kookmin | อัยการที่รัก ♡ edit

By seeneun

14.7K 406 136

ผมอายุ 25 แล้วต้องมาปลอบตัวเป็นนักเรียนม.ปลายเนี้ยนะ ตลกเป็นบ้า! More

INTRO : ซวยเพราะอาถรรพ์
Ep 02 : ซวยเพราะปาก
Ep 03 : ซวยเพราะน่ารัก
Ep 04 : ซวยเพราะใคร (60%)

Ep 01 : ซวยเพราะเพื่อนใหม่

2.9K 88 19
By seeneun

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เสียงของผมไม่มีความหมาย

"ห๊า?! ให้ผมกลับไปเรียนมอปลายอีกครั้งเนี้ยนะ ไม่เอาด้วยหรอกครับ!" เป็นคำถามแรกที่ผุดในหัวของผมขณะที่กำลังใช้เสียงสูงปนไม่พอใจเอ่ยออกมา ผมใช้ตาตี่ๆของผมเองถลึงแบบที่คิดว่าโตที่สุดในชีวิตมองหน้าหัวหน้าอัยการใหญ่ที่มีสีหน้าเรียบเฉย

เขาเฉย...จนผมใจหาย

"อะไรนะปฏิเสธเหรอ?" เขาถามออกมาเสียงนิ่ง ไร้ซึ่งนัยยะในแววตา ชนิดที่ว่าต่อให้ผมเรียนจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยา​มหาวิทยาลัย Oxford ก็เดาความคิดเขาไม่ออก

"...." ผมเงียบ สิ่งเดียวที่ประท้วงคือคิ้วที่ขมวดแน่น เป็นแกนนำที่ยืนกรานกับสิ่งที่พูดไปตอนต้น

ไม่เอา

ไม่มีทาง

ไม่มีวั---

"นาย ปาร์คจีมิน ถ้ายังอยากเป็นอัยการอยู่ ก็ตามฉันไปที่ห้องแต่งตัว!"

และแล้วเหตุการณ์​ทุกอย่างก็ผ่านไปไวมาก เรียกได้ยังไม่ทันจะหายใจเข้าได้เต็มปอด และหายช็อคจากเสียงตะคอกดังของคนเป็นหัวหน้า ภารกิจที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่และหนักอึ้งในหัวใจมันก็ตกอยู่ในกำมือของผม แบบที่ผมแทบไม่รู้ตัว

แล้วผมจะปฏิเสธ​อะไรได้บ้างล่ะ? (แนบอิโมจิร้องไห้เป็นระยะทางจากแม่สายถึงเบตง)​ นอกจากคำนิยามใหม่ของชีวิตมาใหม่

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าลูกปืนที่เคยใช้ต่อสู้กับคนร้ายทุกวันตามหลักการเป็นอัยการ นั้นก็คือหัวหน้าอัยการใหญ่นี่แหละ

ผ่านมาสักพักและยืนยันคำเดิมว่าทำใจไม่ได้ยิ่งกว่าเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ผมที่ได้การใหญ่มาไว้ในอ้อมอกกำลังถูกรายล้อมด้วยผู้คนกลุ่มนึงที่กำลังจับนั่นนี่ของผมโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต​ว่าแย่แล้ว แต่สิ่งอ้วนๆกลมๆที่นั่งจุมปุกอยู่มุมกำแพงใกล้ๆน​ั้นแย่กว่า เข้าใจว่ามาเตรียมพร้อมงาน แต่นั่งกดดันผมแบบนี้ ผมว่ามันไม่น่ารักเอาเสียเลย

"คุณทำหน้าเหมือนจะขัดคำสั่งผม...คุณจะขัดคำสั่งผมเหรอไงปาร์คจีมิน"

จู่ๆอัยการใหญ่ก็เอ่ยเสียงดุๆใส่ นั้นอาจเป็นเพราะผมบังอาจหันไปสบตาเขาพอดีแล้วหน้าเสือกมีการขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เหมือนลูกน้องหัวรั้น แต่จริงๆคือผมโกรธและหงุดหงิด​เขา ทำหน้าไม่พอใจใส่ได้ก็จะทำ แต่จะทำตอนจังหวะเขาเผลอ ไปๆมาๆ ดันหลบตาไม่ทันแค่นั้นเอง

