For you

By aeaarisa

2.4K 21 29

เรื่องราวความรักของพี่น้องที่ต้องแยกจากกัน ความรักของเพื่อนสนิทที่คิดมากกว่าคำว่าเพื่อนสนิท ความรักของพี่ชา... More

For you
For you 1
For you 2.1
For you 3
For you 3.1
For you 4
For you 5
For you 6
For you 6.1

For you 2

241 3 6
By aeaarisa

ความหวังที่ว่าพ่อจะพาน้องกลับบ้านคงไม่มีวันเป็นจริง หลังจากฝันร้ายผ่านไปได้หนึ่งสัปดาห์ แม่ขายบ้านหลังนั้นพร้อมกับพามินซอกย้ายจากโซล มาอยู่ที่ปูซาน บ้านไม้สองชั้นสีขาว ที่มองไปทางไหนก็แปลกตา รวมถึงสภาพแวดล้อมใหม่ๆ จากนี้คงไม่มีน้องชายอย่างจงแด พ่อที่ใจดี รวมถึงเพื่อนที่โรงเรียนที่เคยวิ่งเล่นด้วยกัน

มินซอกย้ายมาอยู่บ้านใหม่ได้สองวัน แต่ยังไม่เคยออกจากบ้านไปไหน ถ้ามีจงแดอยู่ด้วยตอนนี้เราสองคนพี่น้องคงวิ่งเล่นไปทั่วแถวนี้ คงมีเพื่อนใหม่หลายคน แค่คิดถึงใครอีกคนที่เคยอยู่ข้างกันตลอดเวลาก็รู้สึกน้ำตาจะไหลออกมา

แม่เดินเข้ามากอดมินซอกพร้อมใช้มือลูบลงบนหัวอย่างอ่อนโยน รู้ดีว่าลูกชายของตัวเองเศร้าแค่ไหน ทำไมคนเป็นแม่จะไม่รู้เธอเลี้ยงลูกสองคนมาไม่เคยให้ลูกต้องแยกจากกันเลยสักครั้ง แม้แต่ตัวเธอเองก็คิดถึงลูกชายคนเล็ก ทั้งยังนึกเป็นห่วงว่าตอนนี้ คนเป็นพ่อจะดูแลดีแค่ไหน ถึงเธอจะไม่ต้องการให้ลูกแยกจากกัน แต่ถ้าคิดถึงภาระที่จะต้องเผชิญหากต้องเลี้ยงลูกคนเดียวถึงสองคน เธอก็ไม่สามารถทำได้ แค่เพียงดูแลมินซอกคนเดียวพร้อมกับต้องหางานทำ จากที่เคยอยู่บ้านรับผิดชอบแค่เรื่องลูกกับดูแลบ้านอย่างเดียว ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอย่างนั้นได้

"มินซอกครับ ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกไหม แถวนี้มีสนามเด็กเล่นด้วย จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ เวลาไปโรงเรียนจะได้มีเพื่อนเล่น"

หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้นมินซอกก็ชอบนั่งเหม่อ คงกำลังคิดถึงน้องชาย แม่คิดว่าถ้ามินซอกออกไปวิ่งเล่นคงได้พบเจอเพื่อนใหม่ ๆ สิ่งที่แม่ต้องการตอนนี้แค่เพียงเห็นลูกชายคนโตกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ลูกชายของเธอนะเหมาะกับรอยยิ้มที่สุด รอยยิ้มที่สดใส เหมือนแสงของดวงอาทิตย์ รวมถึงรอยยิ้มของเด็กอีกคนที่ตอนนี้คงจะยังเศร้าอยู่เหมือนกัน

มินซอกหันไปพยักหน้าตอบแม่พร้อมกับยิ้มให้แม่ ถึงจะไม่ได้อยากออกไปข้างนอกแต่พอคิดอย่างที่แม่พูด บางทีออกไปเล่นข้างนอกอาจได้พบเจอเพื่อนที่ดีๆสักคน

