนั่นจะเป็นใครไปได้อีกล่ะนอกซะจากแบคฮยอน ที่กำลังเอียงคอยิ้มสวยใส่เพื่อนรักที่บัดนี้อ้าปากค้างจนกบเขียดอึ่งที่กระโดดอยู่รอบบ้านจะกระโดดเข้าปากได้อยู่แล้ว
"ผะ...ผัวมึง...ไอ้เอ๋อนั่นอ่ะนะ...มึงตลกหรอวะอีแบค!"
เอาจริงๆ คนผิวขาวถึงกับติดอ่างเดินเข้ามามองร่างสูงสุดหล่อใกล้ๆ มองยังไงนี่มันก็ไม่ใช่ นี่หล่อระดับวงการนายแบบสั่นสะเทือน ระดับไอดอลเลยนะ อกอีฮุนจะแตกตาย...เดี๋ยวนะ...ขอตั้งสติแป้บนึง นี่มันใช่หรอฟะ!?
"แหกตามึงดูดีๆซะ แล้วเลิกเรียกชานยอลว่าไอ้เอ๋อด้วย แหม...เกือบฉุดผัวกูอยู่ละเมื่อกี๊นี้อ่ะ" แบคฮยอนกอดแขนแฟนตัวเองแล้วเชิดหน้าสวยแอ่นนมอวดเพื่อน เป็นไงล่ะเอาให้ช็อคหงายกันให้หมดดูถูกดีนัก
"ไม่อ่ะ กูไม่เชื่อ..." เซฮุนส่ายหน้ารัว บ้าหรอคือคนบ้าที่ไหนจะถอดแว่นแล้วหล่อคนละคนขนาดนี้
"เอะอะไรกันวะพวกมึง มาแล้วทำไมไม่เข้าไปนั่งอ่ะ"
คยองซูเดินเข้ามาทักเพื่อนที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างที่เรียกว่าเหลือกช็อคเป็นรายต่อไปเมื่อได้เห็นร่างสูงที่ยืนข้างเพื่อนตัวเองคนนั้นล่ะที่แบคฮยอนควงแขนอยู่ไม่ยอมปล่อย ร่างสูงที่กำลังขมวดคิ้ววางตัวไม่ถูก
"อีคยองมึงมาดูนี่เร็ว! ช่วยดูแล้วบอกทีว่ากูตาฝาด" เซฮุนสติหลุดไปแล้ว
"ห...หรือว่า...นายคือชานยอลหรอ?" คยองซูถามอึ้งๆ แว้บหนึ่งเขาเผลอนึกถึงเรื่องที่เพื่อนชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าชานยอลน่ะหล่อแค่ไหน
เมื่อถูกฝ่ายเพื่อนสนิทแบคฮยอนถามเข้าด้วยสีหน้าจริงจังและดูจะสับสนไม่น้อยนั้น เสียงทุ้มก็ตอบยืนยันด้วยตัวเองออกมาพร้อมกับยกแขนขึ้นมาโอบเอวแฟนตัวเล็กเอาไว้ ริมฝีปากเรียบคลี่ยิ้มบางให้เพื่อนแบคฮยอนทั้งสองคน
"ครับ ผมเอง"
และนั่นก็เป็นรอยยิ้มมีเลศนัยที่ทำให้คยองซูและเซฮุนช็อกหงายอีกครั้ง
!!
ผมน่ะแตกต่างจากบุคลิกที่เห็น...
I don't play play play
(ผมไม่เล่น ผมไม่เล่นกับคุณหรอก)
ผู้ชายอย่างผม ผู้มักคนบอกให้ระวังเอาไว้
คุณรู้อะไรเกี่ยวกับผมหรอ คุณรู้จักผมหรอ?