"ใครจะกล้าครับ"

ผมเอ่ยเสียงแข็ง ง็องแง็งในสายตากลุ่มคนส่วนหนึ่ง แล้วจัดการสวมสูทตัวนอกให้ถูกต้องตามยูนิฟอร์มของโรงเรียนที่บังชีฮยอกจัดการไว้ให้ ขนาดไซส์แม่น​เป๊ะกว่าตัวผมเองที่เดาไซส์ตัวเองไม่ค่อยจะถูก มีช่างทำผมเข้ามาหวีสางให้เส้นผมที่ถูกเซ็ตตัวเสยขึ้นเป็นอย่างดี ดีแบบโคตรพ่อโคตรแม่หล่อ ดีแบบที่ผมนั่งเซ็ตทุกวันตั้งแต่ตี4 และได้โดนพังทลาย​ลงมาปกปิดหน้าผาก

นอกจากสั่งให้ผมย้อมผมเป็นสีดำ จากตอนแรกหัวสีแสบกว่าสีประจำด้อมเอ็นสีถี เจ็บช้ำไม่พอใจ ยังบังคับให้ผมไว้หน้าม้าชนิดซีทรูอีก

เผด็จการ

ผมว่าเขาในใจ ก่อนที่เขาจะปรายตามามองผมอีกครั้งและทิ้งท้ายประโยคที่เจ็บแสบกว่าสีผมเก่ากูอีก

"เพราะกวนแบบนี้ไง ผลงานเลยไม่ค่อยจะมี"

โห แทบทรุด

เมื่อผู้เป็นอัยการใหญ่ทำตัวเป็นปืน ยิงคำพูดที่เหมือนกระสุนทะลุหัวใจผมอย่างจัง

บางที ฆาตกร ก็มาในรูปแบบของหมู

ถึงจะแค้นมาก แต่ก็นั่นแหละครับ อย่างที่เขาว่า...

ผมน่ะ เป็นอัยการมาสามปีแล้ว สามปีแห่งบทพิสูจน์​ว่าชีวิตก๊อกก๋อยแค่ไหน คดีใหญ่ไม่เคยแตะเหมือนชาวบ้านชาวช่อง เด็กจบใหม่ยังมีผลงานมากกว่าผมเลย แล้วผลงานใหญ่สุดก็คงเป็นจับตัวพ่อค้ายาในบ่อนพนันได้ แถมยังทำกับคู่กับทีมของตัวเอง นอกนั้นก็ไก่ก่าเหมือนตำรวจทั่วไป

แล้วสุดท้ายผมก็ได้รับคดีนี้ ถึงจะไม่ชอบใจอย่างไร แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่อัยการใหญ่อย่างบังชีฮยอกไม่มองข้ามหัวผมเหมือนสามปีก่อนๆ

"นี่ข้อมูลสำหรับนาย"

พอผมแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จแล้ว ไม่กล้าจะมองตัวเองในกระจกเท่าไหร่​ ช่างบอกดูดีและยิ้มด้วยความภูมิใจ​ในตัวเอง ผมก็เชื่อเขา วินาทีต่อมา อัยการใหญ่ก็โยนแฟ้มหนาๆมาหนึ่งเล่ม กระแทกอกพอดี พอผมเปิดดูด้วยความสงสัยว่าข้อมูลจากคดีอะไรที่ทำให้กูต้องมาเล่นบทย้อนวัย แล้วก็ผิดหวังรอบที่ร้อยของวัน ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเรื่องราวของคดี แต่มันไม่ใช่

"ประวัติส่วนตัว...ของผมเนี้ยนะ ทำไม?"

"นี่เป็นข้อมูลปลอมๆของนายปาร์คจีมิน เด็ก อายุ17ปีที่เขียนขึ้นไง ฉันจัดการกับผู้อำนวยการโรงเรียนแล้วเรียบร้อย นายจะเข้าไปในฐานะนักเรียนใหม่ของชั้นมอปลายปีที่ 2"

"!!!!"​

WTF!!!!!​

ปลอมเป็นเด็กอายุแค่ 17 เนี้ยนะ!

บ้า บ้าไปแล้ว??!!!