ที่สนามเด็กเล่น มีเด็กวิ่งไปมาหลายคน แต่มินซอกเป็นเด็กขี้อาย จะให้เข้าไปทำความรู้จักกับใครสักคนคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเพื่อนทุกคนที่รู้จักมาจากการที่จงแดพาไปแนะนำ ถ้าไม่มีจงแดมินซอกคงไม่มีเพื่อนเล่นด้วย หลายครั้งที่ถูกเพื่อนแกล้งและล้อว่าเป็นเด็กอ้วน จงแดจะเป็นคนเข้ามาจัดการตลอด จนบางทีก็ถึงกับมีเรื่องให้ต้องเจ็บตัว แต่น้องชายที่ตัวเล็กอย่างจงแดก็ไม่เคยกลัวต่างกับเขาที่ตัวโตกว่าน้องแต่ไม่เคยกล้าสู้กับใครสักคน ปกป้องน้องไม่ได้สักครั้งแต่ตอนนี้น้องไม่อยู่ด้วย เด็กน้อยคิมมินซอกจึงทำได้แค่เพียงขอพรให้พระเจ้าเห็นใจ โปรดส่งเพื่อนดีๆสักคนมาให้มินซอกด้วย มินซอกสัญญาจะเป็นเด็กดีของแม่ ระหว่างที่คิดอะไรอยู่นั้น

"เฮ้...ระวัง"
ตุบ....โอ้ย....
ไม่ใช่แค่เจ็บหัวเพราะถูกลูกบอล แต่ตอนนี้มินซอกล้มลงไปนั่งที่พื้น
"อ้วนเป็นไรไหม"
เด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาถาม
เพราะความเจ็บและตกใจ
"ย๊า...เราไม่ได้ชื่ออ้วนนะ มาโดนเองไหมจะได้รู้ว่าเจ็บหรือเปล่า"
เป็นครั้งแรกที่มินซอกเสียงดังตอบออกไป จากปกติที่เคยต่อให้ถูกล้อหรือถูกแกล้งหนักแค่ไหน ก็จะนิ่งเงียบไม่เคยตอบโต้ใครไปสักคน หลังจากรู้ตัวว่าทำอะไรออกไป มินซอกรีบใช้มือปิดหน้าปิดตาตัวเองทันที ได้แต่คิดว่าคงได้ถูกแกล้งหนักกว่านี้แน่

ลู่หานได้แต่ยืนมองท่าทางของเด็กแก้มกลมตรงหน้า เขาเห็นเด็กคนนี้ตั้งแต่เดินเข้ามาที่สนามแล้ว เขาคิดว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กผู้หญิง เพราะหน้าหวานและน่ารักมากๆเหมือนลูกแมวตัวน้อยกำลังหลงทาง อยากเข้ามาทำความรู้จักด้วย ตอนแรกว่าจะเตะบอลเบาๆมาตรงหน้า แต่เพราะเตะแรงไปจึงทำให้บอลลอยมาโดนหัว พอมาเจอตัวใกล้ๆถึงรู้ว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่ทำไมถึงได้น่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนอีก

555555 ลู่หานหัวเราะกับท่าทางของเด็กแก้มกลมที่เอามือปิดหน้าปิดตาหลังจากที่เสียงดังใส่เขา

"ขอโทษแล้วกัน เราไม่ได้ตั้งใจ เจ็บมากไหม เดี๋ยวเราช่วย"
พร้อมยื่นมือส่งให้คนที่นั่งกองกับพื้น
"เราชื่อลู่หาน นายชื่ออะไร ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน"
หลังจากได้ยินคำแนะนำตัว มินซอกจึงลดมือลง พร้อมมองหน้าคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้
"เราชื่อคิมมินซอก เรียกมินซอกก็ได้ เราพึ่งย้ายมา"
หลังจากแนะนำตัวเสร็จ มินซอกส่งยิ้มกลับไปให้กับเพื่อนใหม่ทันทีพร้อมยื่นมือไปจับมือของลู่หานเพื่อลุกขึ้นยืน

รอยยิ้มแรกที่หายไปหลังจากฝันร้ายถูกส่งไปให้กับเพื่อนใหม่ คงเป็นเพราะรอยยิ้มที่ได้รับมาก่อนดูสดใสเสียจนทำให้คนมองอย่างมินซอกต้องยิ้มกว้างๆกลับไป

"ลู่หาน หานนา"
มินซอกเรียกเพื่อนใหม่ พร้อมเขย่ามือที่จับกัน ทำไมถึงต้องจับมือกันเเน่นขนาดนี้

"ว่าไง มินซอก"
"ปล่อยมือเราได้ยัง"
ลู่หานปล่อยมืออีกคน พร้อมกับยิ้มเขินๆไปให้ เป็นครั้งแรกที่ลู่หานรู้สึกว่าเพื่อนใหม่คนนี้น่ารักที่สุดที่เคยเจอมา ยิ่งตอนที่ส่งยิ้มมาให้ ยิ่งน่ารักมากกว่าเดิมอีก

