ตอนที่ฉีซิ่วหยวนเข้าไปในห้องผู้ป่วยของเซียวหลี่คน 5-6 คนที่กำลังคุยกันอยู่ก็พลันหุบปากฉับสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ช่อดอกไม้ในมือเขา
"นี่มัน..."
พอมองพวกเขาเหล่านั้นแล้วฉีซิ่วหยวนก็อดที่จะเอ่ยปากอธิบายไม่ได้
"ไม่ใช่ว่าคุณหมอบอกว่าคุณโดนวางยาหรอกเหรอ?แล้วสองสามวันนี้คุณต้องทานแต่อาหารที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ให้ผมก็เลยไม่ได้ซื้ออาหารมาด้วยน่ะสิ...."
ใบหน้าของสมาชิกแก๊งที่พากันซื้ออาหารมาถึงกับงอง้ำด้วยความไม่พอใจ
"คุณรู้ได้ยังไงว่าผมรักษาตัวอยู่ที่นี่?"
เซียวหลี่ถลึงตาจ้องฉีซิ่วหยวน
ฉีซิ่วหยวนนิ่งเงียบด้วยความงุนงงอยู่สักครู่ถึงได้เข้าใจความหมายในสายตานั้น เขาจึงระบายยิ้มเต็มหน้าก่อนตอบ
"แน่นอนว่าต้องมีคนบอกผมมาน่ะสิ"
หลังจากกล่าวจบเขาก็เดินไปวางช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะข้างเตียง
"อาจารย์ฉินคุณนี่โรแมนติกจังนะ!"
จู่ๆฮั่นเจี่ยก็พูดขึ้น
"แต่คุณดูเกรงใจขนาดนี้ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรให้เซียวหลี่รับใช้เหรอครับ?"
ฉีซิ่วหยวนไม่แม้แต่จะหันไปมองเขา
"ผมแซ่ฉี"
"อย่ามาหลอกกันเลยน่า คุณแซ่ฉินเป็นฉินผู้เหี้ยมโหดไม่ใช่เหรอ?[1]"
ฮั่นเจี่ยยิ้มหยันก่อนจะอ้าปากหัวเราะร่วน
เหล่าสมาชิกแก๊งค์ที่ได้ยินก็พลอยหัวเราะร่วมจนเสียงดังลั่นห้อง
"พอได้แล้ว ไปทำสิ่งที่ต้องทำเถอะเดี๋ยวฉันจะคุยกับอาจารย์ฉีสักหน่อย"
พอเซียวหลี่เอ่ยปาก เหล่าสมาชิกแก๊งค์ก็เข้ามากล่าวลาทีละคนแล้วเดินจากไปคนสุดท้ายที่เดินออกจากห้องก็คือฮั่นเจี่ย ก่อนเดินออกไปก็ยังหันมามองฉีซิ่วหยวนด้วยสายตาสื่อความนัยจากนั้นจึงค่อยเดินออกจากห้องอย่างไม่รีบร้อนใดๆ
ฉีซิ่วหยวนผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะนั่งลงข้างเตียงของเซียวหลี่
"อาจารย์ฉีที่คุณช่วยผมเมื่อวาน ยิ่งคนรู้น้อย ก็ยิ่งดีนะครับ"
เซียวหลี่เอ่ยขึ้น
"เดี๋ยวผมจะบอกฮั่นเจี่ยให้จัดการ..."
"ที่จริงผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ"
ฉีซิ่วหยวนมองเขาแล้วหัวเราะเบาๆ
"ทำไมคุณถึงทำท่าเกรงใจเกรงใจผมมอีกแล้วล่ะ?"
เซี่ยวหลี่ยังแสดงท่าทางขึงขัง
"อาจารย์ฉีช่วยชีวิตผมแล้วยังดูแลอย่างดีผมรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ ตามกฎของพวกเรา ต่อไปแค่คุณเอ่ยมาเพียงคำเดียวชีวิตของเซียวหลี่ก็จะมอบให้เป็นการตอบแทนครับ"
ฉีซิ่วหยวนจ้องเขาอย่างสนใจก่อนจะกล่าว
"ผมเป็นครูสอนหนังสือ จะเอาชีวิตคุณไปทำไม?"
เซียวหลี่ได้แต่จ้องมองเขาด้วยความอ้ำอึ้ง
ฉีซิ่วหยวนเห็นท่าทางแบบนั้นของเซียวหลี่แล้วก็รู้สึกมีความสุข
"ผมช่วยคุณเพราะผมชื่นชมและอยากเป็นเพื่อนกับคุณถ้าคุณคิดว่าผมก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของคุณเหมือนกัน ก็อย่ามาเกรงอกเกรงใจกันแบบนี้เลยคิดว่ายังไง?"
เซียวหลี่นิ่งเงียบหัวคิ้วขมวดจนเป็นปม
ฉีซิ่วหยวนรออยู่สักพักไม่เห็นเขาตอบถึงได้พูดต่อ
"คุณไม่เชื่อว่าผมคิดว่าคุณเป็นเพื่อนงั้นเหรอ?"
เซี่ยวหลี่มองหน้าเขาอย่างครุ่นคิดในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา
"ตอนผมอายุ 15ปีก็ได้มาเป็นนักเลงข้างถนนแล้ว ผมไม่มีทั้งการศึกษา ความรู้ ความเชี่ยวชาญอะไรเลยจะมีคนมาชื่นชมผมได้ยังไงกันครับ?"