"อะไรอีก มีปัญหาหรือไง"

ก็ต้องมีอยู่แล้ว! อายุสิบเจ็ดเลยนะเว้ย กรี๊ด!

แล้วผมจะโตมาทำส้นตีนอะไรให้ได้อายุยี่สิบห้าเนี้ย โตมาเพื่อกลับไปเป็นเด็กเหรอ ไม่เข้าใจ อยู่ในภาวะรัวแป้น!!!!

"ว่าไงจีมิน...มีปัญหา?" คุณอัยการ​ใหญ่​ถามย้ำ เสียงแข็ง ตาแข็ง ทำไม คิดว่าผมไม่กล้าเหรอไง หึ!

"เปล่าครับ"

เออ ไอ้เวร ถามอยู่ได้ รู้ทั้งรู้ว่ากูไม่กล้า!

ผมแสดงสีหน้าขัดใจ ก่อนจะส่ายหน้าส่งไปแทน อัยการใหญ่ทำเพียงยักไหล่ไม่แคร์กันเลยแล้วเดินนำผมออกไปจากสำนักอัยการลับเพื่อขึ้นรถตู้ขององค์กร​ ผมเดินไหล่ตกและขึ้นรถไปพร้อมความเศร้าที่แน่นคับอกคับใจ ไม่รอช้ารถตู้ก็เคลื่อนออกไปยังจุดมุ่งหมาย​ทันที

แล้วผมก็เข้าใจทันทีว่าภารกิจเริ่มวันนี้

"หัดนั่งอ่านข้อมูล​ของนายซะบ้าง ศึกษา​ไว้หน่อย ไม่ใช่เอาแต่หน้าบึ้งไม่พอใจ รู้ไหมว่านายเนี้ย เวลาสั่งงานทีไรก็ชอบทำท่าปวกเปียก​ อ่อนแอ ลาออกไปขายขนมครกท่าจะดีกว่า" อัยการ​ใหญ่​บ่น บ่นเก่งกว่าแม่ ผมส่ายหน้า​ปฏิเสธ​ไปมา

"ผมทำขนมไทยไม่เป็นหรอกครับ"

แล้วก็โดนลมหายใจเฮือกใหญ่​ๆจู่โจมใส่หน้าอย่างจัง

ผิดอะไรอี๊ก

"เรื่องของนายแล้วล่ะ เหนื่อยใจจริงๆ" เขาว่า "ฟังให้ดีนะปาร์คจีมิน นี่คือภารกิจของนาย มีเด็กผู้ชายที่นายต้องตามหา เป็นลูกชายของอสังหาริมทรัพย์คนนึง หนึ่งในแก๊งพวกมาเฟีย​ผิดกฎหมาย​เหมือนเคย แต่คดีหนักหน่อย ฉันแค่อยากให้นายตามหาเด็กที่เป็นทายาทแก๊งมาเฟียคนนั้นให้เจอ สืบจนกว่าจะรู้ว่าใครคือคนบงการ หัวหน้าหลักของพวกมัน"

ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อฟังข้อมูล ปกติก็ทำแต่คดีเล็กๆ แต่พอมาเจอแก๊งมาเฟียแบบนี้มันก็...ทำเอาหัวใจเต้นตุบตับได้

แม่ครับ ถ้าผมรอดผมจะเลี้ยงพิซซ่าแม่ ผมสัญญา

"แล้วมีข้อมูล ลักษณะ​พิเศษ​ของเด็กคนนั้นหรือเปล่าครับ?" ผมถามเสียงจริงจัง

"แค่รอยสักสัญลักษญ์กางเขนประจำตระกูล​ไม่เหมือนไม้กางเขนทั่วไป ฉันเองก็รู้ไม่มากนักกับชั้นม.ปลายปี 2 นี่คือข้อมูลสำคัญที่สุด"

"คะ--แค่นี้เหรอครับ" ผมเบิกตากว้าง เลิกคิ้วอย่างตกใจ สาบานว่าไม่ได้ล้อเล่น อัยการนะไม่ใช่โคนัน รอยสักกางเขน?? คงไม่ได้บอกให้ผมไปถอดเสื้อกางเกงนักเรียนชายดูทุกคนถูกมั้ย?