"ไปเล่นด้วยกันไหม"
"ให้เราเล่นด้วยจริงๆนะ"
มินซอกพยักหน้าดีใจที่ตอนนี้ได้เพื่อนเล่น เพื่อนที่ดูเหมือนจะใจดี

มินซอกวิ่งเล่นกับลู่หานจนเย็น แถมลู่หานยังใจดีปั่นจักรยานไปส่งที่บ้านอีก

"มินซอก พรุ่งนี้เราไปเล่นด้วยกันอีกนะ"
มินซอกพยักหน้าส่งยิ้มกลับมา พร้อมโบกมือลา ก่อนจะวิ่งเข้าบ้านไป ลู่หานมองเพื่อนใหม่วิ่งเข้าบ้านไปแล้ว แต่เขายังไม่หยุดยิ้มเลย แค่คิดถึงใบหน้าของเพื่อน รอยยิ้มสดใส เด็กแก้มกลมคนนี้ทำไมถึงมีแต่ความน่ารักเต็มไปหมด
" ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะคิมมินซอก"
ลู่หานบอกลาเพื่อนในใจอีกครั้งก่อนปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม

สนามบินปักกิ่ง
"พ่อครับ ทำไมเราไม่พาพี่มินซอกกับแม่มาด้วยกัน"
เป็นคำถามที่จงแดถามพ่อตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีคำตอบจากพ่อ สิ่งที่ได้รับมีเพียงรอยยิ้มกับอ้อมกอดที่อบอุ่นของคนเป็นพ่อเท่านั้น พ่ออุ้มจงแดออกมาขึ้นรถยนต์คันหนึ่งที่มาจอดรอรับอยู่แล้ว จงแดไม่รู้ว่าเรากำลังจะไปที่ไหนกัน รู้แค่เพียงว่าเขากับพ่อมาไกลมากต้องนั่งเครื่องบินนานๆ แค่คิดถึงว่าถ้าคนเป็นพี่มาด้วยจะตื่นเต้นขนาดไหน แต่ถ้าเป็นมินซอกคงอาจจะกลัวก็ได้ พี่ชายเขานะขี้กลัวไปหมด แค่คิดถึงก็เป็นห่วงแล้ว ตอนนี้จะถูกใครรังแกให้ร้องไห้หรือเปล่า ยิ่งไม่มีเขาคอยดูแลปกป้องด้วย พอคิดถึงก็ยิ่งเป็นห่วง

พ่อก้มมองจงแดที่นั่งอยู่ในอ้อมกอด ได้แต่กล่าวขอโทษลูกชายซ้ำๆในใจ ที่ต้องพามาลำบากด้วยกัน เป็นความผิดของเขาเองครอบครัวที่มีแต่ความสุขถึงได้แยกทาง รวมทั้งงานที่สร้างขึ้นมาเองกับมือก็พังลงไม่เป็นท่าเพราะเชื่อใจลูกน้องคนสนิท โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี เหตุผลที่ต้องพาลูกชายคนเล็กมาด้วยเพราะไม่อยากทิ้งภาระทั้งหมดให้กับคนเป็นภรรยา ตอนนี้หวังว่าเงินที่ได้จากการขายบ้านจะทำให้ภรรยาและมินซอกสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไม่ลำบากเกินไป เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้งพร้อมกับลูบมือลงบนหัวลูกชายคนเล็ก ที่ตอนนี้เหมือนเป็นทุกอย่างของเขา เป็นกำลังใจให้เขาต้องสู้ต่อไป

รถคันใหญ่ขับพาจงแดกับพ่อเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ พ่ออุ้มจงแดลงจากรถ
"เข้าไปเจอเพื่อนของพ่อก่อนนะ แล้วเราค่อยกลับบ้านกัน"
เมื่อเข้ามาในบ้านจงแดได้พบคุณลุงคนหนึ่งที่ส่งยิ้มแสนใจดีมาให้
"จงแดสวัสดีลุงจางก่อนครับ"
"สวัสดีครับ"
จงแดทำตามที่พ่อบอก ก่อนจะหันไปซุกหน้าลงตรงอกพ่อ ท่าทางของจงแดที่น่ารักทำให้คนที่มองอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเด็กน้อยที่เอาแต่กอดพ่อแน่น สร้างความเอ็นดูให้กับเจ้าของบ้านได้ทันที
"จงแดน่ารักจริงๆ จำได้ว่าเคยเจอตอนที่แกเกิด ยิ่งโตยิ่งน่ารัก"
พ่อคุยงานกับลุงจางไปได้ไม่นาน

