"ดีมากครับเด็กชายแซ่ลิ้ม"
ผ่านมาห้าวันแล้วแต่ระดับความสูงของน้ำยังคงเพิ่มขึ้นวันละนิดวันละหน่อย และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
ไข้ของเขาเองก็หายแล้ว แผลที่ถูกพันไว้ก็เริ่มแห้งและตกสะเก็ดบ้าง อากาศลดลงจากปกติ เนื่องจากน้ำทำให้อุณหภูมิเย็นลง นี่ก็สูงจนเกือบจะเท่าบันไดขั้นที่สามแล้ว เชื่อสิว่าถ้าเขาหายดีเขาจะลงไปเล่นน้ำแบบไอ้พวกที่ลอยตุ๊บป่องบนห่วงยางตอนนี้แน่ๆ
คิดๆไปก็นึกถึงวันที่เกิดเรื่อง หลังจากวันนั้นคุณลุงพ่อของพี่ชาญก็โทรมาถามอาการใหญ่เลย เพราะน้ำท่วมแบบนี้ไปโรงพยาบาลก็ลำบาก พี่ชาญเองก็ฝากมาขอโทษ บอกว่าปกติเขาปั่นสองล้อได้บ้างบางที แต่เขาเบรกสองล้อไม่เป็น ตอนปั่นสี่ล้อพี่เขาก็ใช้เท้าลาเบรกเอาเพราะสี่ล้อมันบังคับง่าย เขาก็เลยเออออห่อหมกไป
ป่านนี้อินจะตื่นหรือยังหว่า
"อินนนนนนนนนนนนน"
"ว่าไงป๋าย นี่ๆ อินอยู่ข้างล่าง" ดวงตาสวยมองหาต้นเสียง ก่อนจะยิ้มเผล่เมื่อเจอเพื่อนรักที่นอนลอยคอตุ๊บป่องบนห่วงยางตามชายหาดอยู่กลางถนนที่มีน้ำท่วมสูง "หายดีแล้วหรอ ลงมาเล่นไหม"
แง ป๋ายอยากเล่น ป๋ายจะเอาาาาาาา
"ยังหรอก" ฮื่อ แต่ในใจตอนนี้เขาอยากจะกระโดดลงไปเต็มทนแล้ว!
"อีกสองสามวันก็ลงมาเล่นได้แล้วน่า อย่าทำหน้ามุ่ยสิ" คนผิวแทนเปลี่ยนท่ามานั่งบนห่วงยางแทน กวักน้ำเล่นราวกับน้ำท่วมเป็นเรื่องสนุก "ป๋าย เปิดเรียนมานั่งรถโรงเรียนด้วยกันไหม สงสารพี่ตัวเองบ้าง มอปลายก็เรียนหนัก โรงเรียนก็อยู่คนละทิศกับน้องอีก ไปรถโรงเรียนกันๆ"
"อา...เดี๋ยวจะลองขอป๊าให้นะ"
"ดีมากครับเด็กชายแซ่ลิ้ม" คนตัวเล็กมองค้อนเพื่อนรักที่บังอาจเรียกฉายาประจำตัวเขาที่ครูทั้งโรงเรียนเรียกกัน "แนะๆ มีการหัวเสีย ครูทั้งโรงเรียนเขาเรียกกันจนลืมไปแล้วด้วยมั้งว่าชื่อจริงอะไร"
"ถ้าไม่หวงของป่านนี้ชามข้าวที่ป๋ายกินเมื่อเช้าจะลงไปที่หัวอินพอดีเป๊ะเลย มันต้องจ๊าบมากแน่ๆ" ชูนิ้วโป้งใส่เพื่อนรัก "โป้ง"
"เอ้า อินต้องเกี่ยวก้อยใช่มะถึงจะคุยกัน"
"หึ"