"อืม ถึงแล้วขอให้โชคดีปาร์คจีมิน"

สิ้นเสียงคำสั่งลา ประตูรถตู้ก็เคลื่อนออกอัตโนมัติ เมื่อผมรู้ตัวว่าควรลงไปได้แล้ว ก็หยิบกระเป๋าสะพายข้างที่ในนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจาก ปากกา ก้าวเท้าลงจากรถก่อนจะหยิบป้ายชื่อมากลัดไว้ที่อก

มองรถที่เคลื่อนออกไปด้วยความเร็วสูงพร้อมถอนหายใจ ภารกิจเริ่มขึ้นแล้ว และยังไม่ได้หยุดหายตื่นเต้นเลยสักนาที แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คิดถึงตอนภารกิจเสี่ยงๆนี่สำเร็จ อาจจะได้เลื่อนยศกับเขาบ้าง หมายถึง​ถ้าไม่ตายไปก่อน

แล้วจู่ๆก็คิดเรื่องเศร้าๆขึ้นมา พลางเลื่อนสายตาไปมองที่หน้าโรงเรียน

มัธยมยอนฮวา

โรงเรียนมัธยมปลายชายล้วนชื่อดังของโซลนี่เอง...






〰️






"สวัสดีครับ ผมชื่อปาร์คจีมิน" หลังจากที่เดินงงในดงนักเรียนมาจนเกือบเข้าห้องผิด ผมก็ได้มายืนแนะนำตัวหลังจากครั้งสุดท้ายตอนเรียนมัธยมปลายปี1 ความรู้สึก​เดิมๆค่อยๆกลับมาแล้วผมไม่ชอบมันเสียเลย ตอนกวาดสายตาในขณะพูด เหล่าเด็กนักเรียนในห้องก็ต่างไม่สนใจตามประสา

บ้างก็นั่งคุยกันเสียงดัง

บ้างก็นั่งฟังเพลง

บ้างก็นั่งอ่านแต่หนังสือการ์ตูน

นี่แหละเด็ก สะท้อนภาพผมในช่วงอายุนั้นได้อย่างดีทีเดียว "ฝากตัวด้วยนะครับ"

แล้วดูจากหน้าตา ไม่มีใครสักคนพอจะดูเป็นไปได้

"ไปนั่งตรงที่ว่างข้างหน้าต่างตรงนั้นได้เลยนะ 'คิมแทฮยอง' อย่าเอาแต่แกล้งเพื่อนใหม่ละ"

คุณครูที่ปรึกษา​ของห้องเอ่ยเสียงนิ่ง ไม่ได้ยิ้มใจดีแบบภาพในหัว แล้วประโยคแรกเขาพูดกับผม แต่ประโยคหลังน่าจะพูดกับนักเรียนผมบลอนด์​ที่นั่งข้างโต๊ะว่าง ใบหน้าของเด็กคนนั้นเต็มไปด้วยบาดแผล บคคุลที่โดนเอ่ยนามสะดุ้งแล้วขมวดคิ้วใส่คนเป็นครู

นักรบ หรือ นักเลง

"เห็นผมเป็นคนยังไงกันครู ผมคิมแทฮยองคนดีของโลกใบนี้นะคร้าบบบบบบ"

ดีจริง

ถุ้ย

แค่หน้าตามึงก็ผิดระเบียบนักเรียนละ

ผมว่าเขาในใจ เดินไปนั่งที่ใหม่โดยมีสายตาของอีกคนจับจ้อง แทฮยองมองผมไม่เลิกเลย ซึ่งผมชักจะเกลียดรอยยิ้มลูกหมาของเด็กคนนี้เสียเหลือเกิน

เพราะว่ามันจะน่าเอ็นดู​มากกว่านี้ หากแววตาไม่ได้เหมือนสัตว์​อสรพิษ​สักชนิด

"ชื่ออะไรนะ" แทฮยองถามผมทันทีที่ก้นแตะเก้าอี้ ผมวางกระเป๋า​ไว้บนโต๊ะ ไม่พยายามสบสายตากับเขา

"ปาร์ค จีมิน" ผมว่าพึมพำ เหมือนไม่ใส่ใจนัก แม้นั่นจะเป็นการพยายามอย่างยิ่งยวด

"ชื่อเหมือนผู้หญิง"