"สวัสดีครับคุณอา"
"อี้ชิงสินะ โตขึ้นเยอะเลย จงแดสวัสดีพี่อี้ชิงก่อนลูก"
อี้ชิงก้มลงมองเด็กตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักคุณอา เพราะเด็กน้อยเอาแต่นั่งกอดพ่อพร้อมเอาหน้าซุกอก อี้ชิงจึงไม่เห็นน้อง จงแดหันมามองพี่ชายคนใหม่ที่เข้ามา

ดวงตาใสแจ๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆส่งมาให้ พร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้ม ทำให้คนมองอย่างอี้ชิงรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา เขาก้มลงเอามือลูบหัวน้อง
"เด็กน้อยชื่ออะไรครับ พี่ชื่ออี้ชิงนะ"
รอยยิ้มจากพี่ชายกับสัมผัสที่อบอุ่น ทำให้จงแดต้องส่งยิ้มตอบกลับไป
"จงแด คิมจงแดครับ"
อี้ชิงเห็นพ่อกับคุณอายังคุยงานกันอยู่จึงชวนเด็กน้อยตรงหน้าออกไปข้างนอก
"ไปทานเค้กกับพี่ไหมครับ เดี๋ยวพี่พาไป"
จงแดหันไปมองพ่อ เมื่อเห็นพ่อพยักหน้าอนุญาต จงแดก็หันไปพยักหน้าตอบตกลงกับพี่ชายทันที อี้ชิงหัวเราะกับความน่ารักของคนเป็นน้อง ก่อนจะอุ้มน้องขึ้นมาพาเดินออกไปหน้าบ้าน

คุณชายจางอี้ชิงที่ใครๆต่างก็บอกว่าเย็นชากำลังพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักของเด็ก 5ขวบที่นั่งกินเค้กตรงหน้า ถ้าเพื่อนสนิทอย่างอี้ฝานรู้เข้าต้องไม่เชื่อแน่ๆ แม้แต่คนรับใช้ในบ้านยังดูตกใจตอนที่เห็นอี้ชิงอุ้มน้องออกมา พร้อมสั่งให้ยกเค้กมาให้น้อง เพราะรู้กันดีว่าคุณชายของบ้านเกลียดเด็กตัวเล็กๆมากแค่ไหน ยิ่งตอนที่ยกเค้กมาให้เห็นคุณชายยิ้ม ยิ่งสร้างความแปลกใจให้คนทั้งบ้านยิ่งขึ้นไปอีก อี้ชิงนั่งมองน้องกินเค้ก เขาได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมถึงได้เอ็นดูเด็กคนนี้ ระหว่างที่เขากำลังคิดอะไรอยู่ จงแดตักเค้กยื่นส่งมาให้
"พี่อี้ชิงกินเค้กด้วยกันนะ"
สิ่งที่อี้ชิงเกลียดรองลงมาจากเด็กคือของหวาน เขาเป็นพวกไม่ถูกกับของหวานทุกชนิดก็ว่าได้ แต่ตอนนี้เขากลับอ้าปากรับเอาเค้กจากน้องทันที เพื่อไม่อยากให้น้องต้องรอ
"อร่อยไหมครับ"
อี้ชิงพยักหน้าส่งให้น้อง สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มที่กว้างมากขึ้นของเด็กน้อยรอยยิ้มหวานๆกับดวงตาใสๆ ทำให้อี้ชิงต้องยิ้มตามทุกครั้งที่มอง
"กินเลอะหมดแล้วเด็กน้อย"
อี้ชิงยื่นมือไปเช็ดมุมปากที่เลอะเค้กให้น้อง

เพราะทราบมาว่าตอนนี้คุณอาย้ายมาทำงานที่จีน รวมทั้งเด็กตัวเล็กคนนี้ก็ต้องย้ายมาเรียนที่จีนด้วย อี้ชิงก็แค่อยากได้รับรอยยิ้มแบบนี้ทุกวัน
"จงแดครับ ให้พี่ช่วยสอนภาษาจีนให้เอาไหม"
จงแดรีบพยักหน้าตกลงทันที
"จริงนะ พี่อี้ชิงใจดีที่สุดเลย"

