If : stucky & stony

rtikan द्वारा

6K 86 66

ถ้าชั้นเลือกใครได้สักคน अधिक

If : bucky
If : Steve
If : Tony
If i can do : Stony
If we were : Tony x Steve x Bucky
Even if : stucky

If i can dream : Stucky

602 10 7
rtikan द्वारा



If i can dream : Stucky

05.10.16



..



ผมเคยคิดว่าผมจะสามารถฝันถึงอะไรได้บ้าง

ผมมีสิทธิ์ฝันถึงอะไรได้บ้างที่จะทำให้ใจไม่เจ็บและไม่คาดหวังจนเกินไป


ถ้าผมฝันว่าอยากให้โลกนี้สงบสุขก็คงเป็นความหวังที่มากเกินไป เพราะมันอาจจะเป็นผมที่ทำลายมันเสียเอง


ถ้างั้นผมขอฝันว่า ขอให้ผมมีช่วงเวลาเงียบๆที่ผมเป็นของตัวผมจริงๆ ขอให้ผมพบความสงบเล็กๆที่ไม่ต้องใหญ่มาก ขอให้ผมจำได้ทุกเรื่องราวที่ทำลงไป และขอแค่ลูกพลัมสักหนึ่งหรือสองลูกปลอบใจก็พอ


แค่นั้น.. จะได้มั้ย


จะได้มั้ยนะ..



..



มันมากกว่าที่คิดไว้ มากกว่าที่คิดไว้ไปไกลโข บัคกี้กัดปากตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า บีบมือตัวเองหลายต่อหลายครั้งหลังจากที่ขึ้นเครื่องบินมากับสตีฟ


ชายหนุ่มผมทองอยู่ในชุดกัปตันอเมริกาน่าเกรงขาม บัคกี้มองภาพนั้นที่สตีฟนั่งอยู่ตรงที่คนขับเครื่องบินไม่วางตา เขาต่างจากเมื่อก่อนชัดเจน แต่มันก็เเค่ภายนอก ในความทรงจำที่ฝังลึก สตีฟยังคงเป็นสตีฟ นิสัยที่ตรงไปตรงมาค่อนข้างเเข็งทื่อไปในบางครั้งเคยเป็นเช่นใดก็เป็นเช่นนั้น


'ไม่ว่ายังไง ชั้นจะเคียงข้างนายไปจนสุดทาง'


คำนั้นเหมือนเป็นคำสัญญาระหว่างเรา บัคกี้เริ่มแยกไม่ออกว่ามันเป็นพันธนาการหรือว่าเเค่คำสัญญากันแน่ แต่ที่แน่ๆ เขาไม่อยากให้สตีฟเลือกทางนี้เพียงเพราะจำต้องทำตามสัญญาบ้าๆนั่น ยิ่งในตอนนี้ที่เรื่องมันยุ่งไปกันใหญ่ มีหลายคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง มีหลายคนที่เดือดร้อน


จริงๆสตีฟไม่จำเป็นต้องเลือกทางนี้เลยด้วยซ้ำ


บัคกี้ที่นั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังหลุบตาต่ำ มือมันชื้นและจับกันแน่นไปหมด ไม่อยากคิดหรอกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา สตีฟก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ ไม่ต้องสู้กับโทนี่ ไม่ต้องแยกจากเพื่อน ไม่ต้องทำร้ายใคร ไม่ต้องถูกตามจับ ไม่ต้องสารพัด ความจริงที่สุดคือไม่ต้องเดือดร้อนอีก


มั่นใจว่ามันเป็นเพราะตัวเองทั้งหมด เป็นเพราะเขาทั้งหมดที่มันทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่โต โรดี้ถูกยิงตกไปเมื่อกี๊ ไม่รู้จะเป็นยังไง พวกเขาทิ้งทุกคนมา และแน่ล่ะ บัคกี้โทษว่ามันเป็นความผิดของเขาคนเดียว..