"หึเหอะอะไร เร็วๆ แซ่ลิ้มคุยกันดีๆ" ตาสวยหันมาถลึงใส่เพื่อนผิวเข้ม ก่อนจะหันหลังเดินปึงปังไม่สนใจคนที่นอนลอยคออยู่ "ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงเชียว กะว่าจะซื้อขนมจากที่เขาใส่เรือมาขายเมื่อวันก่อนให้--"
"อยากกินแย่เลย เหอะ"
"แสดงว่าไม่เอา"
"ขอสองมัดใหญ่ๆ" ร่างเล็กแลบลิ้นใส่เพื่อนผิวแทนที่ทำหน้าระอา "เลี้ยงนะ ไม่จ่าย"
"ชาติไหนมันจะผอมได้วะ"
"ง่ำๆ นี่นะเฮีย อันนี้ของเฮียสามห่อ ของม๊ากับป๊าคนละสี่ อีกเก้าห่อป๋ายจัดเอง ตอนนี้ของป๋ายเหลือแปดละ รวมในปากป๋ายนี่ก็เก้าพอดี อ่ะแค่กๆๆ น้ำๆ" พี่ชายคนโตของบ้านยื่นน้ำกรองเต็มแก้วให้น้องชายอย่างเหนื่อยใจ อยากจะทุบหลังไอ้แสบนี่ให้ดังอั่กซักทีแต่เดี๋ยวม๊าเทศน์ยาว "กินสิเฮีย เจ้านี้อร่อยมากนะ มะพร้าวอ่อนหอมมาก บดินทร์ชวนชิมนะบอกเลย!"
"ของฟรียังไงก็อร่อยใช่ไหมล่ะ" ผลักหัวน้องชายที่ทำท่าจะเข้ามาแย่งขนมจากกองของเขา "ของเฮียมีแค่นี้ยังจะแย่งอีก เอาไปให้หมดเลยไหม"
"ไม่เอาซี่ แค่จะเอื้อมมาจับดูเฉยๆว่าร้อนหรือเปล่าจะได้สลับกัน เพราะเฮียยังไม่กิน ถึงเอาอันร้อนๆให้ เฮียก็ทิ้งไว้ตั้งนานกว่าจะกิน ป๋ายก็เลยสร้างโครงการแลกเปลี่ยนขนมเพื่อชีวิตที่ดีกว่าขึ้นมา รับรองไม่มีใครเสียประโยชน์ และเฮียเองก็ตกลงที่จะเข้าร่วมโครงการแล้วด้วย" ร่างเล็กทำสีหน้าจริงจังเพราะเลียนแบบหน้าพระเอกจากในละครที่ยืนพูดหน้าเครียด แล้วตาลุงผมดำอายุสี่สิบปลายๆก็จะหลงเชื่อกัน "เชื่อป๋ายสิ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า"
"โตไปขายประกันคงรวยเละ" มือใหญ่ตะปบมือเล็กที่แอบลากขนมจากไปเงียบๆดังปั้บ "แต่ถ้าให้ดีแกต้องตาไวกว่านี้ ต้องเนียนกว่านี้ด้วย"
"รู้ทันตลอด ไม่น่ามีพี่สายตาดี"
"อย่างที่บอกว่าต้องหล่อด้วย เพอร์เฟ็กต์แมนแบบนี้หายากนะครับไม่ได้โม้" ยักคิ้วใส่น้อง อีกคนก็จ้องแต่ขนมจากในมือพี่ "ไม่ให้หรอก แบร่"
ก็ชิ้นที่ตัวขนมข้างในอ้วนที่สุดอยู่ที่มือพี่ชายเขานี่!
"เฮีย ป๋ายขอแลกไม่ได้หรอ ชิ้นนั้นมันอันใหญ่อะ เดี๋ยวเฮียมากินทีหลังโดนมดแทะหมด เหลืออันติ๊ดเดียวกินไม่คุ้ม นะเฮียน้าๆๆๆ"
"โกหกตกนรก ยิ่งอ้วนแบบนี้ต้องตกนรกก้นจ้ำเบ้าแน่ๆ"
"ฮึ่ย!"