คุณไม่รู้ตัวตนของผมจริงๆ ด้วยซ้ำ
I am A good boy
(ผมเป็นคนดีนะครับ)
ใช่แล้ว...ผมเป็นคนดีนะครับ แต่บ่อยครั้งผมกลับรู้สึกหงุดหงิดจนลืมไปเลยว่าผมน่ะเป็นคนดี... ผมหงุดหงิดที่ตัวเองเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย หงุดหงิดที่ชอบคิดมากเกินไป และยิ่งหงุดหงิดมากเป็นไหนๆ เมื่อร่างเล็กข้างกายดูมีความสุขดูพออกพอใจเหลือเกินกับการที่ผมอยู่ในบุคลิกแบบนี้
'แต่ว่า...ถ้ามันทำให้แบคฮยอนมีความสุขมากขนาดนั้นผมก็จะอดทน'
ชานยอลนั่งมองร่างเล็กลุกขึ้นเต้นอย่างสนุกสนานใต้แสงไฟดิสโก้หลากหลายสีหมุนไปมาอย่างไม่คลาดสายตา บางครั้งเขาก็เผลอยิ้มออกมาเวลาที่เห็นคนน่ารักทำท่าทางรั่วๆ กับกลุ่มเพื่อน ยิ่งตอนที่แบคฮยอนยิ้มจนตาหยีเห็นฟันเรียงตัวครบทุกซี่นั่นล่ะน่ารักอย่าบอกใครเลย
พออีกคนหันมามองทางเขาชานยอลก็ได้แต่ส่ายหน้ารัวเมื่อแบคฮยอนกวักมือเรียกให้ลุกขึ้นมาเต้นด้วยกัน แต่ก็นั่นล่ะครับเขาขัดใจคนตัวเล็กไม่เป็นจริงๆ
"ไม่สนุกหรอ ชานยอลอ่า"
"เปล่าครับ แค่เห็นแบคฮยอนสนุกผมก็สนุกแล้ว"
แบคฮยอนเลิกคิ้วถามพลางเลื่อนแขนขึ้นมากอดลำคอหนาไว้ ซึ่งชานยอลนั้นก็ได้แต่เม้มปากปฏิเสธอีกคนเท่านั้น
"ไม่จริงอ่ะ คิ้วยังขมวดอยู่เลยเนี่ย ยิ้มหน่อยสิ...นะนะ"
คนสวยช้อนดวงตาที่เขียนด้วยเส้นอายไลน์เนอร์บางๆ เต็มไปด้วยสเน่ห์ขึ้นออดอ้อนแฟนหนุ่ม แถมยังทำให้คนตัวสูงใจเต้นถี่ยิบด้วยการเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ้บหัวคิ้วที่ขมวดเป็นปมนิดหน่อย
"... เพื่อนแบคฮยอนมองอยู่นะครับ"
"ก็อยากดูถูกกันดีนักนี่ ถ้าคืนนี้พวกมันยังพูดอะไรลามปามอีกก็อย่าเก็บมาคิดมากจะได้มั้ย?"
"แล้วถ้าผมเกิดคิดมากแล้วไม่พอใจขึ้นมาจริงๆล่ะ แบคฮยอนจะทำยังไง" ดวงตาคมกริบไร้แว่นเลื่อนสบแววตาซุกซนอย่างรอคำตอบ
'สายตาแบบนี้อีกแล้ว' ร่างเล็กนึกตงิดอยู่ในใจ นั่นเป็นสายตาที่มีความหมายเป็นนัยอะไรรึเปล่าเพราะมันทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นมันด้วยสิ
"ชานยอลจะโกรธเราลงหรอ..."
ระยะห่างจากใบหน้าหวานและใบหน้าคมไร้กรอบแว่นลดลงทีละนิดเมื่อชานยอลถูกแฟนคนสวยหว่านสเน่ห์เข้าใส่ไปเต็มๆ มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับเอวอีกคนไว้ ก่อนที่ริมฝีปากชมพูจะเบียดเข้าไปทาบทับสัมผัสริมฝีปากหยักต่อหน้าต่อตาเพื่อนในงานนับยี่สิบคน พวกเขาแลกจูบดูดดื่มกันหลายนาทีจนได้ยินเสียงวี๊ดวิ๊วแซวจากพวกวินหัวโจกนั่นล่ะ
คืนงานเลี้ยงยิ่งดึกเท่าไหร่ก็ยิ่งคึกครื้นกันถ้วนหน้า ไหนจะเสียงเพลงที่ดังสนั่นทั้งคืนจนชานยอลรู้สึกปวดหูไม่เบา กับแกล้มบนเตาย่างที่ส่งกลิ่นหอมฉุย ขวดโซจูที่ดื่มจนหมดแล้ววางเรียงเป็นตับ ยังมีขวดเหล้าที่หอบมาจากซุปเปอร์มาเก็ตอีกหลายขวดวางอยู่บนโต๊ะม้าหินอีก
"นัวเนียกันแย่งซีนวันเกิดจงอินหมดเลยอีดอก ทำงี้ไม่สงสารผัวกูเลยสินะที่ยืนรอเป่าเค้กแล้วไม่มีใครมองเห็นเนี่ย"
"โถน่าสงสารจังเลย มึงก็บอกผัวดิว่าอย่าแว๊นวินตากแดดนัก กลางคืนปิดไฟนี่คงเห็นแต่ฟันผัวป่ะนี่กูยังไม่เห็นความหล่อเลยโถ่" แบคฮยอนหัวเราะจนปวดท้อง
"หนอยสาบานว่านั่นปากหยาบคายที่สุด แล้วทีมึงอ่ะถ้าชานยอลไม่หล่อเป็นเทพบุตรตอนถอดแว่นละมีดีกรีเรียนวิศวะแบบผู้ชายในฝันมึงก็ไม่จริงจังแบบนี้หรอกใช่มั้ยอีตูดใหญ่!"