"พ..เพื่อนของนายล่ะ"


พยายามอย่างที่สุดที่จะถามออกไป สายตาสตีฟมองตรงไปและไม่มองหันกลับไปแม้แต่น้อย เขามาดมั่นและไม่มีความลังเลที่จะตอบ


"ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงชั้นพร้อมยอมรับ"


ในหัวใจคนฟังมันบีบคั้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น บอกไม่ได้และให้สตีฟรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าน้ำตามันรื้นขึ้นมาจนเอ่อล้น


เขาที่กำลังมองไปข้างหน้า ไม่ย้อนกลับหลัง บัคกี้ไม่รู้ว่าความหมายที่สตีฟไม่หันกลับไปจะใช่เพราะเขากลัวเขาลังเลว่าถ้าหันกลับไปเขาจะไม่สามารถหันกลับมาได้อีกหรือไม่ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความจริงที่ว่า ตอนนี้สตีฟได้เลือกแล้ว เลือกบัคกี้มากกว่าหน้าที่กัปตันอเมริกาของเพื่อนๆในกลุ่ม


มันจะดีใจก็ดีใจไม่สุด มันจะใช้คำว่ามีความสุขก็ไม่ได้ แต่ว่ามันจะใช้คำว่ามีความทุกข์ก็ไม่เชิง ความรู้สึกล้านแปดผสมปนเปกันไปหมด ราวกับว่ามันปั่นรวมกันจนแยกไม่ออก บัคกี้ไม่คิดว่าตัวเองจะมีค่าขนาดนั้น ขนาดที่สตีฟต้องแลกกับอะไรหลายอย่างขนาดนี้


ดวงตาสีฟ้าใสบัดนี้มันมีน้ำคลอ เอ่อล้นจนแทบจะร่วงหล่น เขาเงยหน้าหนึ่งครั้งเพื่อบังคับให้มันหายไป กลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเพราะลำคอแห้งผากไปหมด


ในหัวสงสัยอยู่เพียงอย่างเดียว

บัคกี้อยากรู้แค่เพียงสิ่งเดียว..



"เลือกชั้นมันคุ้มหรอ สตีฟ.."



..



หลังจากที่ชายหนุ่มผมทองปรับเปลี่ยนระบบการบินเป็นขับเคลื่อนอัตโนมัติสู่ที่หมายที่ได้ตั้งพิกัดไว้ชัดเจน สตีฟโรเจอร์สูดหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง สายตายังคงจ้องไปไกล ถึงแม้ว่าหัวใจจะกองอยู่ข้างหลังพร้อมอีกคน


คำบางคำของบัคกี้ยังดังก้องอยู่ในหัวชัดเจน มันคือบทสนทนาเมื่อครู่ที่สร้างความเงียบระหว่างเรา เพราะความรู้สึกผิดของบัคกี้ยังวนเวียนอยู่รอบตัวไม่หายไป เพราะมันไม่มีวันหายไปแม้ว่าสตีฟจะพยายามเข้าใจและพยายามปลอบประโลมขนาดไหนก็ตาม


มือหนายังคงกุมคันบังคับไว้ทั้งที่ไม่จำเป็นแล้ว

เพราะจริงๆสตีฟกำลังคิดว่าเขามีสิทธิ์จะกลับไปกุมมืออีกคนข้างหลังขนาดไหนกัน


'หลายปีที่ผ่านมามันไม่ใช่นาย นายไม่มีสิทธิ์เลือก'


สตีฟคิดเช่นนั้นเขาจึงพูดมันออกไป ชายหนุ่มเชื่อและมีความมั่นใจในตัวของอีกคนมากกว่าใคร บางทีเขาอาจจะเป็นคนเดียวในโลกที่คิดแบบนี้ แต่มันไม่ใช่สำหรับบัคกี้แม้สตีฟที่รักจะบอกว่าเขาเชื่อมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเติมความมั่นใจของบัคกี้ต่อตัวเองให้เต็มได้เลย


เพราะบัคกี้ไม่มีความเชื่อเลยสักนิด เพราะบัคกี้มีแต่ความกลัวต่อเครื่องมือสังหารภายในอย่างที่สุด