วันนี้เป็นวันที่เขาดีใจที่สุด!
หลังจากที่เขานั่งมองผู้คนเล่นน้ำสีใสปนแดงขุ่นนี่มาราวสัปดาห์กว่าๆ ในที่สุดเขาก็จะได้ลงเล่นน้ำซักที
"ปลิงเพียบเลยนา ปลิงดูดเลือดด้วย ตะคงตะขาบก็มียั้วเยี้ยเลย วันก่อนเพิ่งมีเด็กซอยแปดโดนกิ้งกือกัดตายอีก เฮียไม่ช่วยนะบอกไว้ก่อน" เผิงป๋ายหันมาแยกเขี้ยวใส่พี่ชาย เขาไม่น่าเรียกเฮียมาอยู่เฝ้าตอนเล่นน้ำเลยให้ตายเถอะ
คิดแล้วก็ได้แต่มองสภาพตัวเองที่วันนี้มีแค่กางเกงเจเจสีส้มแป๊ดกับรองเท้าแตะกันลื่นพร้อมห่วงยางชายหาดอันใหญ่ ชั้นในเขาก็ดันมาเป็นสีขาวอีก นี่ม๊าคิดจะเล่นกับเขาใช่ไหม
"เฮีย ป๋ายไม่ใส่ชั้นในว่ายน้ำได้ไหมอะ มันสีขาว" คนตัวโตกว่าส่ายหน้าพรืด ลากแขนน้องขึ้นมาบนห้องเจ้าตัว ดันไหล่บางให้ลงไปนั่งกับที่นอนแล้วนั่งลงคุยกับน้อง
"ไม่มีใส่เปลี่ยนก็ห้ามลง" ร่างเล็กยู่หน้า ทำสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อถูกพี่ชายยัดเสื้อยืดใส่อยู่บ้านมาให้ "เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยมาเล่น มันไม่ได้เหมือนทะเลหรือสระว่ายน้ำที่แกอยากลงเมื่อไหร่ก็ลงได้นะป๋าย"
"อื้อ._."
"พูดรู้เรื่องแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ไม่ต้องห่วงว่าห่วงยางจะไปไหนหรอก เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บชั้นบนให้ เห็นป๊าบอกอยากได้เรือยาง คงจะหาทางไปซื้อมาให้เราเล่นจนได้แหละ เข้าใจไหม" มือใหญ่ลูบหัวน้องชายที่พยักหน้ารู้เรื่องแต่ทำหน้าเหมือนหมาหงอย ก่อนจะล้มลงนอนบนที่นอน ไม่ลืมลากตัวดื้อให้มานอนข้างๆกัน "นอนเล่นกัน เฮียไม่ได้มานอนห้องป๋ายนานแค่ไหนแล้วน้า"
"ตั้งแต่เฮียขึ้นมอสองเฮียก็ย้ายห้องออกไปแล้วอะ โปสเตอร์ดราก้อนบอลของเฮียยังไม่ได้แกะไปเลยเนี่ย ดิจิมอนนี่อีก" ลำแขนเรียวโอบรอบพี่ชาย "ตลับเทปที่กองตรงตะกร้านั่นด้วย"
"ฮ่าๆๆ เออน่า เดี๋ยวเฮียค่อยยกไป ก็มันไม่ว่างนี่หว่า"