กวน

"รู้" ผมตอบ

"จีมินอา จีมินนี่" ผมหันไปมองคิมแทฮยอง เด็กข้างกายที่เอาแต่เรียกชื่อผมซ้ำไปซ้ำมา "พอเรียกแบบนี้ก็เหมือนชื่อผู้หญิงเข้าไปใหญ่"

ผมกำมือ ยิ้มอดกลั้นความหงุดหงิด​ที่โลดแล่น​เต็มต่อมความรู้สึก​

ผมมาทำงาน มีภารกิจเสี่ยงตายว่าเครียดแล้ว เจอเด็กแบบนี้มันก็อดโมโหไม่ได้ อารมณ์​สวิงยิ่งกว่าผู้หญิง​มีประจำเดือน

"ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายหรือไงกัน?"

"เฮ้ๆๆ ไม่เอาหน่า" เชื่อเขาเลย นอกจากกวนส้นตีนยังทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว แทฮยองเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆผมโดยไม่สนใจครูที่กำลังสอน ผมแทบสะดุ้งเมื่อเขาเอานิ้วมาจิ้มที่ระหว่างคิ้วผมที่ขมวดเป็นปม

เออ เอาเข้าไปคิมแทฮยอง

อิเวรรรรรรรร

อิเด็กเวรรรรรรรร

"ทำไมต้องขมวดคิ้วละ ระวังหน้าแก่ไวนะ" เขาว่าแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง "เรามาเป็นเพื่อนกันไว้ดีกว่า จีมินนี่"

"จีมินก็พอ" ผมว่า "แล้วฉันไม่ต้องการมีเพื่อน ขอบคุณ​สำหรับน้ำใจมากๆ แค่นี้นะ อยากเรียนหนังสือ​จะแย่แล้ว"

ผมตัดปัญหา​ เพราะคิดว่าอย่างน้อยการเรียน​ตรงหน้าก็ยังดีกว่าพูดคุยกับแทฮยอง

"ถามจริงเถอะนะจีมินนี่ อายุเท่าไหร่กันเนี้ย ช่วยเลิกทำตัวเหมือนคนแก่ๆสักที"

"ฉันอายุเท่าไหร่​แล้วไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหน ในเมื่อฉันมาเรียนหนังสือ​ ฉันก็จะเรียนหนังสือ​" ผมว่าพลางละสายตาจากกระดานมามองสายตาอสรพิษ​ของเด็กตรงหน้า เอาเถอะ ไม่เรียนแม่งแล้ว รำคาญ​ "นายนั่นแหละ อายุเท่าไหร่เอง หัดตั้งใจเรียนหนังสือ​บ้างเถอะ"

"ฉัน 19 แล้วเถอะจีมินนี่แค่เข้าเรียนช้าปีนึง ซ้ำชั้นอีกปีนึง นายนะอายุเท่าไหร่กันมาสั่งสอนกัน หืม"

เด็กเวรนี่ อย่างน้อยๆฉันอายุมากกว่านาย 6 ปีแล้วกัน

แล้วทำไมต้องมาบอกความโง่เง่าของตัวเองด้วยเนี้ยไอ้เด็กแทฮยอง

"อ่าว เงียบแบบนี้แสดงว่าน้อยกว่าแน่ๆ น้องจีมินนี่"

"เออ กูแค่ 18 ดร็อปไปปีนึง มึงพอใจยัง"

เพราะเริ่มหมั่นไส้ เลยหลุดพูดคำหยาบกับเด็กเมื่อวานซืนออกไป ก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ถ้าไม่ติดว่าสืบคดีอยู่ก็จะลุกไปเตะปากไอ้หมอนี่อยู่เหมือนกัน

"ดร็อปไปทำไร? ค้ายาหรือติดคุก"

คือ...??? กูไม่ใช่มึงนะ

ตุ๊บ!