เขายิ้มเย้ยหยันให้มันก่อนจะตอบอย่างหมดท่ากลับมา


'แต่นั่นก็เป็นชั้น'


นั่นแหละประเด็น ไม่ว่าบัคกี้รู้ตัวหรือไม่ ไม่ว่ามันจะเป็นบัคกี้คนไหน เจมส์บูคานันบาร์นหรือว่าวินเทอร์โซลเยอร์ เขาไม่สามารถหนีความจริงที่ว่าทั้งสองคนนั้นเป็นตัวเขาทั้งคู่ได้เลย บัคกี้ไม่สามารถโทษใครได้ เขาแบกรับทุกอย่างไว้ และเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว


หัวใจของสตีฟมันบีบคั้น มันเจ็บและหน่วงเกินกว่าจะนั่งอยู่เฉยๆ เขาก็หันเก้าอี้กลับมาหาอีกคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง สูดหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วในใจเขาไม่ว่าจะยังไง


ต่อให้เป็นบัคกี้คนไหนแล้วจะยังไง..


"ชั้นไม่อยากเสียใจที่เสียนายไปอีก ไม่ว่ายังไงชั้นก็จะไม่ปล่อยให้นายไปคนเดียว"


เพราะสตีฟมั่นใจในทางของเขา แต่เพราะเราตามใจใครไม่ได้ทุกคน ถ้าต้องเลือกก็คือต้องเลือก และตอนนี้สตีฟโรเจอร์ก็แค่เลือกแล้ว เลือกที่จะเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในตัวคู่หูเพื่อนรัก คนรัก คนสุดท้ายที่รักแสนรัก คนสุดท้ายที่เหลืออยู่


"นายจะไม่ตัวคนเดียวอีก บัคกี้.. ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าจะเป็นนายคนไหน จำไว้ว่าชั้นจะเคียงข้างนายจนสุดทาง"


"..."

คนฟังหลุบใบหน้าต่ำ ริมฝีปากขบเม้มจนขึ้นสี ดูก็รู้ว่าบัคกี้ยังคงไม่มั่นใจเหมือนเคย บัคกี้กลายเป็นคนที่ลังเล กลายเป็นคนที่เปราะบาง กลายเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจต่ออะไรทั้งสิ้น สตีฟไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่เพราะเขารู้ดีว่าทุกอย่างที่บัคกี้เจอ มันโหดร้ายเกินกว่าจะเป็นคนเดิม


การที่นายไม่แตกสลายไประหว่างทาง ชั้นก็ไม่รู้จะขอบคุณอะไรดีแล้วที่มันยังเหลือความเมตตาอันน้อยนิดแก่เรา..


สตีฟขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ช้อนสายตาขึ้นมองอีกคนที่เอาแต่จะหลบหน้ากัน


"เราสัญญากันเเล้ว อย่าบอกว่าจำไม่ได้นะ"


"จ..จำได้ แค่ไม่อยากให้มันผูกมัดนาย"


ในดวงตาสีฟ้าใส รู้เลยว่าบัคกี้สับสน และเขากำลังโทษตัวเองอยู่เต็มประตู ดูจากมือที่กำลังพันกันแน่นก็รู้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นเเล้ว สตีฟจะใจร้ายไม่เอื้อมมือไปจับมือของอีกคนให้คลายกังวลได้อย่างไร


ก็เขาออกจะเป็นห่วงอีกคนขนาดนี้..


"มันไม่ได้ผูกมัดชั้น แต่ถ้ามันใช่.. ชั้นเต็มใจ.."