เวลาไม่ถึง 1ชั่วโมงเด็กน้อยที่ชื่อคิมจงแดต้องมีเวทมนต์แน่ๆเพราะทำให้คุณชายจางอี้ชิงยังไม่หยุดยิ้มเลย ตั้งแต่จำความได้จนตอนนี้เขาอายุ 15 แล้วไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะสนใจหรือตามใจใคร เพราะเกิดมาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน หลังจากแม่เสีย เขาก็ถูกคนเป็นพ่อตามใจ ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็จะมีคนหามาให้ทั้งหมด แต่ตอนนี้เขากลับมานั่งเอาใจเด็ก5ขวบที่ไม่ต้องพูดหรือทำอะไร แค่พยักหน้าตอบเวลาเขาถาม หรือส่งยิ้มมาให้เท่านั้น เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างให้ อี้ชิงยังคงรู้สึกว่ารอยยิ้มบนหน้าของเขายังไม่หายไปถึงแม้ว่า เด็กน้อยคิมจงแดจะกลับบ้านไปกับคุณอาแล้วก็ตาม เพียงแค่คิดถึงรอยยิ้มกับดวงตาใส ที่หยีลงเวลายิ้มก็ทำให้อี้ชิงยิ้มได้
"ถ้าจะอาการหนักแล้วจางอี้ชิง นายกำลังจะแพ้กับความน่ารักของเด็กเนี้ยนะ"
อี้ชิงส่ายหน้าให้กับตัวเอง แค่คิดว่าพรุ่งนี้จะได้เจอน้องอีก อะไรที่ดูน่าเบื่อก็เหมือนจะรู้สึกดี "พรุ่งนี้เจอกันนะเด็กน้อยของพี่"

ตอนนี้มินซอกเริ่มคุ้นเคยกับบ้านใหม่ ถึงจะรู้สึกเหงาบ้างที่ไม่มีน้องชายตัวแสบอยู่ข้างๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้เศร้ามาก คงเป็นเพราะได้รู้จักเพื่อนใหม่อย่างลู่หาน ที่ปั่นจักรยานมารับไปเล่นด้วยกันทุกวัน แต่วันนี้ยังไม่มารับเลย
"ลู่หานช้าไปแล้วนะ เดินไปก่อนดีกว่า"
เป็นเพราะเดินไปก็คิดถึงว่าถ้าลู่หานมาไม่เจอกันคงจะปั่นจักรยานตามมา เพราะไม่ได้มองทางมินซอกจึงเดินไปชนเข้ากับเด็กคนหนึ่ง
"ย๊า ไม่เห็นคนหรือไง"
เด็กคนนั้นพูดจบก็ผลักมินซอกล้มลงกับพื้นมินซอกตกใจและรู้สึกกลัวขึ้นมา เด็กพวกนี้มากันสามคน ตอนนี้เขาอยู่ในวงล้อมของเด็กสามคนที่ตัวสูงกว่าเขานิดหน่อย เขาคิดถึงจงแดขึ้นมาทันที ถ้าน้องอยู่ด้วยน้องจะต้องรีบเข้ามาช่วย แค่คิดถึงน้องน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
"หยุดนะ ชานยอล อย่ามาแกล้งมินซอกของเรานะ"
เสียงลู่หานตะโกนมา ก่อนที่จะมาถึงแล้วผลักชานยอลออก ลู่หานนั่งลงพร้อมดึงเพื่อนเข้ามากอดลูบมือลงบนหัวให้อีกคนหยุดร้องไห้
ชานยอลมองลู่หานกับเด็กอีกคน
"เพื่อนลู่หานเหรอ"
"ใช่ ห้ามใครมาแกล้ง"
ลู่หานตอบกลับพร้อมมองหน้าชานยอล

ชานยอลกับกลุ่มเพื่อนรีบขอโทษทันที ใครจะอยากมีเรื่องกับลู่หานกัน ชานยอลยังจำได้ว่าเคยแกล้งลู่หานเพราะเห็นตัวเล็กๆหน้าหวานๆเหมือนเด็กผู้หญิง แต่เป็นเขาเองที่เจ็บตัวหนักกว่า ทุกครั้งที่มีเรื่องกัน อย่ามีเรื่องกับลู่หานจะดีที่สุดถึงจะมีคนมากกว่า แต่ชานยอลก็ไม่อยากเจ็บตัวเหมืนกับทุกที