แต่ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยด่าอะไรเด็กไม่รู้จักคิดข้างๆนี้ไป เสียงเหมือนอะไรหนักๆกระทบลงมาตรงโต๊ะข้างหลังอย่างดังโดยฝีมือผู้มาใหม่

ผมเองก็เห็นมันเข้ามาแล้วล่ะ ตอนแรกนึกว่านักเรียนมาสายธรรมดา ด้วยความที่นึกคำด่าแทฮยองมันอยู่เลนไม่ได้สนใจนัก แต่ทำไมมึงต้องเข้ามาแล้วทำเสียงดังขนาดนี้ นั่งธรรมดาไม่ได้มันแล้วใช่เปล่า เรียกร้องความสนใจถูกมั้ย

ถ่อยดี เด็กสมัยนี้

"จอน จองกุกวันนี้สายอีกแล้วนะ" คุณครูที่ผมก็ไม่รู้ว่ามีบทบาทด้วยเหรอเอ่ยขึ้น ทำให้เพื่อนทั้งห้องต้องหันไปมองจองกุก เด็กหนุ่มตากลมโตที่นั่งตาใสอยู่ด้านหลังของผมนี่เอง "แต่งกายก็ผิดระเบียบ! ให้ตายเถอะเด็กนี่"

"แล้วไงครับ?"

ขนาดครูว่าร่างสูงก็ยังไม่ยี่หระ จองกุกพูดเสียงทุ้มแล้วเหยียดปากยิ้ม ยิ้มแบบยิ้มตอแหลอ่ะมึง แล้วแสดงกิริยาได้ว่ารำคาญสุดอะไรสุด

คิดว่าถ่อยแล้วเท่ไง๊!

ผมขมวดคิ้ว​ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าไปเสือกอะไรกับเด็กมันนัก

แต่อายุอานามผมมันมากแล้วน่ะครับ

เห็นอนาคตของชาติเป็นแบบนี้มันก็ปวดหัวใจ

คุณครูถอนหายใจเหมือนระอาเต็มทนกับเด็กตรงหน้า เป็นผมนะ ผมก็ระอา ถ้าอยู่ในฐานะอัยการจะเอากระสุนกรอกปากให้หายซ่าสักครั้ง

ว่าไปกูก็เก่งจัง

เก่งกับเด็กเนี้ย

สาบานได้เลยว่าไม่ชอบขี้หน้าเด็กนี่จริงๆ ขอด่าให้สะใจหน่อย ไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า หน้าตาก็เต็มไปด้วยแผลไม่ต่างกับแทฮยอง ในห้องนี้มันมีแต่เด็กแบบนี้เหรอเนี้ย

!!!!

แล้วผมก็สะดุ้งตัวโยน ใครจะคิดว่าจอนจองกุกผู้ที่โดนคุณครูลอยแพจะหันหน้ามาสบตาผมที่จ้องเขาอยู่ เชี่ย กูตกใจไง ดูสายตาแม่งดิ

อันธพาล!!

กรี๊ดดดดดดดดดด

"มองอะไรคะ?"

ห้ะ?

มองอะไรคะ?

คะกับกูทำไมคะ?

อะไรวะ?

และด้วยความที่ใช้ชีวิตมาหลายปียังไม่เจอคนหน้านักเลงมาพูดคะขาใส่ก็เลยพูดไม่ออก และเพราะยังอึ้งเลยไม่ทันจะตอบอะไร ก็มีเสียงทุ้มข้างผมเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน

"เฮ้ย! จองกุกเพื่อน นี่จีมินเพื่อนสนิทคนใหม่กูเอง วันนี้ไปนั่งแดกข้าวด้วยกันนะ!"

ห๊า

อะไรนะ???????

100%

Continue Reading

You'll Also Like

149K 2.6K 17
"เพราะโอเมก้าที่มาเป็นคู่แห่งโชคชะตา...จะกลายเป็นหัวใจของอัลฟ่าตลอดไป"
33.2K 1K 18
หนึ่งบรรณาการ หนึ่งราชันย์ ออร์ม องค์ชายที่ถูกลืมจากเมืองขึ้น ต้องกลายเป็นเครื่องบรรณาการมีชีวิตที่ถูกส่งมาเสกสมรสทางการเมือง กับราชาแห่งเจ็ดคาบสมุทร...
781K 5.6K 20
คลังฝึกเขียนฉากดอกไม้ของคุนมาย :) | ชงแล้วดื่ม ชงจนแก้วแตก | → kookmin
31.1K 556 34
ไม่อยากจะทำร้าย แต่เพราะต้องแก้แค้น เขาถึงต้องทำ แต่ทำไมทุกครั้งที่จะลงมือ เขาถึงทำมันไม่ได้สักที #กุกวีล่ารักทรชน