ดวงตาสีฟ้าไร้ที่ติของเขามักจะมั่นคงและส่องประกายถึงความหวังเสมอมา มันช่างตาจากดวงตาของชั้นที่ไร้แวว เป็นสีฟ้าซีดๆที่ไม่สวยงาม แต่นายจะรู้อะไรบ้างรึเปล่านะ สตีฟ.. บัคกี้ของนายน่ะ ชอบแววตานั้นที่สามารถเนรมิตรความเข้มแข็งให้เขาได้ทุกเมื่อ แม้ในยามที่ท้อแท้ที่สุด แม้ในยามที่มืดมนที่สุด แม้ในยามที่ทรมานที่สุดในห้องทดลอง


เพียงแต่หลับตา ชั้นก็สามารถเห็นมันได้จากที่ไกลๆ


"ขอบคุณนะ"


บัคกี้ยิ้มเศร้าๆกลับไป ไม่รู้ทำไมสตีฟถึงคิดว่ามันมีความอุ่นใจผสมอยู่ในนั้น บัคกี้หน้าขึ้นสีระเรื่อนิดๆ เเต่เพราะดวงตาของเขายังคงไร้แวว มันจึงแสนเศร้า ระหว่างเรามันจึงเจ็บปวด


เพราะกว่าจะอยู่ตรงนี้ สตีฟรู้ดีว่าเขาทิ้งอะไรเบื้องหลังไว้มากมาย ทิ้งเพื่อนทิ้งโทนี่ และบัคกี้ก็ยังคงเป็นบัคกี้ที่จิตใจดี จะให้ไม่คิดอะไรเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เเต่มันเป็นเพราะเขาเองนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว


สตีฟรู้ว่าเขาน่ะเห็นแก่ตัว

แต่บางความรู้สึก เขาก็อยากจะเห็นแก่ตัวบ้าง


"ไม่รู้ว่ามันถูกมั้ย แต่ชั้นคิดแค่ว่านายถูกทิ้งมาหลายครั้ง ถ้าชั้นเลือกนายแค่ครั้งนี้มันจะเป็นอะไรไป"


หัวใจมันเต็มตื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น


บัคกี้หันไปสบตาอีกคนในทันที ราวกับว่าสตีฟกำลังพูดกับเขาไร้เสียงว่า 'ชั้นเลือกคนทั้งโลกมาเยอะแล้ว ชั้นอยากเลือกนายบ้าง ชั้นอยากทำในสิ่งที่เป็นเรื่องของตัวเองบ้าง'


น้ำตาที่พยายามเก็บกักร่วงหล่นลงมาโดยไม่ขออนุญาติบัคกี้ผู้พยายามจะเข้มแข็งอย่างสุดกำลังเลยสักนิด สตีฟยิ้มก่อนจะยกปลายนิ้วขึ้นปาดมันพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ ราวกับว่าเขากำลังต่อว่าบัคกี้อยู่ว่า 'เจ้าคนขี้แยเอ๊ย' และน้อยหน้าที่ไหน เจ้าคนที่กำลังขี้มูกโป่งก็ทำหน้าตาขึงขังกลับไปเหมือนจะตอบไร้เสียงว่า 'ชั้นไม่ได้ขี้แยนะ!'


น่าแปลกเหลือเกินที่ไม่ต้องพูดอะไรสักคำก็เข้าใจกันหมด

นี่แหละมั้งมหัศจรรย์ระหว่างกันที่ไม่ว่ากาลเวลาผันผ่านไปเท่าไหร่มันก็ยังคงสัมฤทธิ์ผลเสมอ


เพียงเท่านั้นเองที่จะเป็นเหตุผลทั้งหมดให้บัคกี้โถมตัวของเขาเข้าไปหาอีกคนโดยไม่รั้งรออะไรอีก เจ้าของดวงตาสีฟ้าใสฝังหน้าและฝากอ้อมแขนของตัวเองไว้กับคนที่เป็นมากกว่าเพื่อน มากกว่าคู่หู มากกว่าคนรัก มากกว่าอะไรทั้งหมด


อุ่นจัง

อุ่นกว่าน้ำเเข็ง ตู่แช่ และเครื่องมือโลหะเยอะเลย


บัคกี้เคยคิดว่าเขาจะสามารถฝันถึงอะไรได้บ้าง เขาจะมีสิทธิ์ฝันถึงอะไรได้ที่จะทำให้ใจไม่เจ็บและไม่คาดหวังจนเกินไป