ฉีซิ่วหยวนหัวเราะเบาๆ
"แล้วถ้าผมบอกว่า ที่ผมเชิญคุณไปทานข้าวด้วยกันที่ร้านหว่างเจียงฉาโหลวในตอนนั้นก็ง่ายๆเลยว่าเพราะผมอยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ คุณยังจะไม่เชื่อผมอีกเหรอ?"
เซียวหลี่เองก็ยังหลุดหัวเราะ
"อาจารย์ฉี ถ้าคุณเป็นผมคุณจะเชื่อรึเปล่าล่ะครับ?"
ฉีซิ่วหยวนก้มหน้าลงแล้วครุ่นคิดอยู่สักพัก
"ตอนคุณอายุ 15ก็เป็นนักเลงแล้ว ตอนผมอายุ 15 ผมยังอยู่กับครอบครัวที่เมืองเฟิงหลงอยู่เลย"
ที่จริงแล้วเซียวหลี่ไม่รู้หรอกว่าที่ฉีซิ่วหยวนพูดนั้นหมายถึงอะไรจึงทำได้แต่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยเท่านั้น
ฉีซิ่วหยวนไม่ได้มองเขากลับแต่ยังคงเอ่ยปากพูดต่อ
"เมื่อนานมาแล้วที่เมืองเฟิงหลง มีแก๊งค์อยู่แก๊งค์หนึ่งชื่อว่า 'เฟิงหลง'คุณเคยได้ยินรึเปล่า?"
เซียวหลี่ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบ
"มีแก๊งค์ที่เคยก่อตั้งจากสมาชิกรุ่นเก่าคนหนึ่งผมเคยได้ยินมาว่าพวกเขาเปิดบ่อนคาสิโนที่นั่น ผู้นำแก๊งค์มีชื่อว่าพี่สามตาเดียว"
ฉีซิ่วหยวนหัวเราะแล้วพูดต่อ
"ต่อมาแก๊งค์เฟิงหลงก็ถูกกำจัดจนทำให้สมาชิกแก๊งค์ต่างดิ้นรนหลบหนีกระจัดกระจายกันไปแต่ผู้นำแก๊งค์เฟิงหลงกลับเป็นคนแรกที่ถูกจับกุมตัวมาได้ เขาติดคุก 20 ปี ตอนที่ถูกปล่อยตัวออกมาลูกชายของเขาก็แต่งงานจนมีลูกแล้วหนึ่งคน"
เขาเงยหน้าขึ้นมามองเซียวหลี่ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ
"เขาเป็นปู่ของผมเอง"
เซียวหลี่มองเขาด้วยความตกใจก่อนจะควานหาเสียงตัวเองเจอ
"มิน่าล่ะ คุณถึงดูไม่กลัวผมเลย"
ฉีซิ่วหยวนยังคงพูดต่อ
"ปู่ของผมท่านเป็นคนดีที่รักซูซูกับผมมากตอนท่านออกจากคุก ท่านก็เกือบจะ 50 แล้ว ตอนนั้นยังมีคนมาเยี่ยมท่านบ่อยๆส่วนหนึ่งก็เพื่อจะดึงท่านเข้าไปร่วมแก๊งค์นั่นแหละ แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ท่านจะยินดีเข้าร่วมยิ่งกว่านั้นท่านยังสุภาพกับคนพวกนั้นมากๆด้วย ท่านเคยบอกผมบ่อยๆว่า 'ทางที่พวกเขาเดินอาจจะแตกต่างจากทางของพวกเราแต่พวกเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรานั่นแหละ'"
เซียวหลี่นิ่งอึ้ง
สายตาของฉีซิ่วหยวนยังจับจ้องอยู่ที่เซียวหลี่ไม่ไปไหน
"ตอนนี้ ถ้าผมบอกว่าผมชื่นชมและอยากเป็นเพื่อนกับคุณ คุณยังจะเชื่อผมรึเปล่า?"
เซียวหลี่มองเขาในที่สุดก็เผยรอยยิ้มออกมา
ฉีซิ่วหยวนไม่เคยเห็นเขายิ้มแบบนี้มาก่อนเขาคิดได้แค่ว่าดวงตาที่เปล่งประกายสดใสของคนๆนั้นได้ก่อประกายไฟลุกโหมอยู่ในหัวใจของเขาแล้ว
จากนั้นเขาก็ได้ยินเซียวหลี่พูดขึ้นมาว่า
"ฉีซิ่วหยวน คุณเป็นคนน่าสนใจมาก"
--------------------------------------------------------
เจ้าของลิขสิทธิ์นิยายต้นฉบับ:Bai Shan Hei Shui
แปลภาษาอังกฤษ:Saehan01
แปลภาษาไทย:HOON
--------------------------------------------------------
Note:
[1] การออกเสียงตัวอักษรมีความคล้ายคลึงกันฉินในที่นี้มาจากพระนามของจักรพรรดิจีนคือ ฉินสื่อหวง หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้นั่นเอง พระองค์ถูกจดจำว่าเป็นจักรพรรดิที่ทรงเหี้ยมโหดฮั่นเจี่ยตั้งใจเรียกแซ่ผิดก็เพื่อกวนประสาทฉีซิ่วหยวนล้วนๆ