"มึงก็พูดแรงไปฮุน แต่เรื่องแบบนี้ชานยอลคงไม่ถือหรอกเนอะ..." คยองซูแท็กมือกับเซฮุน ได้ทีต้องเอาคืนให้หนักบอกเลย อิอิ
"อ่า...ครับ" ชานยอลพยักหน้าตอบนิดหน่อย ถึงจะรู้สึกไม่พอใจบ้างก็เถอะ
"เหี้ย ไม่เอาอ่ะเลิกแซะเรื่องนี้ถึงชานยอลจะไม่ถือแต่กูก็ไม่สนุก!" แบคฮยอนโวย
"เอ้าก็ถือว่าเป็นการรับน้องผัวเพื่อน เหมือนตอนที่กูเพิ่งคบจงอินใหม่ๆมึงยังเล่นซะผัวกูเกือบบิดมอเตอร์ไซค์ฟีโน่ยกล้อหนีเลยจำไม่ได้อ่อ"
"ใช่ๆ ตอนนั้นมึงเผากูซะพี่อินซองรู้หมดเลยว่ากูเป็นคนยังไงหมดกันภาพลักษณ์เรียบร้อยของกู เจ็บใจเว่อวังอลังการ"
แบคฮยอนมุ่ยหน้าอย่างหงุดหงิดเพราะอิสองคนที่นั่งชนแก้วยกซดเผาเรื่องน่าอายเรื่องแล้วเรื่องเล่า ยิ่งพอเหล้าเข้าปากคนละหลายแก้วเข้าหน่อยก็เป็นอย่างที่เห็น หูรูดปากพังกันหมด
"โอ้ยย นี่ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองกูไม่มีวันเชื่อแน่ๆ ว่านี่คือชานยอลผัวเอ๋อของมึงตัวจริงเสียงจริง กูเข้าใจละว่าทำไมวันนั้นมึงถึงหน้ามืด ตอนเห็นครั้งแรกกูยังหน้ามืดเลย เอิ้กกก~"
"ไรวะกูบอกแล้วนะแต่พวกมึงไม่ยอมเชื่อกูเอง มึงมันตาไม่ถึง พวกโง่...."
"ชานยอลซ่อนรูปเก่งเกินไปต่างหาก ถ้าที่คณะมีแบบนี้อีกซักคนบอกมั่งนะ แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่หล่ออีแบคก็ไม่แอ่นตูดให้เอาง่ายๆ แบบนี้หร๊อกก"
"เออคนก่อนนะพี่คริสนั่นไง หล่อรวยมีชาติตระกูลอีแบคยังสลัดทิ้งรัวๆ นายเองก็ระวังไว้มั่ง อิอิ"
"พอซักทีเถอะครับ!"
เสียงมือหนาตบโต๊ะดังลั่นจนแก้วแก้วเหล้าขวดเหล้าบนโต๊ะสั่น ทำเอาเซฮุนกับคยองซูสะดุ้งโหยงหุบปากกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ไอ้เรื่องพวกนั้นทำไมชานยอลจะไม่รู้ว่าแบคฮยอนเป็นยังไงเคยคบใครหรือเคยทิ้งใครมาก่อน เขาน่ะรู้เสียยิ่งกว่ารู้ แล้วเรื่องพวกนี้เขาไม่อยากได้ยินมันที่สุด
เป็นอีกครั้งที่ร่างสูงรู้สึกไม่พอใจทนฟังไม่ได้ ถ้าอยากรู้ว่าเขาโกรธแค่ไหนก็ลองดูเส้นเลือดบนหลังมือหนาที่ถูกกำตลอดเวลาแล้วกัน เพื่อนแบคฮยอนอาจจะแคะแซวเล่นตามประสาแต่สำหรับชานยอลแล้วมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยซักนิดเดียว
"ชะ ชานยอล" แบคฮยอนเองก็ใจหล่นวูบถึงตาตุ่ม ชิบหายแล้วไง
"ผมจะพาแบคฮยอนกลับ" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับแขนเล็กถูกฉุดลุกขึ้นยืนในทันที
"อ..อ่าว จะกลับแล้วอ่อ นี่แก้วสุดท้ายแล้วเนี่ยหมดแล้วค่อยไปดิ" คยองซูที่ยังหน้าเหวออย่างเห็นได้ชัดเรียกเอาไว้ก่อน ส่วนเซฮุนน่ะหรอหุบปากไม่กล้าพูดอะไรซักแอะ...
หมับ!
อึก อึก อึกก...
แก้วเหล้าที่เหลือน้ำสีอำพันอยู่เกินครึ่งถูกมือหนายกขึ้นกระดกลงคอรวดเดียวราวกับน้ำเปล่าไม่มีสีไม่มีกลิ่นไม่มีรสชาติอะไรอย่างนั้น ทุกคนอ้าปากค้างตอนที่เห็นหลังมือใหญ่ยกขึ้นเช็ดปากแล้ววางกระแทกแก้วลงบนโต๊ะม้าหินอ่อน
"เท่านี้ก็กลับได้แล้วใช่ไหมครับ?"
ดวงตาคู่ขุ่นเคืองเบิกจ้องหน้าคยองซูสลับกับเซฮุนที่ตอนนี้ใบ้แดกไปแล้ว ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กของแบคฮยอนดึงจนตัวปลิวเดินออกจากบ้านเช่าหลังเล็กนั่นไป
ผมบอกแล้วไงครับว่าผมไม่เล่น . . .