ถ้าเขาฝันว่าอยากให้โลกนี้สงบสุขก็คงเป็นความหวังที่มากเกินไป เพราะมันอาจจะเป็นเขาที่ทำลายมันเสียเอง เช่นนั้นเขาจะขอฝันว่า ขอให้มีช่วงเวลาเงียบๆที่เป็นของตัวเองจริงๆ ขอให้เขาได้พบความสงบเล็กๆที่ไม่ต้องใหญ่มาก ขอให้เขาจำได้ทุกเรื่องราวที่ทำลงไป และขอแค่ลูกพลัมสักหนึ่งหรือสองลูกปลอบใจก็พอ


จริงๆนะ บัคกี้เคยฝันไว้แค่นั้น ขอเพียงแค่ชีวิตได้พบเจอความสงบบ้างเป็นบางครั้งนั้นก็ถือว่ามันมหัศจรรย์และปาฎิหาริย์มากพอแล้ว


ส่วนลึกที่สุดของเขารู้ดีว่าเขามีเพื่อนที่สุดแสนวิเศษ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าความรักจะเลือกเขาเหมือนใครๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองได้รับสิทธิอันพิเศษนั้นเหมือนคนอื่นๆ เหมือนคนปกติ เหมือนคนธรรมดา.. 


ชีวิตเขาที่ผ่านการฆ่ามามากมาย ผ่านความวุ่นวายในโลกนี้มาร้อยแปด ผ่านความมืดมิดมาจนคิดไปว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถอยู่ในที่ๆแสงสว่างส่องถึงได้อีกแล้ว เขาอาศัยอยู่ในเงามานานเกินไป ความเป็นไปได้ที่ฝังหัวอยู่มีเพียงแค่แสงแดดจะส่องมาเพียงเวลาไม่นาน ก่อนที่มันจะผ่านไปและเงามืดจะกลับคืนมาดังเดิม


นั่นแหละทั้งหมดของชีวิตบัคกี้


ถ้าเปรียบกันตอนนี้มันเหมือนฝันแสนหวาน.. มีสตีฟ มีความรักมีความผูกพันธ์มีความอบอุ่น แสงเเดดกำลังส่องมาถึงเขาพอดี หัวใจมันกำลังเต้นระรัวและกำลังเริงระบำอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์และอ้อมกอดอุ่นๆ ลมพัดโชยมาเบาๆ เคล้ากับเสียงของสตีฟที่กำลังกระซิบข้างหู


"บัคกี้"



ไม่เคยดีใจที่ใครเรียกชื่อเท่านี้มาก่อน

ไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเร็วนัก



ถ้าผมสามารถฝันได้อีกนิด

ถ้าพระอาทิตย์จะเอ็นดูผมอีกสักหน่อย

ถ้าผมจะสามารถขอเวลาได้อีกเพียงเล็กน้อย..



ขอให้จูบนี้มันนานขึ้นได้มั้ยนะ



ขอแค่นี้

ถ้าผมสามารถขอได้..


ก่อนจะตื่น ก่อนจะหลับ และก่อนจะตาย..


แค่นี้เท่านั้น..


จะได้มั้ยนะ..



..

Tbc.

पढ़ना जारी रखें

आपको ये भी पसंदे आएँगी

6K 58 5
ผมไม่ได้ตั้งใจก็เห็นไฟมันสีม่วงแดงๆ และคิดว่ามันเป็นฝันเลยจับมันมากลืนลงคอ แล้วใครจะรู้ว่าไอแสงนั้นเป็นอีกครึ่งชีวิตของปีศาจกัน แล้วตอนนี้ ฮือ...
959 33 8
mostly lirik lagu dari soundtrack bl favorites. cr: google
4.9K 168 9
ี ี ลูกสาวคนรับใช้จะบังอาจไปรักลูกเจ้านายได้ยังไง เรื่องราวอีกมากมายที่จะทำให้ทุกคนอินและเสียวไปตามๆกัน อยากจะอินอยากจะเสียวกว่านี้เข้าไปอ่านได้เลยค่...