ชานยอลกับกลุ่มเพื่อนกลับไปแล้วแต่มินซอกยังไม่หยุดร้องไห้ ลู่หานใช้มือลูบลงบนหัวเพื่อนพร้อมช่วยเช็ดน้ำตาบนแก้ม
"หยุดร้องไห้เถอะมินซอก เจ็บตรงไหนไหม"
มินซอกส่ายหน้ากลับมาทันที
"ทำไมไม่รอเรา มาก่อนทำไม"
"ลู่หานมาช้า เราเลยเดินออกมาก่อน"
"ขอโทษนะ วันหลังถ้าเราช้าก็รอก่อน อย่าออกมาคนเดียวอีก"
มินซอกพยักหน้าตอบตกลง
"เราเลี้ยงไอศครีมขอโทษแล้วกัน หยุดร้องไห้ได้แล้ว"
มินซอกหยุดร้องไห้พร้อมกับส่งรอยยิ้มกลับมา ลู่หานช่วยดึงมินซอกให้ลุกขึ้นยืน
"ชานยอลไม่ได้ทำไรใช่ไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"เราเดินไม่ระวังเลยไปชนกับเขา เราผิดเอง ไปกินไอศครีมกันเถอะนะ"
มินซอกคว้ามือลู่หานตรงไปร้านไอศครีมเจ้าประจำ

ตอนนี้ลู่หานกำลังนั่งมองเพื่อนนั่งกินไอศครีมอย่างมีความสุข ถ้าเป็นเรื่องของกิน มินซอกจะอารมณดีมากๆ คงลืมเรื่องที่เจ็บตัวไปแล้ว
"มินซอกกินเลอะหมดแล้ว"
ลู่หานส่งทิชชู่ไปให้เพื่อนเช็ดมือและปาก มินซอกเนี้ยกินอะไรก็ดูจะอร่อยไปหมด ไหนจะแก้มกลมๆเวลาที่กินอะไรเข้าไปยิ่งดูน่ารักแบบสุดๆ ลู่หานได้แต่นั่งยิ้มให้กับเพื่อน

หลังทานไอศครีมเสร็จลู่หานปั่นจักรยานมาส่งมินซอกที่บ้านเหมือนทุกวัน
"หานนา ขอบคุณนะ"
มินซอกบอกพร้อมโบกมือลาก่อนเดินเข้าบ้าน
ลู่หานยังมองเพื่อนเดินเข้าบ้านไปแล้วแต่เขายังนึกถึงตอนที่มาถึงแล้วไม่เจอเพื่อน เขารีบปั่นจักรยานตามไป เมื่อไปถึงแล้วเห็นเพื่อนกำลังร้องไห้เพราะถูกแกล้ง เขารู้สึกโกรธมากๆ ก็มินซอกเป็นเพื่อนคนสำคัญที่เขาไม่อยากเห็นน้ำตา มินซอกของเขาเหมาะกับรอยยิ้มที่สุด ดูเหมือนเขาคงต้องดูแลและปกป้องรอยยิ้มของเพื่อนคนสำคัญให้ดีกว่านี้แล้ว

เสียงเตือนหมดชั่วโมงเรียนดังขึ้น
"อี้ชิงไปเที่ยวกัน"
อี้ฝานเดินมากอดคอเพื่อนสนิททันทีที่หมดชั่วโมงเรียน
"วันนี้ไม่ว่าง ต้องรีบกลับบ้าน ไปก่อนนะ"
ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันอี้ชิงไม่เคยปฏิเสธเขาเลย แถมวันนี้เพื่อนเขายังอารมณ์ดีแบบแปลกๆ แถมยังรีบกลับบ้านอีก ปกติเลิกเรียนอี้ชิงจะไปเดินเที่ยวเล่นก่อนถ้าไม่มืดจะไม่เข้าบ้าน

"มีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าแปลกๆ"
อี้ชิงหันไปถามเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้าตลก
"ไม่สบายหรือเปล่า"
อี้ฝานตอบกลับพร้อมยื่นมือไปจะแตะหน้าผากเพื่อน
อี้ชิงปัดมือเพื่อนออก
"ไม่ได้เป็นไร ไปก่อนนะ วันนี้รีบจริงๆ"
อี้ชิงตอบกลับพร้อมวิ่งออกจากห้องก่อนที่เพื่อนจะถามไปมากกว่านี้

"พี่อี้ชิงงงงงงง"
เสียงร้องตะโกนเรียกชื่อก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งมาถึงเขาเสียอีก แค่ได้ยินเสียงน้องอี้ชิงก็ยิ้มออกมาแล้ว ก่อนจะก้มตัวลงกางแขนให้น้องวิ่งเข้ามาหา อี้ชิงอุ้มน้องขึ้นมา ก่อนจะฟัดไปที่แก้มซ้ายขวา เสียงน้องยังคงหัวเราะสดใสแถมดิ้นไปมาในอ้อมกอดของเขา
"มารอนานยังครับ"
จงแดส่ายหน้าไปมา
"ไม่นานครับ"
อี้ชิงหันไปสั่งแม่บ้านให้เตรียมของว่างให้น้องก่อนจะอุ้มน้องเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เพราะสัญญากับน้องว่าจะสอนภาษาจีนให้ อี้ชิงจึงรีบกลับบ้านทันทีหลังจากเลิกเรียน