"อายุสิบหกแต่เฮียทำตัวเหมือนป๊าเลยอะ แก่เกินไวไปเปล่า ไหนมาให้ป๋ายดูซิ" นิ้วเรียวเปลี่ยนมาจี้รอบเอวคนตัวใหญ่จนต้องหัวเราะลั่น เผิงป๋ายรู้ว่าพี่ชายของเขาบ้าจี้ระดับหนึ่ง "ต่อมหัวเราะทำงานได้ปกติ แสดงว่าเฮียต้องมีความผิดปกติที่สมองแน่เลย มาให้หมอดูสมองหน่อยสิครับ" ร่างบางเปลี่ยนเป้าหมายจากจี้เอวมาเป็นเล่นหัว โดยที่พี่ชายตัวดียังคงขำไม่หยุด "เฮียเส้นตื้นจังเลยอะ ฮ่าๆๆ อย่าจี้เอวป๋าย ไม่เอ๊าาา ไม่เล่นนนนนนนนนนนนน"
อย่างน้อยถึงไม่ได้เล่นน้ำ แต่ก็ได้พักผ่อนกับครอบครัวแล้วกันเนอะ : )
หนึ่งเดือนผ่านไปกับวิกฤตการณ์น้ำท่วม ตอนนี้น้ำลดลงแล้วล่ะ ลดไปอยู่ที่บันไดขั้นที่หนึ่งแทน
แต่ถามว่าเขาได้เล่นน้ำหรือยัง คำตอบคือไม่
หลังจากที่พวกเราเกือบทั้งประเทศเปื่อยกันมาจากเหตุน้ำท่วม ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะดีใจกันยกใหญ่ เริ่มออกมาทำความสะอาดบ้านบางส่วนที่น้ำลดจนเข้าไปไม่ถึงกันบ้างแล้ว รถราสามารถสัญจรได้บ้าง แต่ก็เฉพาะรถที่ยกสูงเท่านั้นแหละ รถเก๋งหรือรถมอเตอร์ไซค์บางคันก็ยังฝ่าน้ำไม่ได้อยู่ดี
รวมถึงจักรยานด้วยน่ะนะ
ตามปกติโรงเรียนต้องเปิดภาคเรียนที่สองตอนต้นเดือนนี้ แต่ม๊าบอกเขาว่าโรงเรียนเลื่อนเปิดไม่มีกำหนด รอให้น้ำแห้งลงก่อน ส่วนเรื่องที่เขาอยากนั่งรถโรงเรียนก็ไม่ขัด เพราะสุดท้ายรถโรงเรียนก็มาจอดหน้าบ้านอินอยู่ดี
"นี่ ผมซื้อข้าวผัดหมูมาฝากทุกคนคนละกล่อง เขาเข็นมาขายเมื่อเช้า เห็นลำบากก็เลยช่วยๆกันซื้อ อันนี้ของเราไม่ใส่แตงกวา ของป๊าพิเศษข้าว ส่วนอันนี้ของม๊าน้ำมันน้อย"
ถึงเฮียจะทำตัวกวนประสาทแค่ไหน แต่เฮียก็ยังคงเป็นเฮีย เป็นพี่ชายที่เอาใจใส่ทุกคนในบ้านเหมือนพ่อคนที่สองรองจากป๊า ก็นั่นแหละ
มีพี่ชายบางทีก็ไม่ได้แย่นะ
๑๐๐% loading complete!
- พจนานุกรม ความทรงจำในวัยเด็ก -
จ๊าบ(คำยอดฮิตในยุคนั้น) - เท่ เลิศ เยี่ยม อารมณ์คือมันโดน มันใช่(คำว่าจ๊าบนี่ยายเราพูดบ่อยมาก)
ขนมจาก - เป็นขนมไทยนะ ห่อด้วยใบจาก กลัดด้วยไม้กลัด ไส้ข้างในถ้าจำไม่ผิดจะมีมะพร้าวขูด แป้งมัน แป้งข้าวเหนียมดำ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำตาลปี๊บ อะไรแบบนี้(พูดแล้วก็หิว) อร่อยนะ อร่อยมาก ยิ่งปิ้งให้มีกลิ่นไหม้หอมๆนะอื้อหืม ทุกวันนี้ยังมีนะ แต่หายาก ในกรุงเทพต้องแถบชานเมืองถึงจะดีงามพระรามสี่