อี้ชิงเคยนึกเกลียดและไม่ชอบเด็กตัวเล็กๆเพราะรู้สึกรำคาญ ที่เด็กชอบส่งเสียงดังร้องไห้งอแง วิ่งซนไปมา พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ทุกอย่างที่ว่ามาตรงข้ามกับเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักของเขาตอนนี้ ก็จงแดของเขานะ ตั้งใจเรียนในสิ่งที่เขาสอนมาก ดูจากคิ้วที่ขมวดกันจะเป็นโบว์อยู่แล้ว อี้ชิงยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลื่อนมือไปกดตรงหว่างคิ้วของน้อง
"จงแด พักกินขนมก่อนนะครับคนเก่ง"
จงแดรีบพยักหน้าทันที เรียกเสียงหัวเราะจากคนเป็นพี่
อี้ชิงกำลังรู้สึกว่าเด็กน้อยคิมจงแดกำลังมีอิทธพลต่อความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับใครได้มากขนาดนี้ กับเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่จำความได้อย่างอี้ฝาน อี้ชิงยังไม่เคยตามใจ จงแดไม่ใช่ตุ๊กตา สิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง ที่ว่าถ้าเขาต้องการให้มาเป็นของตัวเองก็ต้องได้ แต่เด็กน้อยวัย 5 ขวบคนนี้ กลับทำให้เขาหวงแหนรอยยิ้มนั้นมากกว่า รอยยิ้มที่อยากเห็นทุกๆวัน เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้สึกตอนนี้คืออะไร เขาไม่เคยนึกอยากมีน้องชาย หรือตอนนี้เขาอาจจะต้องการมีน้องชายสักคนหรือเปล่า เพราะการเป็นลูกคนเดียว อี้ชิงกำลังหาคำตอบให้กับตัวเองถึงความรู้สึกที่มีต่อเด็กตรงหน้า ถึงจะยังไม่มีคำตอบตอนนี้ แต่การที่มีน้องอยู่ในอ้อมกอดตอนนี้ก็คือสิ่งที่เขามีความสุขที่สุด

ตั้งแต่สัญญากับจงแดว่าจะสอนภาษาจีนให้อีกคน อี้ชิงจะรีบกลับบ้านทันทีที่หมดชั่วโมงเรียน ทำให้เพื่อนอย่างอี้ฝานรู้สึกว่าเพื่อนผิดปกติและกำลังมีความลับต่อกัน เพราะรู้จักกันมานาน ปกติอี้ชิงกับเขาจะต้องไปเดินเที่ยวเล่นจนมือค่ำก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้าน วันนี้เขาต้องหาคำตอบจากเพื่อนให้ได้
"อี้ชิง จะรีบไปไหน"
อี้ฝานคว้าข้อมือเพื่อนได้ทันก่อนที่อีกคนจะวิ่งออกจากห้องเรียน
"กลับบ้านนะ"
"ทำไมเดียวนี้รีบกลับ มีอะไรหรือเปล่า"
อี้ชิงมีสีหน้าอึกอัก ก่อนส่ายหน้าตอบกลับ
"ไม่มีอะไร กลับก่อนนะ"
อี้ฝานยังคงไม่ปล่อยมือจากเพื่อน ถ้าวันนี้ไม่ได้คำตอบ อี้ฝานจะไม่ปล่อยอี้ชิงไปแน่
"หรือนายมีแฟน แล้วไม่บอกกัน"
อี้ฝานยังจ้องหน้าอี้ชิงเพื่อเอาคำตอบ

อี้ชิงถอนหายใจออกมา ถ้าไม่ตอบคำถามเพื่อนวันนี้คงไม่ได้กลับบ้านแน่ ก็คบกันมานานทำไมจะไม่รู้ว่าอีกคนเป็นอย่างไร
"กลับบ้านด้วยกันไหม"
ถ้าไม่พาไปด้วยคงได้ช้ากว่านี้แน่ อี้ชิงไม่อยากให้น้องต้องรอนาน

"พี่อี้ชิงงงง"
เสียงตะโกนเรียกชื่อที่ได้ยินทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน พร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งมาหาอ้อมกอดของเขา อี้ชิงหอมแก้มน้องซ้ายขวาเหมือนทุกวัน เสียงหัวเราะของจงแดยังคงทำให้เขายิ้มได้

จงแดหันไปมองพี่ชายอีกคนที่มากับพี่อี้ชิง พร้อมส่งยิ้มไปให้
อี้ฝานมองรอยยิ้มของเด็กน้อยตรงหน้า แล้วต้องยิ้มตามก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวน้อง แต่ต้องหยุดมือลงก่อน เมื่อหันไปเห็นสายตาอาฆาตของอี้ชิง ที่ไม่พูดก็รู้ว่าเกิดเขาแตะตัวน้องได้ถูกฆ่าตายแน่
"ชื่ออะไรครับ พี่ชื่ออี้ฝานนะ"
"คิม จงแดครับ เรียกเฉินก็ได้ เพื่อนที่โรงเรียนก็เรียกชื่อนี้ครับ"
จงแดส่งยิ้มให้อีกครั้ง

"จงแดมารอนานยังครับ หิวไหม"
อี้ชิงถามน้องทันที เพราะไม่อยากให้น้องส่งยิ้มให้อี้ฝาน จงแดหันกลับมาให้ความสนใจพี่ชายทันที เสียงจงแดยังคงพูดเล่าเรื่องที่โรงเรียนไม่หยุด อี้ชิงพยักหน้ารับฟังพร้อมกับรอยยิ้ม อี้ฝานมองการกระทำของเพื่อน ถ้าไม่มาเห็นเองกับตาคงไม่เชื่อ ตอนนี้เขารู้สึกว่าอี้ชิงคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนแปลกหน้า แค่เวลาไม่กี่นาที เขาเห็นอี้ชิงยิ้มเยอะกว่าที่เขารู้จักกันมา15ปีเสียอีก เด็กน้อยคิมจงแดมีเวทมนต์หรือไงกัน คุณชายอี้ชิงที่เย็นชาและเกลียดเด็กเป็นที่สุดถึงกลายเป็นพี่ชายที่อบอุ่นได้ขนาดนี้
"พี่อี้ฝานเป็นเพื่อนพี่อี้ชิงเหรอครับ"
"ใช่ครับ"
อี้ฝานตอบกลับน้อง ตอนนี้อี้ฝานพอจะรู้คำตอบแล้วทำไมเพื่อนเขาถึงได้หลงเด็กคนนี้ แค่รอยยิ้มที่ส่งมาก็ทำให้คนที่มองต้องยิ้มตามแล้ว

"จงแดกินเค้กเลยไหมครับ"
อี้ชิงกำลังรู้สึกหวงรอยยิ้มของน้อง แค่น้องส่งยิ้มให้อี้ฝานเขาก็รู้สึกหงุดหงิด

อี้ฝานส่ายหน้าให้กับความขี้หวงของเพื่อน พอจะรู้ว่าอี้ชิงเป็นคนหวงของมาก ขนาดตอนนี้แทบจะรวมร่างกับน้องอยู่แล้ว อี้ฝานนั่งมองภาพจงแดนั่งตักอี้ชิงกินเค้ก มีบางครั้งที่ตักเค้กป้อนอี้ชิง คนที่เกลียดเด็กพอๆกับของหวานคนนั้น คนที่เขารู้จักตั้งแต่จำความได้ อี้ชิงคนนั้นคือคนที่อยู่ตรงหน้าอี้ฝานตอนนี้จริงๆหรือ ถ้าไม่ตามมาด้วยกันคงไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหตุผลที่เพื่อนรีบกลับบ้านเร็ว อี้ฝานถอนหายใจอีกครั้ง เหมือนกำลังรู้สึกหมดความสำคัญเลยนะอี้ฝาน

Continue Reading

You'll Also Like

65.5K 1.8K 11
ผมฆ่าพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง แถมยังขายตัวกับลูกค้าไม่เลือกหน้าเพื่อหาเงินส่งค่าเทอมให้น้องชายซึ่งเรามีอะไรกันอย่างที่พี่น้องคลานตามกันมาไม่ควรจะทำ
33.2K 1K 18
หนึ่งบรรณาการ หนึ่งราชันย์ ออร์ม องค์ชายที่ถูกลืมจากเมืองขึ้น ต้องกลายเป็นเครื่องบรรณาการมีชีวิตที่ถูกส่งมาเสกสมรสทางการเมือง กับราชาแห่งเจ็ดคาบสมุทร...
25.9K 391 18
ฉันแค่ทำตามหน้าที่อย่าลืมสิว่าเราไม่ได้รักกัน
186K 304 9
☁ คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก ☁